ห้องเม่าปีกเหล็ก

ส่องงบไตรมาส 3/65 บิ๊ก 5 อสังหาฯ เวลาของการเติบโตมาถึงแล้ว

โดย ลำหับ
เผยแพร่ :
283 views

ส่องงบไตรมาส 3/65 บิ๊ก 5 อสังหาฯ

เวลาของการเติบโตมาถึงแล้ว

.

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นหนึ่งกลุ่มหุ้นที่ได้รับความสนใจและความนิยมจากนักลงทุน ด้วยพื้นฐานของธุรกิจและศักยภาพการเติบโตที่มีการเปิดโครงการใหม่ขึ้นในทุกปี แต่อย่างที่ทราบกันดีว่าในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาจากสถานการณ์ COVID-19 ก็ได้ส่งผลกระทบให้การเปิดโครงการต้องชะลอและกำลังซื้อของลูกค้าที่เตรียมรับมอบในช่วงดังกล่าว

.

ซึ่งภาพรวมของเศรษฐกิจในปีนี้ที่เปลี่ยนแปลงก็อาจจะมีนักลงทุนตั้งข้อสงสัยและคำถามขึ้นว่าผลประกอบการของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์จะในทิศทางใด ในวันนี้ทาง Wealthy Thai จึงขอใช้โอกาสนี้พาผู้อ่านและนักลงทุนที่สนใจไปดูแนวโน้มกำไรสุทธิของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ 5 อันดับที่มีมาร์เก็ตแคปสูงสุด(ณ วันที่ 20 ต.ค. 65)

.

บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH ครองแชมป์มาร์เก็ตแคปสูงสุดหรือ 106, 352 ล้านบาท

โดยทางบทวิเคราะห์ของบล.โนมูระ คาดการณ์แนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 3/65 จะอยู่ที่ราว 1.9 พันล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน 47% แต่ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า 4% ถือว่าอยู่ในระดับดีตามยอดขายที่สูงและมียอดโอนต่อเนื่องของคอนโดมิเนียมใหม่ The Key Rama 3 มูลค่า 2 พันล้านบาท ในขณะที่รายได้ประจำคาดว่าดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนและจากไตรมาสก่อนหน้าภายหลัง COVID-19 คลี่คลายลง

.

หากกำไรปกติช่วง 9 เดือนแรกปี 65 เป็นไปตามที่คาดกำไรสุทธิทั้งปี 65 ที่ 8.28 พันล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 19% โดยแนวโน้มของกำไรสุทธิไตรมาส 4/65 จะเป็นไตรมาสที่สูงสุดของปีตามยอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ที่รอโอนมาก ซึ่งยังไม่รวมกำไรพิเศษจากการขายเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ที่สหรัฐฯในไตรมาส 4/ 65 ซึ่งน่าจะบันทึกเป็นกำไรพิเศษเข้ามาราว 1 พันล้านบาท

.

ดังนั้นจึงปรับมาใช้ราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 10.80 บาท แต่คงคำแนะนำ “ซื้อ” จากจุดเด่นของ LH ที่ยังมาจากลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะแนวราบกลุ่มกลาง-บน ที่กำลังซื้อยังแข็งแกร่งกว่ากลุ่ม ,กำไรสุทธิราว 35-40% มาจากส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมทำให้ลดความผันผวนจากการพึ่งพิงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงคาดผลตอบแทนจากอัตราเงินปันผลปี 65 และ66 ที่สูงถึง 6.9-7.4% มากกว่ากลุ่มฯ และส่วนนี้ยังไม่รวมกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์ในปี 65 – 66

.

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เบอร์สองมาร์เก็ตแคป 42,647 ล้านบาท

โดยบล.หยวนต้า คาดการณ์กำไรไตรมาส 3/65 จะเติบโตจากไตรมาสก่อนหน้า 1-9% และเติบโตไม่ต่ำกว่า 10%จากช่วงเดียวกันปีก่อน สาเหตุหลักเป็นผลมาจากการเติบโตของยอดโอนกรรมสิทธิ์โครงการแนวสูงจากยอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการ Supalai Veranda Ramkamhaeng มูลค่า 6.1พันล้านบาทต่อเนื่องจากช่วงปลายไตรมาส 2/65

.

ประกอบกับการเริ่มโอนโครงการแนวสูงสร้างเสร็จใหม่ 1 โครงการ คือ Supalai City Resort Charan 91 มูลค่า 2.1 พันล้านบาทและยอดโอนกรรมสิทธิ์โครงการแนวราบหนุนจากการรับรู้ยอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ ณ สิ้น ครึ่งปีแรกปี 65 มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท คาดรับรู้ในปีนี้ 8.0 พันล้านบาท

.

ดังนั้นคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมสิ้นปี 66 ที่ 26.50 บาท นอกจากนี้คาดว่าเงินปันผลงวดในช่วงครึ่งปีหลังปี 65 ที่ 0.74 บาท คิดเป็นอัตราเงินปันผลสูงถึง 3.9%

.

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP ถือตำแหน่งเบอร์ 3 มาร์เก็ตแคป 30,200 ล้านบาท

โดยวิเคราะห์บล.เอเซียพลัสให้แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/65 จะอยู่ที่ 1.34 พันล้านบาท หากไม่รวมกำไรขายที่ดิน คาดกำไรปกติ 1.27 พันล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า 19% แต่ยังเติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน 23% จากการโอนฯ 2 คอนโดมิเนียมร่วมทุนใหม่ ทำให้รับรู้ส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วม 354 ล้านบาท

.

ส่วนทิศทางกำไรไตรมาส 4/65 คาดยังโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่อาจทรงตัวหรือลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า จากค่าใช้จ่ายสูงขึ้นในการเปิดโครงการใหม่จำนวนมากในไตรมาสสุดท้ายของปี แต่เบื้องต้นคาดกำไรยังยืน 1 พันล้านบาทต่อเนื่อง และทำให้กำไรปี 2565 ที่คาดทำสถิติใหม่สูงสุดที่ 5.43 พันล้านบาท อาจมีอัพไซต์เพิ่มราว 5%

.

คงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมสิ้นปี 2566 ที่ 14.50 บาท จากจุดแข็งของพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแรง ภายใต้กลยุทธ์เปิดโครงการใหม่เชิงรุก เพื่อเพิ่มความหลากหลายและรองรับทุกระดับราคาในทุกกลุ่มสินค้า ขณะที่ราคาหุ้นมี PER ซื้อขายเพียง 5.6 เท่าปีนี้และเหลือ 5.3 เท่าปีหน้า เมื่อบวกกับคาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงกว่า 6% ต่อปี

.

มาร์เก็ตแคปเบอร์ 4 ของอสังหาริมทรัพย์บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH มูลค่ากว่า 26,262 ล้านบาท

โดยบทวิเคราะห์ของบล.โนมูระ คาดแนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 3/65 จะอยู่ที่ 850 ล้านบาท เติบโต 157% จากช่วงเดียวกันปีก่อนและเติบโต 98% จากไตรมาสก่อนหน้า ด้วยการโอนของคอนโดมิเนียม 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 9 พันล้านบาท เข้ามาและธุรกิจโรงพยาบาลคาดขาดทุนลดลง หลังเข้าไฮซีซั่นของธุรกิจโรงพยาบาล

.

ซึ่งถ้าหากกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกปี 65 เป็นไปตามที่คาดจะคิดเป็น 63% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ที่ 2.93 พันล้านบาทเติบโตจากปีก่อน 25% แต่อย่างไรก็ดีโอกาสดาวน์ไซต์ยังมีหากกลุ่มแนวราบยังมีตัวเลขยอดขายและยอดโอนต่ำกว่าเป้าอย่างที่เกิดขึ้นในช่วง 9เดือนแรกปี 65 ที่ผ่านมา

.

สำหรับคำแนะนำ “ขาย” ที่ราคาเป้าหมาย 9.50 บาท เนื่องจากมีความกังวลกลุ่มลูกค้าตลาดกลาง - ล่าง ที่ยอดขายและยอดโอนยังชะลอตัว ขณะเดียวกันการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้จะอ่อนไหวกว่ากลุ่มอื่น ประกอบกับแผนธุรกิจปี 65-66 ที่ยังไม่เห็นต่างไปจากเดิมทำให้โอกาสที่ PSH จะกลับมาดีเหมือนในอดีตยังเป็นไปได้ค่อนข้างยาก

.

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กับมาร์เก็ตแคปที่ 25,032 ล้านบาท

โดยบทวิเคราะห์ของบล.โนมูระ ประเมินแนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 3/65 จะอยู่ที่ 750 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกัน 6% แต่ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า 35% ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์เดิมจาก 2 คอนโดมิเนียมใหม่ มูลค่ารวม 7.6 พันล้านบาท ที่ไม่สามารถโอนได้ทันในไตรมาส แต่จะถูกชดเชยในไตรมาส 4/65 แทนและทำให้กำไรสุทธิปี 65 อยู่ที่ 3.7 พันล้านบาทเติบโตจากปีก่อน 15%

.

ดังนั้นคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 14.00 บาท โดยจุดเด่นมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 65 ที่จะทำสถิติใหม่สูงสุดได้ ตามยอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ที่รอโอนปีนี้มากกว่าปกติในขณะที่ปี 66 น่าจะเริ่มเห็นผลบวกจากการเข้าลงทุนในธุรกิจใหม่ เพื่อต่อยอด new S-Curve นอกเหนือจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทำให้กำไรสุทธิมีโอกาสโตจากปีก่อนต่อเนื่อง

 

 


ลำหับ