ห้องเม่าปีกเหล็ก

เปิด 3 ปัจจัยพลิกฟื้น “หุ้นเติบโต” มั่นใจยังไม่จบรอบ... ครึ่งปีหลัง “โอกาส” มากกว่า “ความเสี่ยง” !!!

โดย ฮ นกฮูก
เผยแพร่ :
76 views

เปิด 3 ปัจจัยพลิกฟื้น “หุ้นเติบโต” มั่นใจยังไม่จบรอบ... ครึ่งปีหลัง “โอกาส” มากกว่า “ความเสี่ยง” !!!

Fun of Funds: “หุ้นกลุ่มเติบโต” หรือ Growth Stock” ถือเป็นกลุ่มหุ้นที่ถูกนักลงทุนพูดถึงอย่างหนาหู ด้วยการปรับตัวของราคาหลักทรัพย์ที่ค่อนข้างแรงและยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ


หลังจากเจอของแสลงอย่าง “ดอกเบี้ยขาขึ้น” เข้าไปเต็มๆ ตลอดจนปัจจัยกดดันต่างๆ ไม่ว่าจะเริ่มตั้งแต่การทำ QE Tapering ,การใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ


ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ความกังวลของนักลงทุนเกิดขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาสูงอย่างร้อนแรงก่อนหน้าอย่าง Growth Stock” ที่นำมาโดยหุ้น ‘กลุ่มเทคโนโลยี’ เป็นหลัก


จนทำให้นักลงทุนหลายต่อหลายคนก็อดคิดไม่ได้ว่าการปรับลงในครั้งนี้จะไปสิ้นลงที่ใดและจังหวะไหนที่ควรจะเข้าไปลงทุนในกลุ่มดังกล่าวได้อีกครั้ง


ในวันนี้ทาง ‘Wealthy Thai’ จึงได้มีแนวโน้มของ “กลุ่มหุ้นเติบโต” และคำแนะนำการลงทุนที่น่าสนในมาฝากให้แก่ผู้อ่านและผู้ที่สนใจในครั้งนี้



ปี65 “ดอกเบี้ยขาขึ้น” ยังกดดันทิศทาง “หุ้นเติบโต” ให้ผันผวนต่อเนื่อง

ใครที่มี “หุ้นเติบโต” หรือ Growth Stock” ติดพอร์ตไว้ เชื่อว่า...ส่วนใหญ่ตัวเลขคงแดงเดือดไปตามๆ กัน ได้แต่มั่นใจในพื้นฐานของหุ้นตระกูลนี้ในระยะยาว ที่จะพาตัวเองตีตื้นฟื้นกลับขึ้นมาได้อีกครั้งเท่านั้นเอง


โดย “บดินทร์ พุทธอินทร์” ผู้อำนวยการส่วนกลยุทธ์การลงทุน TMBAM Eastspring ให้มุมมองว่า ภาวะของเศรษฐกิจในปัจจุบันเป็นช่วงปลายของเศรษฐกิจขาขึ้นทำให้หลังจากนี้จะเริ่มเข้าสู่ช่วงชะลอตัว ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่ก็จะเริ่มหมดความสนใจในการลงทุน “หุ้นกลุ่มเติบโต” และ “หุ้นคุณค่า” และมาโฟกัสใน “หุ้นกลุ่มคุณภาพ” มากขึ้น

“จึงประเมินว่า ‘หุ้นกลุ่มเติบโต’ ในปี 65 อาจจะเป็นปีที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก เนื่องจาก 3 ปัจจัยกดดันหลักอย่างธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ยังคงปรับเพิ่มขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง, ประเทศจีนที่ยังมีการล็อกดาวน์ประเทศ และธนาคารกลางยุโรปที่เริ่มส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน 7 ทำให้นโยบายดอกเบี้ยของยุโรปเป็นขาขึ้นในรอบ 7 ปี”



เปิด 3 ปัจจัยหนุน “หุ้นเติบโต”...มั่นใจยังไม่จบรอบ-พร้อมฟื้น “โอกาส” มากกว่า “ความเสี่ยง”

ด้วยนโยบายการเงินอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้นย่อมส่งผลให้ “หุ้นกลุ่มเติบโต” และ “หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี” ได้รับผลกระทบมากกว่าเดิม แต่ก็เชื่อว่ายังไม่หมดรอบของกลุ่มหุ้นดังกล่าว แม้ว่าอาจจะเห็นความผันผวนของราคาได้ในระหว่างทาง แต่ประเมินว่าราคาหุ้นก็จะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้


“ด้วยปัจจัยสนับสนุน 3 อย่าง ประกอบไปด้วย EPS ของกลุ่มหุ้นเติบโตที่ยังสามารถเติบโตได้ ยกตัวอย่างกลุ่มของ S&P 500 เราได้มีประมาณการว่าจะสามารถเติบโตได้ถึง 14% ขณะที่ระดับราคาของหุ้น(Value) หากมองย้อนหลังไป10ปี ก็ยังเป็นระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยจึงเป็นระดับที่ค่อนข้างถูกและน่าสนใจ”

และสุดท้ายปัจจัยพื้นฐานยอดขายและกำไรของกลุ่ม S&P 500 คาดว่ากลับมาเติบโตโดดเด่นในไตรมาส 3/65 จึงเป็นตัวช่วยให้หุ้นกลุ่มเติบโตกลับมาได้ จึงสรุปได้ว่าตั้งแต่ปัจจุบันถึงช่วงกลางไตรมาส 3/65 จะยังคงเห็นความผันผวนของราคาอยู่บ้าง แต่หากตลาดสามารถยืนได้หลังจากซึมซับข่าวร้ายไปเยอะแล้ว ก็ทำให้ราคาหุ้นกลุ่มเติบโตฟื้นตัวกลับมาได้เช่นกัน”


“จุดต่ำสุดของราคาหุ้นกลุ่มเติบโตเป็นอะไรที่ประเมินได้ยากโดยส่วนตัวแล้วก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้เช่นกัน แต่สิ่งหนึ่งที่บอกได้ก็คือการจะเห็นราคาหุ้นปรับตัวแรงๆ เหมือนในเดือนเมษายนคงเป็นไปได้ยากเพราะได้มีการรับรู้ข่าวร้ายไปค่อนข้างเยอะแล้ว จึงคิดว่า ‘โอกาสการลงทุน’ เปิดกว้างมากกว่า ‘ความเสี่ยง’ ที่จะเกิดขึ้น” นายบดินทร์ กล่าวทิ้งท้าย


ใครที่มี “หุ้นเติบโต” อยู่ในพอร์ตก็คงต้องรอตลาดฟื้นในอนาคต เพราะคงไม่ใช่จังหวะในการขายแล้ว ส่วนใครที่ยังไม่มีติดพอร์ต คงไม่ต้องรีบร้อนอะไร รอดูทิศทางตลาดให้ชัดเจนก่อนก็ได้ หลายเฮ้าส์มองตรงกันว่า...โอกาสการลงทุนน่าจะเริ่มเปิดในช่วงครึ่งปีหลัง เมื่อทิศทางดอกเบี้ยหาข้อยุติได้เจอแล้วนั่นเอง

 


ฮ นกฮูก