“ฟันโฟลด์” เป็นเหตุสังเกตได้ ดันหุ้นไทยปี 64 ทะยานอีก 100 จุด
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในปี 64 จะอยู่ที่ระดับ 1,540 จุด และ P/E จะเฉลี่ย 18.1 เนื่องจากจะมีกระแสเงินทุนจากต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง และในอนาคตมีโอกาสที่เป้าหมายดัชนีจะปรับเพิ่มขึ้นไปอีก จึงช่วยเพิ่ม Valuation ให้มากขึ้น จากการที่ฟื้นตัวขึ้นของฐานที่ต่ำในปี 63 โดยกลุ่มที่จะช่วยเป็นแรงขับเคลื่อน และหนุนตลาดคือกลุ่มพลังงาน และกลุ่มท่องเที่ยว
โดยกลุ่มพลังงานเป็นที่รู้กันว่ามีน้ำหนักต่อดัชนีมากน้อยแค่ไหน และการที่ในปี 64 กลุ่มพลังงานจะได้รับปัจจัยบวกกลับเข้ามาจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่จะเพิ่มขึ้นตามไปในทิศทางเดียวกับดีมานด์ โดยมองว่าราคาน้ำมันดิบมีโอกาสจะอยู่ที่ 50เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หรือมีโอกาสจะปรับเพิ่มได้มากขึ้นกว่านั้นก็เป็นไป ขณะที่กลุ่มท่องเที่ยว ได้รับผลดีจากการมาของวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 จะทำให้เกิดกิจกรรมการเดินทางและท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง
ขณะที่ EPS ของปี 64 จะอยู่ที่ระดับ 85 บาทต่อหุ้น โดยฝ่ายวิเคราะห์ใช้สมมติฐานกำไรต่อหุ้นทั้งในปี 64 และในปี 65 ไว้ที่ระดับใกล้เคียงกัน เนื่องจากการฟื้นตัวของฐานกำไรสุทธิที่ต่ำในปี 63 ทั้งนี้ฐานกำไรระดับดังกล่าวมีโอกาสจะปรับเพิ่มขึ้นตามดีมานด์การใช้นำมันทั่วโลก ซึ่งล้วนแล้วจะส่งผลบวกไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกัน
สำหรับปัจจัยบวก โดยส่วนใหญ่แล้วยังคงเป็นกระแสเงินทุนต่างชาติที่พยายามไหลเข้าตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง และการมาของวัคซีนที่จะช่วยให้กิจกรรมต่างๆทางเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้น สำหรับปัจจัยลบมองว่าขณะนี้ยังไม่เห็นปัจจัยลบที่จะเข้ามากระทบตลาดหุ้นไทย แต่ที่ประเมินไว้คือหากสถานการณ์กระแสเงินทุนจากต่างชาติเกิดสะดุดด้วยเหตุอะไรก็ตาม รวมถึงการล่าช้าของวัคซีนโควิด
โดยกลุ่มใหญ่ขณะนี้ที่ราคาตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันในปี 63 ที่แม้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นมาแล้ว แต่หากย้อนกลับไปดูตั้งแต่ต้นปรจนถึงปัจจุบันยังเป็นลบอยู่ ในปีหน้าหากกระแสเงินทุนต่างชาติยังไหลเข้าอยู่ก็จะช่วยผลักดันตลาดได้ โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์อย่าง KBANK รวมถึง KKP ที่จะให้อัตราผลตอบแทนในระดับสูงถึง 8% หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศปลดล็อคให้สามารถกลับมาจ่ายเงินปันผลได้อีกครั้ง
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก