ห้องเม่าปีกเหล็ก

วิเคราะห์อย่างไร ว่า"หุ้น"ถูกหรือแพง

โดย ฟ้าสาง
เผยแพร่ :
28 views

หุ้นเติบโต แพงไปหรือยัง?

มองให้ลึกกว่าค่า PE แล้วคุณจะเห็นโอกาสที่คนอื่นไม่กล้ามอง

เวลามีคนถามว่า “หุ้นตัวนี้แพงไหม?” คำตอบที่ดีอาจไม่ใช่แค่ดู PE อย่างเดียว แต่ต้องดูว่า “มันอยู่ในช่วงไหนของชีวิตธุรกิจ” และ “มันจะโตได้แค่ไหนอีก?” นี่ต่างหากคือจุดเริ่มของการมองหุ้นเติบโตให้ขาด

 

 

หุ้นเติบโตแบ่งเป็น 3 ช่วง

• ช่วงต้น (Early Growth)

บริษัทเพิ่งเริ่มโต อาจยังไม่มีกำไร หรือกำไรน้อยมาก ค่า PE จึงมัก “สูงเว่อร์” แบบ 100 เท่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะกำไรยังไม่มา

• ช่วงกลาง (Mid Growth)

เริ่มมีกำไรสม่ำเสมอ มีการขยายกิจการ เห็นการเติบโตต่อเนื่อง PE เริ่มลดลง เพราะกำไรโตตาม

• ช่วงปลาย (Late Growth)

ธุรกิจเริ่มเข้าสู่ระยะอิ่มตัว เติบโตช้าลง แต่มีความมั่นคงมากขึ้น จุดนี้แหละที่ PE เริ่มสะท้อน “ความคาดหวัง” ที่ลดลง

นักลงทุนบางคนใจร้อน เห็น PE สูงก็ตกใจหนี แต่ถ้าธุรกิจยังอยู่ในช่วงต้นของการเติบโต แล้วมีโอกาสโตอีกหลายเท่าในอีก 3-5 ปีข้างหน้า… บางทีที่คุณเรียกว่า “แพง” อาจคือ “ถูก” ก็ได้

 

..

แล้วจะประเมินยังไงดี?

• อย่าดูแค่ PE อย่างเดียวในช่วงแรกๆ

เพราะกำไรยังน้อย PE จึงไม่สะท้อนศักยภาพในอนาคต ให้มองไปที่ “Market Cap” ว่าอยู่ที่เท่าไหร่ แล้วลองคิดเล่นๆ ว่าในอีก 3 ปี ถ้าบริษัทมีกำไรเท่ากับบริษัทใหญ่ๆ วันนี้… Market Cap ควรเป็นเท่าไหร่?

• ลองใช้แนวคิด PEG (PE ÷ Growth)

ถ้า PEG < 1 แปลว่าน่าสนใจ เช่น PE 30 แต่โตปีละ 50% → PEG = 0.6 เท่านั้น

แต่ถ้า PEG > 1 มากๆ ก็ต้องระวังว่าเราอาจกำลัง Overpay

• คิดล่วงหน้า 3 ปี

ลองประเมินว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า EPS (กำไรต่อหุ้น) จะอยู่ที่เท่าไหร่ แล้ว PE ที่เหมาะสมของหุ้นนั้นควรอยู่ที่กี่เท่า เช่น 25x, 30x หรือมากกว่านั้น จากนั้นลองคำนวณว่า ถ้าถือหุ้นจากวันนี้ไปถึงตอนนั้น… เราจะได้ผลตอบแทนต่อปีเท่าไหร่? ถ้าเกิน 15–20% ต่อปี และเรามั่นใจในการเติบโต — ก็ถือว่าน่าสนใจ

มองหา “การเติบโตที่โดดเด่น” ไม่ใช่แค่โตธรรมดา

หุ้นเติบโตที่น่าสนใจจริงๆ มักมี “ตัวเร่ง” ที่ทำให้กำไรโตผิดปกติ (Exceptional Growth) เช่น:

• ยอดขายโตแรงมาก เพราะราคาขายเพิ่มขึ้น เช่น ค่าตั๋วเครื่องบินปรับขึ้น หรือบริษัทขายน้ำดื่มขึ้นราคา

• ต้นทุนลดฮวบ เช่น ค่าเสื่อมราคาหมดพอดี กำไรจึงกระโดดขึ้น

• เกิด Economy of Scale — ยิ่งขยายสาขา ยิ่งกำไรดีขึ้น เพราะต้นทุนคงที่ไม่เพิ่มตาม

โอกาสพวกนี้จะไม่ปรากฏชัดในข่าวทั่วไป ต้องลงลึก อ่านตัวเลข วิเคราะห์สาเหตุ ถ้าเข้าใจจริงๆ จะมองเห็น “ขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่” และเป็นประสบการณ์ลงทุนที่ใช้ได้ตลอดชีวิต

อย่ามองแค่ตัวเลข… มองภาพใหญ่

• ลองเทียบกับขนาดอุตสาหกรรม เช่น ถ้าทั้งตลาดมีมูลค่า 100,000 ล้านบาท และบริษัทที่เราดู Market Cap แค่ 3,000 ล้าน แต่กำลังจะกลายเป็นเบอร์ 1 ในอนาคต ก็มีโอกาสโตได้อีกหลายเท่า

• ดูตัวอย่างจากประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น ธุรกิจคลินิก, อีคอมเมิร์ซ, หรือฟินเทค ที่ไทยยังเล็ก แต่ต่างประเทศโตมาแล้ว

 

ประเทศเราอาจกำลังเดินตามรอยพวกเขาอยู่ก็ได้

สรุป

หุ้นเติบโตไม่ได้แพงเสมอไป และบางครั้งที่ดูเหมือน “แพง” อาจกลายเป็น “ถูกมาก” หากเรามองทะลุถึงอนาคต

การเข้าใจ Stage ของธุรกิจ, การประเมิน Market Cap, การวิเคราะห์ตัวเร่งกำไร และการเทียบภาพใหญ่ของอุตสาหกรรม คือเครื่องมือที่สำคัญกว่าการดู PE เพียงตัวเดียว

ขอแค่ “กล้าคิด” + “ลงลึก” มากพอ โอกาสดีๆ มักซ่อนอยู่ในมุมที่คนอื่นมองข้ามเสมอ

 

 

 

 ที่มา..   หุ้นพอร์ทระเบิด


ฟ้าสาง