๐ คงปฏิเสธการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ “สินทรัพย์ดิจิทัล” อย่าง “คริปโทเคอเรนรี่” ไม่ได้ !! สะท้อนผ่านมูลค่าการซื้อขายเป็นหลาย “เท่าตัว” และในเมืองไทยตลาด “ร้อนแรง” ผลักดันทั้งมูลค่าการซื้อขาย ผู้ลงทุน จนเกิดเหรียญสายพันธุ์ไทยที่สร้างราคาไปถึงดาวจันทร์ (go to the moon) อย่าง บิทคับ คอยน์ หรือ KUB และ เจฟินคอนย์ หรือ JFC ให้เห็นแล้วในช่วงปีก่อน

๐ ร้อนแรงระดับไหน ! ไม่อาจจะบรรยายเป็นคำพูดได้... ขนาดนักลงทุนรายใหญ่ตลาดหุ้นไทยอย่าง “เสี่ยป๋อง-วัชระ แก้วสว่าง” เจ้าของพอร์ตหุ้นระดับ “พันล้านบาท” ยอมรับปี 2564 ได้แหย่ขาลองลงทุนคริปโทฯ กับคนอื่นบ้าง... ไม่ลองลงทุนเดี๋ยวจะคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง !! รอบตัวลงทุนกันหมด ดังนั้น ไม่เสียเวลา "เสี่ยป๋อง" เลยขอแวะมาทักทายลงทุนในเหรียญ “เจฟินคอนย์” (๋JFC) ของบริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (JVC) บริษัทในเครือ บมจ.เจมาร์ท (JMART) และ บิทคับ คอยน์ (KUB) เสียหน่อย... 

๐ งานนี้ !! เหรียญเจฟินคอนย์ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง... เรียกว่า “ทำกำไร” พอร์ตสินทรัพย์ดิจิทัล ของ เสี่ยป๋อง “พุ่งติดจรวดมากกว่า100%” แต่ผมต้องบอกก่อนนะว่าลงทุนไม่เยอะ เพราะยังไม่กล้ามาก ! ผมลงทุนซื้อที่ระดับราคา 30-40 บาทต่อเหรียญ ก่อนที่ราคาเหรียญจะถูกเก็งกำไหนาแน่นดันราคาขึ้นมาทะลุ 100 บาทได้ (29 พ.ย.2564 ) และราคาไปทำนิวไฮ ที่ 243 บาท (30 พ.ย.) แต่ผมขายไปตั้งแต่ระดับราคา 100 กว่าบาทต่อเหรียญแล้ว !! หรือที่เขาพูดว่า “ขายหมู!!” ยอมรับใจไม่แข็งพอ ก่อนพูดติดตลกว่าถ้ารู้ว่าราคาเหรียญจะพุ่งไปขนาดนั้น “ผมคงขายบ้านขายรถมาลงทุนแล้วแหละ !” 

๐ งานนี้... “เสี่ยป๋อง” แอบบ่นว่าลงทุนใน “เหรียญดิจิทัล” ไม่ต้องลุ้นมากเหมือนลงทุนใน “หุ้น” เสียเลย ลงทุนหุ้นต้องลุ้นหนักแบบเหงื่อออกมือเปียก ปีที่แล้วรีเทิร์นตลาดหุ้นแค่ 10% ต้องยอมรับว่าตลาดหุ้นปีก่อนต่อเนื่องมาปีนี้ลงทุน “ยาก” แต่ส่วนตัวก็ยังชอบลงทุนในหุ้นนะแม้จะยาก เพราะหุ้นยังมีพื้นฐานลองรับ แต่การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น ก็ต้องยอมรับว่าเทรนด์ของโลกมาเช่นนั้น ก็ต้องลองศึกษาลงทุนด้วย แต่ช่วงนี้ยังไม่กล้าลงทุนในเหรียญบิทคอยน์ เพราะว่าราคา “หวือหวา” เกินไป ขอรอดูจังหวะลงทุนใหม่ก่อน

๐ “มนตรี ลาวัลย์ชัยกุล” ซีอีโอ บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ PTTEP แจ้งว่า บริษัท PTTEP International Limited (PTTEPI) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท.สผ. และเป็นผู้ร่วมทุนในโครงการยาดานา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติในประเทศเมียนมา ได้รับแจ้งจากบริษัท TotalEnergies EP Myanmar เมื่อ 21 ม.ค. 65 ว่าจะขอถอนตัวจากการเป็นผู้ร่วมทุนและผู้ดำเนินการในโครงการยาดานา และในบริษัท Moattama Gas Transportation Company (MGTC) ซึ่งดำเนินธุรกิจท่อส่งก๊าซจากโครงการฯ

๐ แต่อย่างไรก็ตาม TotalEnergies EP Myanmar จะยังคงเป็นผู้ดำเนินการในโครงการต่อไปอีก 6 เดือน เพื่อรักษาความต่อเนื่องในการผลิตก๊าซธรรมชาติของโครงการ โดย ปตท.สผ. อยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการในเรื่องนี้ โดยจะคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดด้านความมั่นคงทางพลังงานของประเทศไทยและเมียนมาเป็นสำคัญ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้พลังงานของประชาชนทั้งสองประเทศ หากมีความคืบหน้าบริษัทจะแจ้งให้ทราบต่อไป