บริษัทจดทะเบียนแห่ลดพาร์ "หวังเรียกความสนใจ"
กรุงเทพธุรกิจ สำรวจตั้งแต่ต้นปี บริษัทจดทะเบียนได้มีการปรับราคามูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) ลดลง โดย 7 บริษัทดำเนินการแล้ว และอีก 1 บริษัทอยู่ระหว่างให้ผู้ถือหุ้นพิจารณา
ประกอบด้วย
AOT เปลี่ยนแปลงพาร์จาก 10 บาท เป็น 1 บาท
THE เปลี่ยนแปลงจาก 1 บาท เป็น 50 สตางค์
TBSP เปลี่ยนแปลงจาก 10 บาท เป็น 1 บาท
MALEE เปลี่ยนแปลงจาก 1 บาท เป็น 50 สตางค์
SSSC เปลี่ยนแปลงจาก 10 บาท เป็น 1 บาท
ILINK เปลี่ยนแปลงจาก 1 บาท เป็น 50 สตางค์
NYT เปลี่ยนแปลงจาก 1 บาท เป็น 50 สตางค์
WHAUP ประกาศลดพาร์หลังจากเข้าจดทะเบียนเพียง 2 เดือน
จรีพร จารุกรสกุล รองประธานกรรมการ บริษัทดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ ให้ความเห็นว่า สาเหตุการแตกพาร์ของบริษัทจากเดิม 5 บาทให้เหลือ 1 บาทนั้น เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจหุ้นของบริษัท แต่มีปัญหาในเรื่องสภาพคล่องการซื้อขายที่อยู่ในระดับต่ำ ทำให้ไม่สามารถเข้าลงทุนได้
บริษัทจึงเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นตัดสินใจ ว่าจะเดินตามแผนของบริษัทหรือไม่ โดยการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อลงมติดังกล่าวจะเกิดขึ้นในวันที่ 30 มิ.ย. ซึ่งการแตกพาร์ครั้งนี้จะไม่กระทบ กับปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ส่วนข้อกังวลของตลาดหลักทรัพย์นั้น บริษัทน้อมรับมาพิจารณา
ด้านปัจจัยพื้นฐานของบริษัทนั้นประเมินว่า ยังมีทิศทางที่ดีโดยภายใน 2 ปีข้างหน้าจะมีการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าอีก 200 เมกะวัตต์ โดยปัจจุบันมีใบอนุญาตขายไฟฟ้าแล้ว 540 เมกะวัตต์ และเริ่มการขายไป 370 เมกะวัตต์ และในปี 2562 จะเดินเครื่องได้ครบ 540 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการทำโซลาร์รูฟท็อปเพิ่มขึ้นในอนาคต
ขณะที่ ไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน บอกว่า การแตกพาร์ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้น แม้จะมีการแตกพาร์ที่ค่อนข้างเร็วแต่มองว่าไม่ใช่ประเด็นที่น่ากังวล เนื่องจากผลการดำเนินงานของบริษัทไม่ได้เปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ของการแตกพาร์ส่วนใหญ่ต้องการให้มีสภาพคล่องการซื้อขายรวมถึงความต้องการดึงดูดให้นักลงทุนรายบุคคลเข้ามาสนใจบริษัท ซึ่งนักลงทุนต้องพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทเป็นหลัก
สรุปจากและขอบคุณแหล่งที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์