ปี 64 มีอะไรน่าลงทุน?
ปี 2564 เป็นปีที่คาดกันว่าวัคซีนโควิดจะทยอยออกมาให้ใช้ ภาวะเศรษฐกิจโลกตามคาดการณ์ของธนาคารโลกปี 64 จะเติบโต 4.0% แล้วจะส่งผลต่อภาพการลงทุนอย่างไร? การลงทุนประเภทไหนน่าสนใจบ้าง?
เราผ่านปี 63 มาอย่างยุ่งยากพอประมาณ เป็นปีที่โควิดทำให้ภาวะการลงทุนเริ่มต้นปีอย่างร้าย แต่ปลายปีตีกลับเกือบหมด ตลาดหุ้นบางแห่ง เช่น สหรัฐอเมริกากำไร 16% (ถ้า NASDAQ ได้ 44%) จีนกับญี่ปุ่น หรือ เวียดนาม ตีกลับจนเป็นบวก 14-16% แต่ก็มีบางประเทศที่หุ้นตีกลับขึ้นได้ไม่ครบ จบปียังขาดทุน เช่น หุ้นไทย (รวมปันผลแล้วยังขาดทุน 5%) ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เป็นต้น ส่วนทองคำได้กำไรค่อนข้างมากราว 25% ขณะที่กองทุนตราสารหนี้ชั้นดี ก็ได้กำไรไปพอสมควร
เมื่อรวมทั้งพอร์ต ที่หากได้กระจายการลงทุนอย่างเหมาะสม ก็จะได้กำไรพอคุ้มค่าเหนื่อย
ปี 64 นี้ เป็นปีที่คาดกันว่า วัคซีนโควิดจะทยอยออกมาให้ใช้ และหวังกันว่าจะควบคุมการระบาด ได้ในที่สุด ภาวะเศรษฐกิจโลกตามคาดการณ์ของธนาคารโลกปี 64 จะเติบโต 4.0% เทียบกับปี 63 ที่ติดลบ 3.6% เป็นการคืนกลับครบถ้วน
ขณะที่สมาคมนักวิเคราะห์ฯคาดการณ์ เศรษฐกิจไทยปี 64 ไว้ว่าจะฟื้นตัว 3.74% เป็นการคืนกลับมาประมาณครึ่งทางของการติดลบในปี 63 ที่ยังต้องรอตัวเลขทางการ ผมใช้สมมุติฐานติดลบ 6.5%
ทางด้านอัตราดอกเบี้ยโลกเน้นที่สหรัฐ ผมคิดว่าน่าจะต้องคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในที่ต่ำ ขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายของไทย ผมคาดว่ามีโอกาสลดลง 0.25% (จากสภาพเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นน้อย จากการระบาดโควิดอีกครั้ง และภาคท่องเที่ยวมีสัดส่วนสูง) หากมีการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยเสริมผลตอบแทนการลงทุนทั้งตลาดหุ้นและกองทุนตราสารหนี้
Fund Flow จากต่างประเทศ น่าจะได้เข้ามาเป็นบวกบ้างในปี64 หลังจากออกไปมากมายในปี63 กว่า 2.6 แสนล้านบาท แต่อย่าคาดไว้ถึงขนาดว่าจะกลับมาทั้งหมด เพราะปัจจัยพื้นฐานเราเองก็ไม่ได้กลับมาได้หมด รวมถึงนักลงทุนต่างชาติก็ต้องเปรียบเทียบความโดดเด่นกับประเทศอื่น
ด้านกำไรต่อหุ้นของทั้งตลาดไทย ผมใช้สมมุติฐานที่ 70 บาท (ต่ำว่า poll ของสมาคมฯอยู่บ้าง) ด้วยกังวลผลกระทบจากโควิดรอบที่กำลังเผชิญอยู่ เทียบกับระดับกำไรต่อหุ้นของปี 62 ที่ 88 บาท ก่อนเกิดโควิดระบาดแรง กำไรยังต่ำกว่ามาก ดังนั้นหาก SET Index จะกลับไปที่1600 จุดเหมือนกลางเดือนม.ค.63 น่าจะเป็นการขอคืนมากเกินไป
และเมื่อดูจาก ระดับ PE ของตลาดหุ้นไทยในรอบ 10 ปี เฉลี่ย 18-19 เท่า ผมใช้ 19 เท่าเทียบเป็น SET Index ใกล้ 1330 จุด และช่วงสูงสุดที่ประมาณ 23 เท่า เทียบเป็น SET Index 1617 จุด โอกาสไปที่ 1600 จึงดูจะเต็มกลืนทีเดียว
เมื่อหันไปดูโพลล์นักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ Index สิ้นปี 64 ที่ 1559 จุด ผมขอใช้อิงเพื่อคาดหวังผมตอบแทนที่ระดับนี้
จากเหตุผลหลักๆ ดังกล่าวข้างต้นผมจึงเห็นว่าน่าจะกระจายการลงทุน ดังนี้ครับ
- หุ้นไทย ที่ระดับ Index 1500 จุด น่าจะมีเท่าเดิมที่ 20% ของพอร์ต แต่หากมีช่วง Index ลงต่ำกว่า1400 ค่อยเพิ่มเป็น 25% หมวดหุ้นที่น่าไปเลือกเฟ้นจากบทวิเคราะห์ ได้แก่ หุ้นปันผลสูงธนาคาร สินเชื่อเช่าซื้อ ถุงมือยาง หุ้นพลังงานใหญ่ที่ต่ำกว่าอดีตมาก หมวดสื่อสารที่มีความสามารถในการแข่งขัน รวมถึง REIT บางกอง รายละเอียดโปรดเลือกจากข้อมูล IAA Consensus : https://www.settrade.com/AnalystConsensus/CompareData.jsp?selectPage=10
- กองทุนหุ้นต่างประเทศ เดิมแนะนำน้ำหนัก 10% ปีนี้ผมเพิ่มเป็น 15% โดยน่าเน้นไปที่ตลาดเอเชียตะวันออก ที่เศรษฐกิจเติบโตแข็งแรง เช่นจีน เวียดนาม ขณะที่ลดทอนตลาดสหรัฐฯลงด้วยประเด็นที่คุณไบเดนมีนโยบายจะขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 21% เป็น 28%
- ทองคำ 15% เป็นการกระจายโอกาสในช่วงที่หุ้นโลกอาจขึ้นอีกไม่มาก จากการฟื้นตัวมายาวแล้ว
- กองทุนตราสารหนี้ชั้นดีของไทย 50% คาดได้ผลตอบแทนบ้างจากการคาดหวังลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25%
ท้ายนี้ สมาคมนักวิเคราะห์กำลังเปิดรับ บริษัทจดทะเบียนเข้าเป็นสมาชิกประเภทนิติบุคคล เพื่อร่วมกันสนับสนุนสมาคมให้ดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อประโยชน์ของตลาดทุน และสมาชิกบุคคลธรรมดา จากผู้เคยสอบผ่าน CISA1, CFA1 ขึ้นไป และผู้ที่เคยเป็นนักวิเคราะห์ พร้อมรับสิทธิประโยชน์มากมายตั้งแต่ต้นปี สนใจติดต่อ 02-009-9292 ต่อ 3716
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก