ห้องเม่าปีกเหล็ก

ศูนย์วิจัยกสิกรฯ หั่นเป้าจีดีพีไทยปี 66

โดย GREEN WAY
เผยแพร่ :
119 views

ศูนย์วิจัยกสิกรฯ หั่นเป้าจีดีพีไทยปี 66 โต 3.2% หลังส่งออกติดลบ 1.5%

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย หั่นเป้าจีดีพีไทยปีหน้าอยู่ที่ 3.2% จากเดิม 3.2-4.2% หลังเศรษฐกิจโลกถดถอย กดส่งออกติดลบ 1.5% ส่วนปีนี้เพิ่มเป้าเป็นโต 3.2% รับท่องเที่ยวฟื้น ส่วนดอกเบี้ยเฟดจะพีคที่ 5% - ดอกเบี้ยกนง.คาดแตะ 1.75%

.

นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ธนาคารได้มีการปรับประมาณการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 66 ลงมาอยู่ที่ 3.2% จากเดิมคาดการณ์ในกรอบ 3.2%-4.2% โดยมีปัจจัยจากแนวโน้มที่เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญในปีหน้า ซึ่งจะกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย

.

โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ และ ยูโรโซน มีแนวโน้มที่จะไม่เติบโต เป็นผลจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ นอกจากนี้ ยังมีผลกระทบจากวิกฤตพลังงานในยุโรปด้วย

.

“ถึงแม้เศรษฐกิจโลกจะยังคงผันผวนและ ทำให้อัตราการเติบโตชะลอตัว ซึ่งส่งผลกระทบไปถึงปีหน้า ขณะที่เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ส่งสัญญาณในทิศทางที่ดี และมีแนวโน้มฟื้นตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากการเปิดประเทศทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ได้ปรับจีดีพีปีนี้ อยู่ที่ 3.2% จากเดิมที่เคยคาดไว้ที่ 2.9%”นางสาวณัฐพร กล่าว

.

ในขณะที่แนวโน้มจีนจะเปิดประเทศในช่วงไตรมาสที่ 2/66 มีมากขึ้น แต่ก็ยังต้องติดตามสถานการณ์ในจีนหลังจากนี้ทั้งจำนวนผู้ป่วย ผู้เสียชีวิต และ ความเพียงพอของระบบสาธารณสุข ดังนั้นยังคงมีมุมมองที่ระมัดระวังต่อสถานการณ์การเปิดประเทศของจีน โดยปรับจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 22 ล้านคน จากเดิมที่ 13-20 ล้านคน ส่วนปีนี้คาดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 11 ล้านคน จากเดิม 9.75 ล้านคน

.

สำหรับภาคการส่งออกคาดว่า จะหดตัวมากกว่าเดิมอยู่ที่ -1.5% จากเดิมคาด 2-3.3% เนื่องจากมีปัจจัยฉุดรั้งจากอุปสงค์ประเทศคู่ค้า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีแนวโน้มชะลอตัว ประกอบกับ ฐานที่สูงในปีก่อนหน้า ซึ่งสิ้นปีนี้คาดส่งออกขยายตัวได้ 5.2%

.

ส่วนแนวโน้มดอกเบี้ยมองว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คงจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 1/66 ไปแตะระดับ 5% หรือ อาจสูงกว่านั้น ก่อนที่จะมีโอกาสคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงตลอดทั้งปี 66

.

ในขณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องในการประชุมอีก 2 ครั้งๆ ละ 0.25% โดยดอกเบี้ยนโยบายจะมาอยู่ที่ 1.75% จากสิ้นปีนี้อยู่ที่ 1.25% ซึ่งย้ำว่าอัตราดอกเบี้ยในประเทศยังอยู่ในจังหวะขาขึ้นเช่นเดียวกัน

.

ด้านแนวโน้มเงินบาทในช่วงไตรมาส 1/66 มีโอกาสแข็งค่าขึ้น หากเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยตามแผนที่วางไว้ หรือ ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้ง เนื่องจากตลาดรับรู้ความเป็นไปได้ดังกล่าวแล้ว

.

ขณะที่ภาคการเงินมีแนวโน้มสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในไทยปี 66 คาดว่า จะเติบโตในกรอบจำกัดประมาณ 4.2-5.2% (ค่ากลาง 4.7%) เทียบกับปีนี้ที่คาดว่าจะโต 5% ตามผลของเศรษฐกิจที่เผชิญหลายปัจจัยเสี่ยง อีกทั้ง ธุรกิจมีการฟื้นตัวที่ไม่ทั่วถึง

.

"ภาพรวมสินเชื่อปีหน้ายังเติบโตในกรอบระมัดระวัง โดยสินเชื่อธุรกิจ อาจขยายตัวได้ต่อเนื่องตามทิศทางเศรษฐกิจ ส่วนสินเชื่อรายย่อยจะโตในกรอบจำกัด เนื่องจากหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งปีหน้าจะยังคงเห็นการเร่งจัดการในเชิงรุก และ การปรับโครงสร้างหนี้ระยะยาวให้ลูกหนี้"นางสาวณัฐพร กล่าว

.

อย่างไรก็ตาม ทิศทางที่ระมัดระวังดังกล่าว ยังสะท้อนผ่านมุมมองต่อคุณภาพสินทรัพย์ของระบบธนาคารพาณิชย์ที่คาดการณ์ว่า สัดส่วนเอ็นพีแอลต่อสินเชื่อรวมจะยังไม่ได้ดีขึ้นจากปี 65 นัก โดยเอ็นพีแอล ณ สิ้นปี 66 คาดว่า จะอยู่ในกรอบ 2.55-2.80% เทียบกับ 2.65-2.75% ที่คาด ณ สิ้นปี 65

.

สำหรับแนวโน้มธุรกิจไทยปี 66 มองว่ายังเผชิญหลายโจทย์รุมเร้า ส่งผล

กระทบต่อธุรกิจแต่ละประเภทแตกต่างกัน ทำให้การฟื้นตัวของรายได้ธุรกิจในปี หน้า ยังมีลักษณะเป็น K-Shaped โดยธุรกิจที่นำการฟื้นตัวจะเป็นโรงแรมและร้านอาหาร โรงพยาบาลเอกชน รวมถึงค้าปลีก

.

ในขณะที่กลุ่มธุรกิจที่ฟื้นตัวช้า หรือ หดตัว ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ และ ส่งออกในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งนี้ ในปีหน้าธุรกิจไทยจะเห็นโจทย์เรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และ ธรรมาภิบาล (ESG) มีความชัดเจนขึ้น ซึ่งธุรกิจไทยต้องเร่งศึกษา และ ปรับตัว เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันระยะยาว

***********************************

 


GREEN WAY