สวัสดียามเช้าครับที่เลิฟ 

สัปดาที่ผ่านมามีผันผวนครับ ใครถือหุ้นต้นสัปดาเจ๊งแถวๆตอนท้านนี่ละครับ ทำสำออยเหมือนจะตายแต่หลังจากหลอกแดกแล้วก็เหมือนไม่มีอะไร พาเอาผมเจ๊งไปด้วย

นางฮิลลารี คลินตัน อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ทวิตข้อความระบุว่า ตนได้เข้าร่วมพิธีสาบานตนของนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งทางการเมือง เพื่อให้เกียรติต่อระบอบประชาธิปไตยของสหรัฐ และคุณค่าที่มีอยู่อย่างยั่งยืน โดยตนจะไม่เลิกล้มความเชื่อในสหรัฐ และอนาคตของประเทศ

The 5 biggest issues for stocks now that Trump is president

เดวิด Kostin หัวหน้าสหรัฐส่วนยุทธศาสตร์ที่ Goldman Sachs, ระบุห้าประเด็นที่มีความสำคัญมากที่สุดในการตลาด

Here’s Kostin:

1. Corporate tax rate: Our economists expect the corporate statutory tax rate will be lowered to 25%, around the OECD average but above the Trump campaign (15%) and House Republican proposals (20%). All else equal, a statutory federal rate of 25% would boost S&P 500 EPS by 8%.
2. Destination-based border-adjusted tax: Under this system, US firms would bear no tax burden (or a reduced tax burden) for export revenues but would no longer be able to deduct import costs when calculating their tax bases. Our economists currently assign a probability of just 30% that this proposal will be enacted. This is due in part to the potentially difficult transition to such a system, which could prove to be a significant headwind for net importers.
3. Interest deductibility and depreciation policy: Changes to interest deductibility and the depreciation of capital investment appear more likely than a change to a destination-based system. However, numerous questions remain about implementation. For example, it is not yet clear whether or for how long interest payments on current debt would be grandfathered.
4. Fiscal spending: We estimate that infrastructure spending of $25bn per year (below the $100bn per year outlined in the Trump campaign proposal) would have a modest impact on real GDP growth, increasing S&P 500 EPS by about $1. Our sector analysts expect that construction materials companies would benefit significantly from an increase in infrastructure spending.
5. Regulation: The Trump Administration will have discretion in reshaping key regulations. Much uncertainty exists, but banks and midstream energy firms are likely beneficiaries of relaxed regulations.

นี่คือ Kostin:

ลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล: นักเศรษฐศาสตร์ของเราคาดว่าอัตราภาษีนิติบุคคลตามกฎหมายดังกล่าวจะลดลงถึง 25% รอบ OECD เฉลี่ย แต่เหนือแคมเปญทรัมป์ (15%) และข้อเสนอเฮ้าส์รีพับลิกัน (20%) ทุกคนเท่าเทียมกันในอัตราที่รัฐบาลกลางตามกฎหมาย 25% จะเพิ่ม S & P 500 กำไรต่อหุ้น 8%

ปลายทางตามภาษีชายแดนปรับ: ภายใต้ระบบนี้ บริษัท สหรัฐจะแบกรับภาระภาษี (หรือภาระภาษีที่ลดลง) สำหรับรายได้จากการส่งออก แต่อีกไม่นานจะสามารถหักค่าใช้จ่ายนำเข้าเมื่อคำนวณฐานภาษีของพวกเขา นักเศรษฐศาสตร์ของเราในขณะกำหนดความน่าจะเป็นเพียง 30% ว่าข้อเสนอนี้จะถูกตรา เพราะนี่คือในส่วนของการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นยากที่จะระบบดังกล่าวซึ่งสามารถพิสูจน์ให้เป็นลมอย่างมีนัยสำคัญสำหรับผู้นำเข้าสุทธิ

ลดหย่อนดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคานโยบาย: การเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจลดหย่อนและค่าเสื่อมราคาของการลงทุนที่ปรากฏจะมีโอกาสมากกว่าการเปลี่ยนแปลงระบบปลายทางตาม อย่างไรก็ตามยังคงมีคำถามมากมายเกี่ยวกับการดำเนิน ยกตัวอย่างเช่นมันยังไม่ชัดเจนหรือนานเท่าไหร่จ่ายดอกเบี้ยของหนี้ในปัจจุบันจะ grandfathered

การใช้จ่ายการคลัง: เราคาดว่าการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานของ $ 25bn ต่อปี (ด้านล่าง $ 100bn ต่อปีที่ระบุไว้ในข้อเสนอแคมเปญ Trump) จะมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตเจียมเนื้อเจียมตัวของ GDP ที่แท้จริงเพิ่มขึ้น S & P 500 กำไรต่อหุ้นประมาณ $ 1 นักวิเคราะห์ภาคธุรกิจของเราคาดหวังว่า บริษัท วัสดุก่อสร้างจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในโครงสร้างพื้นฐาน

ระเบียบ: คนที่กล้าหาญบริหารจะมีการพิจารณาในการก่อร่างกฎระเบียบที่สำคัญ ความไม่แน่นอนมากอยู่ แต่ธนาคารและ บริษัท พลังงานกลางคันมีแนวโน้มที่จะได้รับผลประโยชน์ของกฎระเบียบที่ผ่อนคลาย

ราคาทองคำแท่งตลาดนิวยอคคืนที่ผ่านมา งัดขึ้นมาใหม่

ราคาทองคำแท่งรายเดือน

ทรัมป์ลั่นเดินหน้าทำงานจริงจัง หวังให้สหรัฐกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 กล่าวสุนทรพจน์หลังการสาบานตนรับตำแหน่งในวันนี้ ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า รัฐบาลจะไม่ยอมรับนักการเมืองที่เอาแต่พูด แต่ไม่ทำงาน หรือผู้ที่มักวิพากษ์วิจารณ์ แต่ไม่เคยทำการแก้ปัญหา เขายืนยันว่า ช่วงเวลาของการพูดจาเลื่อนลอยได้หมดสิ้นไปแล้ว และขณะนี้คือเวลาของการทำงาน 

สหรัฐจะแสวงหามิตรภาพ และไมตรีจิตกับชาติต่างๆทั่วโลก ปธน.ทรัมป์ยืนยันว่า สหรัฐจะไม่บังคับให้ผู้อื่นมีวิถีชีวิตแบบชาวสหรัฐ แต่สหรัฐจะส่องแสงเพื่อเป็นตัวอย่างแก่ชาติอื่น

รัฐบาลจะสร้างถนนใหม่, ทางหลวง, สะพาน, สนามบิน, อุโมงค์ และทางรถไฟทั่วประเทศ นอกจากนี้ รัฐบาลจะนำประชาชนที่มีชีวิตอยู่โดยพึ่งพาสวัสดิการของรัฐ ให้กลับมาทำงาน และสร้างประเทศ

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อเมริกาต้องมาก่อน โดยการตัดสินใจด้านการค้า, ภาษี, ประเด็นคนเข้าเมือง และกิจการต่างประเทศ จะต้องเอื้อประโยชน์ต่อแรงงานชาวสหรัฐ และครอบครัวชาวอเมริกัน