ผ่าอาณาจักร GULF เตรียมเติบโตครั้งใหญ่
ฟอร์มโดดเด่น จนนักวิเคราะห์เชียร์ “ซื้อ” ทุกตัว

.
ช่วงนี้หุ้นกลุ่ม GULF ถูกพูดถึงมาอย่างต่อเนื่อง เพราะราคาปรับตัวในทิศทางที่ดี โดยนักวิเคราะห์ออกมาประเมิน GULF ในปีนี้จะรายงานกำไรออกมาอย่างโดดเด่น ขณะที่ INTUCH, ADVANC และ THCOM ก็ยังมีปัจจัยบวกเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนนักวิเคราะห์ต้องเชียร์ให้เคาะขวากันทุกหุ้น
.
เริ่มจาก GULF โดยนักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ถึงเวลายักษ์ขยับ โดยคาดกำไรปกติไตรมาส 3/65จะเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน โดยการลดสัดส่วนใน BKR2 ลงครึ่งหนึ่งเหลือ 25% จากเดิม 50% จะมีผลในไตรมาส 4/65 ทำให้ในไตรมาส 3/65 ยังมีผลปกติ ขณะที่ได้ส่วนแบ่งกำไรจากลมของ JV ที่ทำร่วมกับ GUNKUL (GGC) ขนาด 170MW ซึ่งเป็น High season เข้ามาเพิ่มเติม
.
ขณะที่ไตรมาส 4/65 คาดว่ากำไรของ GULF จะทำระดับสูงสุดใหม่ที่ราว 3,500 - 4,000 ล้านบาท แม้ว่าจะลดสัดส่วนของ BKR2 ลง จากการ COD หน่วยที่ 4 ของ GSRC (โรงไฟฟ้า IPP) ในวันที่ 1 ต.ค. ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 663MW ส่วนแบ่งกำไรจาก INTUCH คาดว่าจะสูงที่สุดของปีจากการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศและจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทำ ให้รายได้ของ ADVANC กลับมาเติบโต
.
นอกจากนี้ไตรมาส 4/65 อาจมีกำไรพิเศษของการขาย BKR2 ราว 300 – 350 ล้านบาท ทำให้ในช่วงสั้น – กลาง ผลประกอบการยังเติบโตต่อเนื่อง ชัดเจนที่สุดในกลุ่มโรงไฟฟ้า ซี่งคาดปี 2565 จะมีกำไรสุทธิ 14,523 ล้านบาท เทียบปีก่อนที่ระดับ 7,670 ล้านบาท
.
โดยปรับประมาณการปี 2566 โดยรวมผลของการลดสัดส่วน BKR2 และได้ส่วนแบ่งกำไรจากลมของ JV ซึ่งสุทธิแล้วมีผลกระทบใกล้เคียงกันคือเป็นกลางต่อประมาณการ และปรับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 59.00 บาท คงแนะนำ ซื้อ
.
และยังไม่รวมการเติบโตที่จะเกิดขึ้นผ่าน JV และแผน PDP ฉบับใหม่ของไทยและเวียดนาม รวมถึงการ M&A ที่กำลังจะเกิดขึ้น อีกทั้งยังมีธุรกิจ Non-power เช่น Data center และตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ล้วนเป็น Upside ต่อประมาณการ มองว่า GULF ยังมีโอกาสเติบโตอีกมากและน่าลงทุนทั้งในระยะสั้น กลาง และยาว
.
ถัดมา INTUCH โดยบล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า คงคำแนะ ซื้อ โดยปรับใช้ราคาเป้าหมายเป็นปี 66 ที่ 82 บาทจากเดิมที่ 78 บาท ทั้งนี้ยังคงชอบ INTUCH เพราะ คาดผลการดำเนินงานครึ่งหลังของปี 65 ของ INTUCH จะฟื้นตัวอีกครั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการฟื้นตัวรายได้มือถือจาก ADVANC และ THCOM จะรับรู้ขาดทุนกิจการมือถือในลาวน้อยลง
.
ประกอบกับในระยะกลางมองบวกกับดีล ADVANC เตรียมซื้อ TTTBB และ JASIF ที่หนุนเกิดราคาเป้าหมาย INTUCH ส่วนเพิ่มไม่ต่ำกว่า 1.25 บาท/หุ้น และคาดปีหน้าเห็นนโยบายการลงทุนของ INTUCH ที่ Aggressive ขึ้นจากปีนี้ที่อยู่ระหว่างปรับโครงสร้างทยอยขายทำกำไรธุรกิจร่วมลงทุน (venture capital) โดยคาดปี 2565 จะรายงานกำไรสุทธิ 1.08 หมื่นล้านบาท เติบโต 1% จากปีก่อน
.
ADVANC โดยบล. เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ระบุว่า หาก ADVANC ไม่สามารถลดค่าเช่าให้กับ JASIF ได้การเข้าซื้อกิจการ TTTBB และ JASIF จะมีดาวน์ไซด์ 3% ต่อกำไรสุทธิในปี 66 ในทางกลับกันถ้าค่าเช่าที่ต้องจ่าย JASIF ลดลง 15-31% จะให้อัพไซด์ 1-4% ต่อกำไรสุทธิปี 66 ของ ADVANC โดยเชื่อว่าราคาหุ้นได้สะท้อนประเด็นการไม่ลดค่าเช่าให้ JASIF แล้ว คงแนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 244 บาท ซึ่งไม่ได้รวมผลกระทบจากดีลซื้อ TTTBB-JASIF (รอการอนุมัติจาก TTTBB และ JASIF ในวันที่ 23 ก.ย.) ประเมินกำไรปี 2565 คาดที่ 25,380 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่อยู่ 27,038 ล้านบาท
.
สุดท้าย THCOM โดยบล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า โมเมนตั้มกำไรปกติช่วงครึ่งหลังของปี 2565 จะฟื้นตัวเด่นทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากครึ่งปีแรก โดยเฉพาะไตรมาส 3/65 ที่จะมีแรงหนุนทั้งจากต้นทุนสัมปทานหายและส่วนแบ่งบ.ลาวฟื้น จึงคงคาดกำไรปกติทั้งปี 65 ที่ 278 ล้านบาท พลิกจากติดลบ 225 ล้านบาทในปีก่อน ในขณะเดียวกัน ช่วงปลายปีก็จะมี sentiment บวกจากการเปิดประมูลวงโคจรดาวเทียมภาครัฐ จึงปรับคาแนะนำขึ้นเป็น BUY โดยใช้ราคาเป้าหมายเป็น 11 บาท