นักลงทุนมีทั้งระยะสั้น เน้นซื้อขายหุ้นรายวันหรือเล่นสั้นๆ กับนักลงทุนทุนระยะยาวที่เน้นหุ้นถือยาวเป็นปี ๆ เพื่อรอรับเงินปันผล แล้วมีนักลงทุนอีกประเภทที่ชอบเล่นหุ้นสไตล์ดูข้อมูลรายไตรมาส แล้วนำไปซื้อขายหุ้น โดยใช้วิธีการดูผลประกอบการรายไตรมาส ซึ่งกำลังจะหมดไตรมาส 3Q59 ของปีแล้ว นักลงทุนคงเริ่มหาข้อมูลผลประกอบการงบการเงินไตรมาส 3 กันบ้างแล้วว่าหุ้นที่ตนเองถืออยู่ผลประกอบการเป็นอย่างไรบ้าง มีแนวโน้มเติบโตของกำไรสุทธิหรือรายได้เพิ่มขึ้นที่ดีอยู่ไหม
กลุ่มนักลงทุนที่ชอบดูงบกำไรรายไตรมาส แล้วหาจังหวะซื้อขายหุ้น แยกเป็น 4 กรณี ดังนี้
- งบการเงินออกมาสวย แล้วหุ้นจะขึ้น ถือว่ามีเหตุมีผลที่ดีต่อกัน ถูกต้องแล้ว
- งบการเงินสวย แต่หุ้นลง อ้าว แสดงว่ามีบางกลุ่มรู้ล่วงหน้าแล้วว่างบจะออกมาดี ราคาหุ้นจึงขึ้นไปรอมาแล้ว ถูกต้มแล้ว อิอิ ประกาศงบเลยต้องขาย (Sell on Fact)
- งบการเงินออกมาแย่ หุ้นจะลง ก็สมเหตุสมผลอยู่แล้วไง
- งบการเงินออกมาแย่ แต่หุ้นขึ้น แสดงว่าตลาดอาจรับรู้ข้อมูลนี้ไปก่อนแล้ว ราคาหุ้นผ่านจุดต่ำสุดนี้ไปแล้ว !!
อ้าว !! แล้วหุ้นแบบไหนใช้ได้บ้างล่ะ นักลงทุนรู้แบบนี้แล้วจะเอายังไงต่อไปดี บางคนบอกว่า อย่าไปดูงบมันเลยล่ะกัน ไม่มีประโยชน์ !! หรือเปล่า ?
ยังไงก็ดี นักลงทุนยังสามารถดูงบการเงินได้ แต่เพียงจากเปลี่ยนจากดูรายไตรมาส ไปเป็นดูเป็นรายปี หรือ 1-3 ปีหรือมากกว่านั้น เนื่องจากว่าราคาหุ้นจะขึ้นหรือลงนั้น สาเหตุหลักที่สำคัญคือ ผลประกอบการของบริษัทที่เติบโตขึ้นในระยะยาวนั้นเอง โดยในระยะสั้น ราคาหุ้นอาจไปบิดเบือนไปจากผลประกอบการได้ อันเนื่องมาจากสาเหตุอิ่น ๆ ที่เข้ามากระทบเกี่ยวข้องกับบริษัท
ในยุคสมัยนี้ การจะเล่นหุ้นโดยดูจากงบรายไตรมาส อาจจะได้ผลน้อยแล้ว เพราะไม่ว่าผลจะเป็นไปทางใด ราคาหุ้นก็เป็นไปได้ในทุกกรณี ตามที่ยกตัวอย่างไว้แล้วนะ
ขอบคุณแหล่งข้อมูล : 100 คำตอบต้องรู้ดูหุ้นพื้นฐาน