หุ้นกลุ่มค้าปลีกกำลังโดดเด่น
ปี 67 คาดฟันกำไร 5.9 หมื่นลบ. โต 18%
.
ในยามที่สภาวะเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัว รวมทั้งภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นการบริษัทอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสของหุ้นกลุ่มค้าปลีก ที่จะช่วยผลักดันให้ผลประกอบการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น “โพยหุ้น” ประจำวันจันทร์ Wealthy Thai มุมมองของหุ้นกลุ่มนี้มาฝากนักลุนทุน ผ่านการประเมินของนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด
.
โดยในรายระเอียดมีประเด็นที่น่าสนใจ ในไตรมาส 4/66 หุ้นในกลุ่มพาณิชย์ที่ฝ่ายวิจัยศึกษา คือ ADVICE, BJC, COM7, CPALL, CPAXT, CRC, DOHOME และ HMPRO มีกำไรสุทธิรวมกันที่ 1.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นสัดส่วน 82% ของกำไรสุทธิจากหุ้นในกลุ่มพาณิชย์ทั้งหมด
.
ทั้งนี้ภาพรวมกำไรในงวดไตรมาส 1/67 สำหรับหุ้นในกลุ่มพาณิชย์ที่ฝ่ายวิจัยศึกษา มีแนวโน้มจะลดลงจากไตรมาสก่อน เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 4/66 ที่เป็นช่วง high season ของธุรกิจ
.
แต่ยังคาดหวังการเติบโตขึ้นได้จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก คาดทุกบริษัทมียอดขายและกำไรสูงขึ้น ตามกำลังซื้อดีขึ้น หนุนโดยมาตรการ Easy E-receipt ซึ่งเชื่อว่าผู้บริโภคที่ชะลอการซื้อสินค้าบางประเภท (โดยเฉพาะสินค้าที่มีราคาสูง) ในไตรมาสก่อน จะเร่งซื้อในช่วงต้นไตรมาส 1/67 เพื่อรับประโยชน์ทางภาษียกเว้น DOHOME ที่คาดจะมีกำไรที่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
.
สำหรับกำไรในปี 2567 หุ้นในกลุ่มพาณิชย์ที่ฝ่ายวิจัยศึกษาในทุกบริษัท มีแนวโน้มจะดีขึ้นจากปัจจัยสนับสนุนดังนี้ 1.คาดยอดขายจะเติบโตขึ้น ตามภาวะเศรษฐกิจที่น่าจะฟื้นตัวได้ดีขึ้นกว่าปี 2566 โดยอ้างอิงข้อมูลจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2567 จะเติบโตด้วยอัตรา 3.2% เทียบกับปี 2566 ที่โตเพียง 1.9%
.
2.นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าไทยมากขึ้น โดยคาดการณ์ยอดนักท่องเที่ยวสำหรับปี 2567 ของฝ่ายวิจัยอยู่ที่ 32 ล้านคน เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อน อีกทั้งคนไทยมีการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น หลังความรุนแรงของโรคโควิด-19 บรรเทาลงจะช่วยหนุนกำลังซื้อ โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยว 3. มาตรการ Easy E-receipt กระตุ้นการใช้จ่ายช่วงต้นปี ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะหนุน GDP ให้เติบโตได้ราว 0.8%
.
ดังนั้นยังคงให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มพาณิชย์ “มากกว่าตลาด” เนื่องจากคาดกำไรสุทธิของกลุ่มสำหรับปี 2567 ที่ 5.9 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 18% จากปีก่อน ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์การเติบโตของตลาด
.
โดยเลือก BJC และ CRC เป็นหุ้น Top picks เนื่องจากระยะสั้นเป็นหุ้นที่คาดว่าจะมีราคาที่ Outperform ตลาดได้จากการเติบโตของกำไรในไตรมาส 1/67 ที่น่าจะโดดเด่นสุด เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่คำแนะนำหุ้นรายตัว สรุปได้ผ่าน infographic ด้านล่างนี้

