สหรัฐฯและจีน คนละหมัด! :
หมัดแรก : สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนเริ่มในปี 2018 เมื่อสหรัฐฯกีดกันการค้ากับจีนโดยการขึ้นภาษีนําเข้า ผลกระทบที่ตามมาคือจีนส่งสินค้าไปขายให้สหรัฐฯได้น้อยลง การจ้างงานของจีนจึงน้อยลงตามมา ในส่วนสหรัฐฯเองก็ส่งสินค้าทางด้าการเกษตรบางรายการเช่นถั่วเหลือง เป็นต้นไปขายยังจีนได้น้อยลงเพราะจีนก็ตอบโต้สหรัฐฯโดยการขึ้นภาษีนําเข้าจากสหรัฐฯเช่นเดียวกัน และในขณะเดียวกันชาวสหรัฐฯก็ไม่สามารถซื้อสินค้าราคาถูกจากจีนได้ สงครามการค้าระหว่างจีนก็ได้ยืดเยื้อมาถึงปัจจุบันโดยยังไม่ได้ข้อสรุปว่าใครแพ้ ใครชนะ
หมัดที่สอง : สงคราม Covid-19 เริ่มในปี 2020 ประธานาธิบดี Donald Trump กล่าวหาว่าจีนต้องการทําลายสหรัฐฯโดยการแพร่เชื้อ Covid - 19 แต่ก็ยังไม่สามารถหาหลักฐานที่ชัดเจนได้ สงครามครั้งนี้ชาวอเมริกันเสียชีวิตไปเป็นล้านคน ส่วนจีนเสียชีวิตแค่ประมาณห้าพันคน
หมัดที่สาม : สงครามค่าเงิน เริ้มในปี 2022 ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าอย่างมากเมื่อเปรียบกับค่าเงินหยวนของจีน สงครามครั้งนี้จีนแพ้อย่างราบคาบ
หมัดที่สี่ : สงครามทางด้านเทคโนโลยี เริ่มตั้งแต่ปี 2018 เมื่อสหรัฐฯแบนหัวเหว่ย ยักษ์ใหญ่ทางด้านมือถือของจีน จีนตอบโต้ด้วยการแบนบริษัทฯเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯเช่น Apple, Facebook และอื่นๆในหลายรูปแบบเช่นประชาสันพันธ์ให้ชาวจีนเลิกใช้สินค้าทางเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ เป็นต้น และล่าสุดสหรัฐฯผ่านร่างกฎหมายห้ามส่งออก Chip Computer ระดับสูงไปจีน งานนี้จีนถึงกับสะอึก และเริ่มแผนการสร้าง Chip Computer ด้วยตัวเอง ซึ่งคงจะต้องใช้เวลาหลายปี จึงจะตามสหรัฐฯทัน
หมัดที่ห้า : สงครามโดยใช้อาวุธจริง จีนประกาศกร้าวว่าจะรวมไต้หวันมาอยู่กับจีน สหรัฐฯโต้กลับทันทีว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่จีนบุกยึดไต้หวัน สหรัฐฯจะช่วยไต้หวันทันที สงครามนี้ยังไม่เกิดขึ้นจริง เพียงแต่เป็นสงครามนํ้าลายตอบโต้กันไปกันมาเท่านั้นเอง
โปรดติดตามรายละเอียดได้ในลิ้งค์เพจด้านล่าง :