ห้องเม่าปีกเหล็ก

ส่องหุ้น "รับ`ญี่ปุ่น-เอเชีย`เปิดประเทศ" AOT-AAV นำท่องเที่ยวรับข่าวดี

โดย ดอกชบา
เผยแพร่ :
1,701 views

ส่องหุ้นรับ`ญี่ปุ่น-เอเชีย`เปิดประเทศ AOT-AAV นำท่องเที่ยวรับข่าวดี

โบรกฯ เปิดลิสต์หุ้นท่องที่ยว จ่อรับอานิสงส์ ญี่ปุ่นเปิดประเทศ รับท่องเที่ยวฟรีวีซ่า 11 ต.ค.นี้ กลุ่มการบิน AOT - AAV ติดโผเป็นอันดับแรก ขณะที่ ฮ่องกง ไต้หวัน และไทย เดินหน้าเปิดปท.ตามหนุนหุ้นรับอานิสงส์อีกเพียบ

.

หลังจากวานนี้ นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวระหว่างเดินทางไปนครนิวยอร์กเพื่อร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติว่า ญี่ปุ่นจะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวฟรีวีซ่า ให้เข้าไปเที่ยวได้เองไม่ต้องผ่านบริษัททัวร์ และยกเลิกการจำกัดจานวน 50,000 คนต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม เป็นต้นไป ส่งผลให้นักวิเคราะห์ ออกมาประเมินถึงหุ้นที่จะได้รับประโยชน์ จากการเปิดฟรีวีซ่าของญี่ปุ่นในครั้งนี้

.

* กลุ่มธุรกิจการบิน - ส่งออกอาหารยิ้มรับอานิสงส์

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จากัด (มหาชน) หรือ DAOLเปิดเผยว่า มองเป็นบวกจากการที่ญี่ปุ่นประกาศเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ และหนุนให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศ และปริมาณการบริโภคในประเทศญี่ปุ่นมากขึ้น โดยเราประเมินว่าหุ้นที่จะ outperform จากข่าวดังกล่าวมากสุด ได้แก่ AOT, AAV, BAFS และ GFPT โดยมีรายละเอียดดังนี้

.

AOT จะช่วยให้จำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศฟื้นตัวได้ดีขึ้น เนื่องจากเป็นประเทศที่คนไทยนิยมไปท่องเที่ยวมาก ทั้งนี้ในช่วงก่อนที่มีการระบาดโควิด-19 AOT จะมีจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศเที่ยวบินจากญี่ปุ่นอยู่ในอันดับที่ 4 รองจากจีน, อินเดีย และเกาหลีใต้ และคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากเที่ยวบินญี่ปุ่นราว 5% จากรายได้ที่เกี่ยวกับกิจการการบิน (Aeronautical Revenue)

.

ดังนั้นจากการผ่อนคลายมาตรการเดินทางในหลายประเทศทั่วโลก ส่งผลให้ยังคงประมาณการผลการดำเนินงานปกติปี 65 ขาดทุนที่ -1.0 หมื่นล้านบาท (ดีขึ้นจากปี 64 ที่ขาดทุน -1.5 หมื่นล้านบาท) โดยแนวโน้ม Q4/65 จะขาดทุนลดลงต่อเนื่อง จากการผ่อนคลายเปิดประเทศและการกระตุ้นการท่องเที่ยว และจะเริ่มพลิกกลับมีกำไรได้ในปี 66 ที่ +6.8 พันล้านบาท

.

ทั้งนี้ เรายังประเมินจำนวนผู้โดยสารในปี 65 ที่ 46 ล้านคน (+130% YoY), 66 ที่ 90 ล้านคน (+96% YoY) และ 67 ที่ 135 ล้านคน (+41% YoY) กลับไปใกล้เคียง 64 ช่วงก่อนเกิดโควิด โดยเรายังคงแนะนา "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย ปี 66 ที่ 82.00 บาท ยังอิง DCF (WACC = 7%, terminal growth = 3.5%)

.

AAV จะได้ประโยชน์จากการเปิดเที่ยวบินเส้นทางใหม่ โดยสายการบินไทยแอร์เอเชียจะเริ่มเปิดให้บริการเส้นทางบินใหม่ไปเมืองฟูกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ในช่วง Q3/65 ซึ่งเป็นครั้งแรกตั้งแต่เปิดสายการบินที่มีเที่ยวบินไปญี่ปุ่น ซึ่งเราคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี เนื่องจากเป็นที่นิยมของคนไทยที่ต้องการไปท่องเที่ยว

.

ทั้งนี้เรายังประเมินผลการดำเนินงานปกติปี 65 จะขาดทุนที่ -7.0 พันล้านบาท โดยงวด ครึ่งปี 65 มีผลขาดทุน -4.5 พันล้านบาท สำหรับผลการดาเนินงานปกติ Q3/65 จะขาดทุนลดลงเป็น -1.5-1.8 ล้านบาท (Q2/65 ขาดทุน -2.3 พันล้านบาท) จากจำนวนผู้โดยสารที่ฟื้นตัวเร็วขึ้น โดยเรายังประเมินจานวนผู้โดยสารปี 65 ที่ 9 ล้านคน +207% YoY (ผู้โดยสาร ครึ่งปีแรก 65 อยู่ที่ 3.1 ล้านคน) ส่วนปี 66 ยังประเมินจะเริ่มกลับมามีกาไรได้ จากจานวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มเป็น 16 ล้านคน เรายังคงแนะนา "ซื้อ" ราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 3.30 บาท อิง 65 PBV ที่ 3.6 เท่า เทียบเท่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มสายการบินในภูมิภาค

.

BAFS จะได้อานิสงส์จากจำนวนเที่ยวบินและปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานที่เพิ่มขึ้น เราประเมินผลการดeเนินงาน Q4/65 มีโอกาส turnaround หลังจากที่ล่าสุดปริมาณเติมน้ามันอากาศยานอยู่ที่ราว 9 ล้านลิตร/วันแล้ว เทียบกับ breakeven ที่ 8.3 ล้านลิตร/วัน เราคงประมาณการปี 65 ขาดทุนปกติ -102 ล้านบาท เทียบกับปี 64 ที่ -785 ล้านบาท และปี 66 จะพลิกเป็นกาไรที่ 369 ล้านบาท คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 35.00 บาท อิง DCF

.

GFPT ได้อานิสงส์ปริมาณการส่งออกไก่ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นเป็น destination หลักของการส่งออกไก่ของประเทศไทย คิดเป็น 48% ของการส่งออกทั้งหมด ขณะที่ GFPT มีรายได้จากการส่งออกไปญี่ปุ่นใน 64 ที่ 11% ของรายได้รวม โดยการส่งออกไปญี่ปุ่นคิดเป็น 50% ของรายได้ export ของบริษัท

.

ทั้งนี้เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 65 อยู่ที่ 1,696 ล้านบาท (+711%YoY) และปี 65 1,787 ล้านบาท (+5%YoY) โดยเรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” GFPT และราคาเป้าหมายที่ 19.00 บาท อิง 65 PER ที่ 14.00 เท่า (5-year average PER)

.

* KS ชี้ ฮ่องกง - ไต้หวัน - ไทย จ่อเปิดปท.หนุนอีกแรง

บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KS เปิดเผยว่า ไม่ใช่เพียงแต่ญี่ปุ่น ที่เปิดประเทศ กระแสการเดินหน้าเปิดประเทศในหลายประเทศฝั่งเอเซีย ยังเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้อง เพราะนอกจากญี่ปุ่นยังมี ฮ่องกงและไต้หวัน เตรียมผ่อนคลายมาตรการกักตัวนักท่องเที่ยว คาดเริ่ม เดือน ต.ค.

.

ขณะเดียวกันไทยผ่อนคลายทางเดียวกันคือ วันนี้ศบค. เตรียมพิจารณาผ่อนคลายมาตรการ หากติดโควิด ไม่มีอาการ ไม่ต้องกักตัวแล้ว เพียงใส่แมสก์ ล้างมือ และเว้นระยะห่าง 5วันแทน โดยประชาชนส่วนใหญ่มีภูมิต้านทานจากการฉีดวัดซีนโควิด-19 ครอบคลุมมากกว่า 82% ขณะที่ในส่วนของนักท่องเที่ยวก่อนเข้าประเทศ ยกเลิกแสดงเอกสารวัคซีน หรือผลตรวจ ATK และเสนอเปิดผับตี 4 หนุนท่องเที่ยว

.

โดยรวม KS ประเมินมาตรการดังกล่าวจะเป็นบวกต่อกลุ่มเปิดเมือง (Commerce, Media,Mass transit, Gas station, F&B, Bank, Finance) 2.) ที่ประชุม ศบค.มีการออกมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศใหม่ๆ มองเป็น sentiment บวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม สายการ บิน โดยหุน้ Top pick ในกลุ่มท่องเที่ยวของ KS คือ AWC และ ERW ส่วนการเปิดประเทศของญี่ปุ่น/ฮ่องกง/ไต้หวัน และไทย คาดจะมี Sentiment บวก AOT, AAV, BA, AWC, ERW, EKH

.

* ท่องเที่ยว - การบิน จ่อคิวรับอานิสงส์เพียบ

บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ UOBKHST เปิดเผยว่า กลุ่มเปิดเมืองและท่องเที่ยวยังเป็นกลุ่มหลักที่เห็นการฟื้นตัว โมเมนตัมผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มนี้ยังอยู่ในทิศทางเป็นบวกสนับสนุนจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะที่ได้ปัจจัยบวกเพิ่มเติมจาก

.

1) ประชุมศบค.วันนี้ มีแนวโน้มยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน หลังยกเลิกการให้โควิดเป็นโรคติดต่ร้ายแรง โดยลดลงเหลือเพียงโรคที่ต้องเฝ้าระวัง 2) การเปิดประเทศของญี่ปุ่น (11 ต.ค.) และฮ่องกง (เตรียมประกาศนโยบายสัปดาห์นี้) จะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มสายการบิน ซึ่งช่วยในการฟื้นตัวของผลประกอบการ

.

ทั้งนี้แม้ประมาณการของเราจะยังไม่คาดหวังนักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางมาในเร็วๆนี้ จากการที่จีนยังใช้นโยบาย Zero Covid แต่ตลาดเริ่มคาดจะเห็นการยกเลิกนโยบายดังกล่าวในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งหากเร็วกว่านั้นจะเป็นปัจจัยบวกต่อประมาณการและอัพไซด์ของหุ้นกลุ่มเปิดเมืองและท่องเที่ยว

.

1) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA

.

2) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR, MBK

***********************************

 


ดอกชบา