Hot News - SET ดิ่งรับระเบิดใต้
โบรกฯ ออกโรงเตือน SET สัปดาห์นี้ดิ่งรับข่าวระเบิดภาคใต้ หลังสถิติ 10 ปีชี้ 5 เหตุการณ์ระเบิดสำคัญ จะกดดัน SET วันแรกหลังรับข่าวลงเฉลี่ย 0.8% - ต่างชาติขายสุทธิหุ้นเฉลี่ย 2.6 พันลบ. ส่วนรายสัปดาห์คาดลงเฉลี่ย 2.3% และรายเดือนลง 2.4% แต่ยังมองภาพรวมตลาดยังเหลืองบ Q2/59 ช่วยพยุงไว้ ชี้เป็นจังหวะดีหากลงมาที่ 1,490 จุด แนะควรหาจังหวะซื้อหุ้นเก็บ จากสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้เมื่อวันที่ 10-12 สิงหาคม 2559 มี 7 จังหวัด คือ ตรัง ภูเก็ต ประจวบฯ สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ และนครศรีธรรมราช โดยแบ่งเป็นเหตุระเบิดวันที่ 10 ส.ค. เวลา 19.00 น. พบระเบิดเพลิง 2 ลูก ในย่านการค้าป่าตอง จ.ภูเก็ต ต่อมา วันที่ 11 ส.ค. 15.00 น. ระเบิดที่ตลาดเซ็นเตอร์พอยท์ อ.เมืองตรัง ตาย 1 เจ็บ 6 และ 22.30 น. ระเบิด 2 จุดย่านบาร์เบียร์หัวหิน จ.ประจวบฯ ตาย 1 เจ็บกว่าสิบราย ส่งผลให้นักวิเคราะห์ ได้ออกมาประเมินสถานการณ์ดังกล่าว ต่อภาพรวมการลงทุนที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ (15-19 ส.ค.59) โดยอ้างอิงจาเหตุการณ์ระเบิดครั้งสำคัญในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าตลาดจะตอบรับกับข่าวดังกล่าวเชิงลบแต่จะเป็นเพียงระยะสั้นเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา โดยวันพฤหัสที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,552.64 จุด เพิ่มขึ้น 4.51 จุด หรือ 0.29% มูลค่าการซื้อขาย 76,995.24 ล้านบาท ขณะที่กระแสเงินต่างชาติที่ซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย ณ วันที่ 11 ส.ค.59 อยู่ที่ระดับ 102,778.22 ล้านบาท *** โบรกฯ มองตลาดวันนี้ตอบรับเชิงลบในช่วงสั้น นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ ทั้งการวางระเบิด (13 จุด)และวางเพลิง (4 จุด) ในช่วงวันที่ 11-12 ส.ค. 2559 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 รายบาดเจ็บประมาณ 30 ราย โดยฝ่ายวิจัยคาดว่า SET Index จะมีปฎิกิริยาเชิงลบตอบรับต่อเหตุการณ์ดังกล่าวในช่วงสั้น ก่อนที่จะค่อยๆฟื้นตัวอีกครั้ง (หากทางการสามารถควบคุมสถานการณ์ได้) โดนอ้างอิงจากเหตุการณ์วินาศกรรมที่สำคัญในอดีตตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทั้งในกทม. - และต่างจังหวัด โดยสรุปได้ประมาณ 5 เหตุการณ์สำคัญ ทั้ง เหตุระเบิดใน กทม 8 จุด ในช่วงรอยต่อระหว่าง 31 ธ.ค. 49 - 1 ม.ค. 50 , หตุระเบิดรับวาเลนไทน์ 14 ก.พ. 55, เหตุระเบิดที่โรงแรมลีการ์เด้นพลาซ่า หาดใหญ่ 31 มี.ค. 55 ,เหตุระเบิดหน้า ราม 43/1 26 พ.ค. 56 และ เหตุระเบิดแยกราชประสงค์ 17 ส.ค. 58 *** ชี้ 5 เหตุการณ์ที่ผ่านมา SET ลงวันแรกเฉลี่ย 0.8% - ต่างชาติขายเฉลี่ย 2.6 พันลบ. นายประกิต ประเมินว่า จากทั้ง 5 เหตุการณ์สามารถสรุปได้ว่า SET INDEX จะตอบสนองเชิงลบในวันแรกหลังเกิดเหตุการณ์เฉลี่ย ลบ 0.8% (ระหว่าง +0.2% จนถึงติดลบ 3.03%) นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิเฉลี่ย 2.6 พันล้านบาท และปรับลดลงตลอดทั้งสัปดาห์เฉลี่ย 2.3% (ระหว่าง + 1.12%. ถึง - 6.7%) และลงตลอดเดือน -2.4% (ระหว่าง 3.6% ถึง - 12.8%) ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า ตลาดจะลงหนักในช่วงวันแรก ต่อเนื่องไปตลอดทั้งสัปดาห์ก่อนจะค่อยๆฟื้นตัวในอีก 1-2 เดือนถัดไป *** ชี้หากลงแตะ 1,490 จุด หาจังหวะเข้าซื้อ สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในครั้งนี้ นายประกิตแนะนำว่า ตลาดยังมีประเด็นการประกาศผลประกอบการงวด 2Q59 ช่วงโค้งสุดท้ายเป็นตัวช่วย ซึ่งคาดว่าผลประกอบการโดยรวมจะมากกว่างวด Q1/59 (ยังไม่น่าเกิด Sell on Fact มาก)ประกอบกับกระแสเงินทุนยังเป็นขาเข้า (เริ่มมีสัญญาณลบจากการ Short ในตราสารอนุพันธ์) หากนักลงทุนต่างประเทศยังซื้อต่อ คาดว่าจะประคองตลาดให้ยืนเหนือ 1,490 จุด หากดัชนีลงมาที่บริเวณนี้จะเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเพื่อลงทุนระยะสั้นอีกครั้ง *** ประมวล 5 เหตุการณ์ ระเบิดในรอบ 10 ปี 1. เหตุระเบิดใน กทม 8 จุด ในช่วงรอยต่อระหว่าง 31 ธ.ค. 49 - 1 ม.ค. 50 มีผู้เสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บ 38 คน ผลที่เกิดขึ้น SET Index ปรับร่วงในวันทำการวันแรกหลังเกิดเหตุการณ์กว่า 3.03% และลงต่อเนื่องต่อไปอีกทั้งสัปดาห์จนติดลบ 6.77% (นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิตลอดสัปดาห์ 1.8 พันล้านบาท) ก่อนที่จะค่อยๆฟื้นตัวในอีก 1 เดือนถัดมาจนเหลือติดลบ 3.8% 2. เหตุระเบิดรับวาเลนไทน์ 14 ก.พ. 55 ที่ สุขุมวิท 71 เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 5 คน ผลกระทบต่อ SET Index ปรับลดลงในวันแรก 0.98% และพลิกกลับมาบวกในวันถัดมา 1.8% และบวกต่อเนื่องไปตลอดเดือน 2.9% 3. เหตุระเบิดที่โรงแรมลีการ์เด้นพลาซ่า หาดใหญ่ 31 มี.ค. 55 เป็นเหตุระเบิดครั้งรุนแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในไทย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 รายผลกระทบที่มีต่อ SET index ดัชนีบวกขึ้นมาในวันแรก 0.2% ก่อนจะมาปรัลลดลงในช่วงปลายสัปดาห์จรตอดลบ 1.19% แต่สามารถพลิกฟื้นบวกต่อเนื่องตลอด 1 เดือนถัดมากว่า 3.6% 4. เหตุระเบิดหน้า ราม 43/1 26 พ.ค. 56 มีผู้บาดเจ็บ 7 คน ผลกระทบต่อ SET Index ปรับลดลงในวันแรก 0.89% นักลงทุนต่างประเทศขายหนัก 6.6 พันล้านบาท ก่อนจะลงต่อเนื่องไปตลอดเดือนกว่า 12%ตามกระแสเงินทุนไหลออก (สภาวะตลาดช่วงนั้นกำลังกังวลต่อการยุติ QE) 5. เหตุระเบิดแยกราชประสงค์ 17 ส.ค. 58 มีผู้เสียชีวิต 20 คน และบาดเจ็บกว่า 100 คน (มีระเบิดต่อเนื่องที่สะพานตากสินในวันที่ 18 ส.ค .58) ผลกระทบต่อ SET Index ดัชนีร่วงหนักในวันที่ 18 ส.ค. กว่า 2.56% และลงต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์กว่า 3% ก่อนจะไปลงหนักในวันที่ 24 ส.ค. อีกกว่า 4.5% (สภาวะช่วงนั้นมีประเด็นเรื่องการชะบอตัวทางเศรษฐกิจทั้งจองไทยและจีนเป็นตัวกดดันหลัก) ทั้งนี้ตลาดสามารถฟื้นตัวได้ในอีก 2 เดือนถัดมา *** " อนุสรณ์ ธรรมใจ" หวั่นหุ้นโรงแรม - ท่องเที่ยว ค้าปลีก จะโดนเทเป็นกลุ่มแรก ผศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ และ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า ทางคณะเศรษฐศาสตร์ และ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจเพื่อการปฏิรูป ม. รังสิต ได้ประเมินผลกระทบของการก่อเหตุไม่สงบใน 7 จังหวัดภาคใต้ต่อเศรษฐกิจไทย ว่า มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวระดับหนึ่ง ความเชื่อมั่นของนักลงทุนโดยเฉพาะกองทุนต่างชาติในตลาดการเงินลดลง อาจเกิดการเทขายหุ้นบลูชิพ หุ้นกลุ่มโรงแรม หุ้นเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจค้าปลีก หรือกิจการที่มีฐานธุรกิจ ฐานการผลิตหรือธุรกรรมในภาคใต้ เหตุการณ์การก่อความไม่สงบไม่น่าจะกระทบต่อการลงทุนในภาคเศรษฐกิจจริง ส่วนภาคบริโภคน่าจะได้รับผลกระทบในระดับหนึ่งแต่ไม่มีนัยสำคัญอะไรและน่าจะกลับคืนสู่ภาวะปรกติโดยเร็ว โดยเหตุระเบิดก่อความไม่สงบทำให้โรงแรมในพื้นที่ก่อการ มีการยกเลิกการจองห้องพักมากกว่า 50% หลังเหตุระเบิด หากนำเปรียบเทียบกับผลกระทบจากเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2558 มีผลทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเฉลี่ยรายวันลดลงถึงร้อยละ 33 ในเดือนถัดไป และ มีผลให้ในไตรมาส 3/2558 นักท่องเที่ยวขยายตัวร้อยละ 24.3% โดยขยายตัวลดลงจากร้อยละ 36.92 ในไตรมาสก่อนหน้า เป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยว 32 ล้านคนปี 2559 เพิ่ม 8% จากปี 58 คาดว่าก่อให้เกิดรายได้ประมาณ 1.67 ล้านล้านบาท สัดส่วนของรายได้การท่องเที่ยวและธุรกิจต่อเนื่องอยู่ที่ 11-12% ของจีดีพี อาจพลาดเป้าหมายเล็กน้อย *** ประเมินความเสียหายเบื้องต้น 3.38 หมื่นลบ. แต่มั่นใจจีดีพีปีนี้ยังโต 3.2-3.5% จากการประเมินเบื้องต้นความเสียหายทางเศรษฐกิจและรายได้ที่สูญเสียไปในภาพรวมเบื้องต้นอยู่ที่ระดับ 33,800 ล้านบาท โดยรายได้ท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและในประเทศลดลงเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 33,400 ล้านบาทในช่วงเวลาที่เหลือของปีโดยเฉพาะไตรมาสสาม นอกจากนี้อาจเกิดการชะลอตัวในภาคการบริโภค ความเสียหายในตลาดการเงิน การชะลอตัวของภาคการลงทุน ภาคการจ้างงาน ต้นทุนการรักษาความปลอดภัยและต้นทุนการดำเนินธุรกิจและการดำเนินชีวิตเพิ่มขึ้น ความไม่แน่นอนและความเสี่ยงทางการเมืองที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ความเสียหายและต้นทุนเหล่านี้สามารถได้รับแก้ไขด้วยการดำเนินการและการตอบสนองที่เหมาะสมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อความมีเสถียรภาพ ความสงบสันติธรรม และความรุ่งเรืองของประเทศ อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานเข้มแข็งของเศรษฐกิจจึงยังคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ (พ.ศ. 2559) ที่ระดับ 3.2-3.5% เช่นเดิม ทุกอย่างจะสามารถกลับเข้าสู่ภาวะปรกติได้ในไม่ช้า และ การท่องเที่ยวจะฟื้นตัวได้ในไตรมาสสี่ *** รมว.ท่องเที่ยว - UNWTO มั่นใจท่องเที่ยวไม่กลัวระเบิด นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยตัวแทนจากสมาคมด้านการท่องเที่ยว จำนวน 20 สมาคม ประชุมหารือผลกระทบด้านการท่องเที่ยวจากเหตุระเบิดใน 7 จังหวัดพื้นที่ภาคใต้เมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการยกเลิกการจองจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งทางรัฐบาลเร่งสร้างความเข้าใจ เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับแต่ละประเทศ นอกจากนี้ นายทาเล็บ รีฟาย เลขาธิการองค์การท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ หรือ UNWTO ยังยืนยันเดินหน้าจัดงานวันท่องเที่ยวโลก ที่ประเทศไทยเหมือนเดิม ในวันที่ 27 กันยายนนี้ เนื่องจากเชื่อมั่นว่าประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางหลัก มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อนักท่องเที่ยวทั่วโลก เป็นสถานที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนาหลายด้าน และจะร่วมสนับสนุนทางการไทยในการต่อต้านพฤติกรรมที่น่าเกลียดของกลุ่มผู้ไม่หวังดีในครั้งนี้