การประชุม Fed ที่ผ่านมา ถือว่าไม่ผิดจากที่นักวิเคราะห์วอลสตรีทคาดสักเท่าไรนัก
แต่กลับกลายเป็นว่าส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยง เช่น ดัชนีตลาดหุ้น และสินค้าโภคภัณฑ์แกว่งตัวอย่างรุนแรง
ถามว่าสิ่งที่ Fed พูดไปเมื่อคืน มีประเด็นอะไรที่เราต้องสนใจบ้าง ?
อยากจะเล่าให้ฟังแบบนี้ครับ
สิ่งที Fed พูด มีอยู่ 2 เรื่องหลักๆ คือ เรื่องลด QE (อันนี้แน่นอนอยู่แล้ว)
และ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย (สร้างความเสี่ยงขาลงให้สินทรัพย์เสี่ยง) ซึ่งจะสรุปออกเป็น 3 หัวข้อ คือ
1. การปรับลดวงเงิน
Fed เน้นย้ําแผนเดิมว่าจะลดวงเงิน QE เดือนละ 3 หมื่นล้านเหรียญ ส่งผลให้มาตรการ QE สิ้นสุดเดือน มี.ค. 2565
2. การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
Fed แสดงความมั่นใจแล้วว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยแน่นอน อาจจะอยู่ในช่วงเดือนมีนาคม ปี 2565
แต่สิ่งที่ไม่ได้รับการตอบรับคือ "จะขึ้นกี่ครั้ง"ในปี 2565
นักวิเคราะห์ในวอลสตรีท แสดงความกังวลว่า ปีนี้ Fed อาจจะขึ้นดอกเบี้ย "4ครั้ง" หรือในแง่ร้ายคือ มากกว่านั้น ...
3. การปรับลดขนาดงบดุล
Fed แสดงความเชื่อมั่นว่าการปรับลดขนาดงบดุล จะเกิดขึ้นภายหลังจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกของปี 2565
แต่สิ่งที่ยังเป็นคำถามคือ "เมื่อไร" และวิธีการใด
นักวิเคราะห์คาดว่า อาจจะอยู่ในช่วงกลางปี 2565 ...
สำหรับวิธีการนั้น ยังไม่มีใครรู้
สิ่งที่ตลาดยังกังวล ประกอบไปด้วย 2 ประเด็นคือ
1. การปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed มีแนวโน้มจะปรับขึ้นมากกว่า 4 ครั้งในปีนี้ หรือไม่
ถ้ามีการปรับขึ้นจริงๆ จะดึงสภาพคล่องจากสินทรัพย์เสี่ยง เข้าไปยังสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า
จะทำให้เกิดการเทขายสินทรัพย์เสี่ยงมากน้อยแค่ไหน
2. งบดุลขนาดใหญ่มากถึง 9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ที่ Fed บอกว่าจะมีการปรับลด จะทำได้อย่างไร
เพราะตัวเลขที่กล่าวมา มีขนาดมหาศาลมากๆ ไม่น่าจะหาวิธีจัดการได้โดยง่าย
สรุป ... ถ้าให้สรุปแบบสั้นๆว่าตอนนี้ตลาดกำลัง "กลัว" อะไร
คำตอบ คือ กลัวสิ่งที่อยู่ในใจ Fed และยังไม่ได้รับคำตอบอย่างชัดเจน ครับ