หุ้นไทยปิดลบ 1.59 จุด กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์-การเงิน กดดันตลาด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 10 สิงหาคม ปิดที่ระดับ 1,617.21 จุด ลดลง 1.59 จุด (-0.10%)
โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวสูงสุดที่ 1,618.07 จุด ต่ำสุดที่ 1,606.09 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 67,116.24 ล้านบาท
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวทางลง โดยได้รับแรงกดดันจากแรงขายออกมาในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ หลังจากผลประกอบการของ KCE ออกมาน่าผิดหวัง ค่าเงินบาทมีทิศทางแข็งค่าขึ้น และ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐปรับตัวพักฐานลง ขณะที่กลุ่มการเงินได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการของ MTC ที่ออกมาได้น่าผิดหวัง ส่งผลให้มีแรงขายออกมาเช่นกัน
อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายดัชนีลดช่วงลบลงโดยมีแรงซื้อกลับเข้ามาจากกลุ่มพลังงาน หลังจากผลประกอบการออกมาได้ค่อนข้างดี ขณะที่ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายทางการเงิน(กนง.)มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามคาดที่ 0.25% และยังได้มีมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยด้วย
สำหรับแนวโน้มการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ (11 ส.ค.) ยังคงต้องรอติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ก.ค.ของสหรัฐในคืนนี้ หากออกมาต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดที่ 8.7% ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,630-1,640 จุด แต่อย่างไรก็ตามหากออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดดัชนีตลาดหุ้นไทยก็มีโอกาสที่จะลงไปทดสอบแนวรับที่ 1,600 จุด
5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด
- BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,873.16 ล้านบาท ปิดที่ 13.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
- KCE มูลค่าการซื้อขาย 2,725.48 ล้านบาท ปิดที่ 57.50 บาท ลดลง 5.00 บาท
- KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,609.22 ล้านบาท ปิดที่ 149.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
- IVL มูลค่าการซื้อขาย 2,422.78 ล้านบาท ปิดที่ 44.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
- AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,252.66 ล้านบาท ปิดที่ 72.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท