SABINA ช่องทางออฟไลน์และออนไลน์จะเป็นปัจจัยหนุนหลัก
มีอะไรใหม่? เราได้รับรู้จากการประชุมว่า
1) บริษัทฯ ได้เปิดตัวคอลเลกชั่นผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง Barbie Maggie Mae (call me your darling) และ SABINA Mad Moiselle เพื่อพยายามเพิ่มช่องทางการขายทั้งออฟไลน์และออนไลน์
2) บริษัทฯ คาดว่าผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจากนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่จะมีเพียงเล็กน้อย เนื่องจากค่าใช้จ่ายพิเศษที่เพิ่มขึ้นน่าจะอยู่ที่เพียง 60 ลบ.ต่อปี หรือเป็นสัดส่วนของต้นทุนขาย (COGS) ที่ 3% และค่าใช้จ่าย SG&A ที่ 0.8%
3) บริษัทฯ คาดว่ากลยุทธ์การประหยัดต้นทุนในการจ้างผู้ผลิตจากจีนและแผนระยะยาวในการใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อัตรากำไรขยายตัว
การวิเคราะห์ บริษัทฯ คงแนวทางธุรกิจปี 2566 โดยเป้ารายได้ในกรณีที่ดีที่สุดสำหรับปี 2566 อยู่ที่ 15% สูงกว่าประมาณการของเราที่ 9% ขณะที่ GPM และ SG&A ต่อเป้ารายได้ สอดคล้องกับสมมติฐานของเรา ซึ่งส่งผลให้ประมาณการกำไรจากการดำเนินงานปี 2566 ของเราที่ 588 ลบ. ต่ำกว่าสมมติฐานกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทฯ ประมาณ 11.5%
แนวโน้ม เราคงมุมมองเดิมของเราที่ว่ากำไรในครึ่งหลังของปี 2566 น่าจะใกล้เคียงกับในครึ่งปีแรก แม้ว่ารายได้จากช่องทางการขายออฟไลน์และออนไลน์จะเพิ่มขึ้น HoH แต่มีแนวโน้มที่จะถูกหักลบด้วยค่าใช้จ่าย SG&A ที่เพิ่มขึ้นตามค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่สูงขึ้นจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมกับการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยของยอด OEM โดยสถิติการส่งออกชุดชั้นในสตรีของไทยปี 2562-65 บอกเป็นนัยว่าจะเห็นการเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วย TP กลางปี 2567 ที่ 28.17 บาท ปัจจัยหนุนตัวคูณมูลค่าหุ้น ได้แก่ ความต้องการที่แข็งแกร่งของธุรกิจออฟไลน์ ออนไลน์ และ OEM
