EPG ส้มหล่นราคาน้ำมันดิ่ง ต้นทุนลดอัพรายได้หมื่นล.

EPG ส้มหล่นราคาน้ำมันดิ่ง ต้นทุนลดอัพรายได้หมื่นล.

รศ.ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG เปิดเผยว่า จากแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกที่อ่อนตัวลงต่อเนื่องจนล่าสุดอยู่ที่ 47.82 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (อิงข้อมูลของ Oil-Price.net ณ วันที่ 3 พ.ค. 60) นั้นบริษัทมองน่าจะเป็นผลบวกต่อธุรกิจ เพราะช่วยทำให้ต้นทุนการดำเนินงานปรับลดลง และสนับสนุนให้ความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุน

          นอกจากนี้ ในด้านธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกนั้นปี 2560 จะหันมามุ่งเน้นทำตลาดบรรจุภัณฑ์พลาสติกทั่วไปภายใต้แบรนด์น้องใหม่ "Eici" เพิ่มเติม เนื่องจากมองความต้องการตลาดในแถบประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ยังมีอัตราการเติบโตอย่างชัดเจน ผลมาจากแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ยังค่อนข้างโดดเด่น โดยเบื้องต้นประเมินมูลค่าตลาดของบรรจุภัณฑ์พลาสติกทั่วไปในแถบอาเซียนอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาทต่อปี จึงมองเป็นอีกช่องทางในการสร้างยอดขายของธุรกิจในอนาคต ซึ่งในระยะยาวธุรกิจหวังจะสามารถสร้างยอดขายภายใต้แบรนด์ใหม่อยู่ที่ราว 2 พันล้านบาทต่อปี

 ทุ่มงบ 2 พันล.ขยายฐาน

          ขณะที่เบื้องต้นในงวดบัญชีปี 2561 (เม.ย.60-มี.ค.61) บริษัทได้ตั้งงบลงทุนไว้ราว 2 พันล้านบาท รองรับเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจเพิ่มเติม แบ่งเป็นเงินลงทุนธุรกิจกลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ภายใต้แบรนด์ "AEROKLAS" และกลุ่มธุรกิจฉนวนกันความร้อนและเย็น ภายใต้แบรนด์ "AEROFLEX" คิดเป็นตัวเลขในส่วนนี้ราว 1 พันล้านบาท และที่เหลือใช้รองรับการปรับปรุง (รีโนเวต) เครื่องจักร เพื่อปรับปรุงและพัฒนาศักยภาพในการบริหารจัดการต้นทุนให้มี ประสิทธิภาพมากขึ้น

          ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ของ EPG ล่าสุด แบ่งเป็น การผลิตสินค้าเพื่อขายในต่างประเทศประมาณ 62-64% และที่เหลือเป็นการจัดจำหน่ายให้กับลูกค้าในไทย ซึ่งหากจำแนกตัวเลขตามโปรดักต์นั้น กลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ภายใต้แบรนด์ "AEROKLAS" รวมถึง TJM จะอยู่ที่กว่า 40%, กลุ่มบรรจุภัณฑ์ พลาสติกกว่า 20% ส่วนที่เหลือมาจากธุรกิจฉนวนกันความร้อนและเย็น ภายใต้แบรนด์ "AEROFLEX"

การันตีรายได้หมื่นล้าน

          อย่างไรก็ดี ในงวดบัญชีปี 2561 (เม.ย.60-มี.ค.61) บริษัทตั้งเป้าหมายไว้ที่มากกว่า 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากจากความต้องการทั้งในและต่างประเทศขยายตัวต่อเนื่อง หลังธุรกิจได้มีการเข้าไปเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ มากขึ้น รวมทั้งธุรกิจได้มีการนำแบรนด์น้องใหม่ "Eici" เพิ่มเติม ตลอดจนยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพในส่วนของไลน์ผลิต ทำให้สามารถบริการจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

          ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองเป็นบวกต่อหุ้น EPG เพราะคาดผลงานงวดบัญชีปี 2560 (เม.ย. 59-มี.ค. 60) บริษัทจะมีกำไรปกติอยู่ที่ 1.72 พันล้านบาท เติบโต 32.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน และน่าจะเติบโตต่อเนื่องอีก 19.2% ในงวดบัญชีปี 2561 เพื่อตอบรับแนวโน้มคำสั่งซื้อที่ดียิ่งขึ้น จึงให้คำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น EPG ให้ราคาเป้าหมาย 17.50 บาท

          ส่วนบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ฝ่ายวิเคราะห์ให้คำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น EPG โดยมีราคาเป้าหมาย 18.30 บาท หลังคาดกำไรปกติงวดบัญชีปี 2561 มีโอกาสเติบโต 25% ผลมาจากธุรกิจทั้ง 3 กลุ่มเติบโตได้เป็นอย่างดี ตลอดจนบริษัทสามารถควบคุมต้นทุนในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างชัดเจน

............................................................................................

ที่มา https://www.thunhoon.com/epg-60/