เปิดโผ 10 หุ้นถูกชอร์ตเซลถล่มมากสุด
ดัชนีหุ้นไทยนับตั้งแต่ต้นปีมาได้ปรับลดลง 451.55 จุดหรือ -28.58% และเป็นการปรับลดในเดือนมีนาคม ( 1-13 มี.ค.63 ) ถึง 212.23จุด หรือ -15.83% โดยเฉพาะในวันที่ 12 มี.ค. ที่ตลาดผันผวนดิ่งลงวันเดียวเกือบ 200 จุด ก่อนที่จะดีดกลับปิดลดลง 134.98 จุด หรือ -10.80% สู่ระดับดัชนี 1,114.91 จุด ต่ำสุดในรอบ 8 ปี 1 เดือน นับจากวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2555
อย่างไรก็ตามดัชนีหุ้นไทยเมื่อวันที่13 มีนาคม 63 ปรับตัวขึ้น 1.26% ปิดที่ 1,128.91 จุด จากการที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ร่วมศึกษาหาแนวทางในการดูแลตลาดหุ้นไทย โดยให้ความสำคัญใน 3 มาตรการหลัก ได้แก่การจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้น ซึ่งจะนำเสนอหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในวันจันทร์นี้ ( 16 มี.ค.) ,การขายหุ้นโดยไม่มีหุ้นในมือ(ชอร์ตเซล) โดยให้ไปศึกษาดูความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะสั่งห้ามไม่ให้มีการขายชอร์ตหุ้นในช่วงนี้ และเรื่องการบังคับขายหุ้น(ฟอร์ซเซล) จะสามารถผ่อนปรนอย่างไรได้บ้าง
ล่าสุดมาตรการเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ออกเกณฑ์การขายชอร์ตเป็นการชั่วคราว จากเดิมที่กำหนดให้สมาชิกจะขายชอร์ตได้เฉพาะในราคาที่ไม่ต่ำกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย (last trading price) เป็น "จะขายชอร์ตได้เฉพาะในราคาที่สูงกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย (last trading price)" โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่การซื้อขายในภาคบ่ายของวันที่ 13 มีนาคม 2563 และไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายน 2563 เพื่อช่วยสร้างความมั่นใจในการลงทุนให้แก่นักลงทุนในภาพรวม
สำหรับ 10 หลักทรัพย์ ที่"ฐานเศรษฐกิจ" รวบรวมจากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ตั้งแต่วันที่ 1-13 มีนาคม 2563 พบว่า 10 หลักทรัพย์ที่ถูกชอร์ตเป็นมูลค่ามากสุด เรียงลำดับดังนี้
1.PTT มูลค่า 3,888.95 ล้านบาท คิดเป็น 5.70 % ของปริมาณการขายชอร์ต ที่ราคาเฉลี่ย 29.83 บาท , 2.AOT มูลค่า 2,556.10 ล้านบาท คิดเป็น 7.80 % ของปริมาณการขายชอร์ต ราคาเฉลี่ยที่ 57.29บาท , 3. PTTEP มูลค่า 2,446.28 ล้านบาท คิดเป็น 6.30 % ของปริมาณการขายชอร์ต ราคาเฉลี่ยที่ 78.06 บาท ,4. ADVANC-R มูลค่า 2,015,57 ล้านบาท คิดเป็น 8.70 % ของปริมาณการขายชอร์ต ราคาเฉลี่ยที่ 188.02 บาท 5.GULF มูลค่า 1,688.19 ล้านบาท คิดเป็น 6.99 % ของปริมาณการขายชอร์ต ราคาเฉลี่ยที่ 149.13 บาท
6.AOT-R มูลค่า 1,556.58 ล้านบาท คิดเป็น 4.63 % ของปริมาณการขายชอร์ต ราคาเฉลี่ยที่ 58.74 บาท,7.ADVANC มูลค่า 1,499.65 ล้านบาท คิดเป็น 6.51 % ของปริมาณการขายชอร์ต ราคาเฉลี่ยที่ 58.74 บาท, 8.CPALL-R มูลค่า 1,440.40 ล้านบาท คิดเป็น 3.70 % ของปริมาณการขายชอร์ต ราคาเฉลี่ยที่ 65.89 บาท ,9.SCB-R มูลค่า 1,418.10 ล้านบาท คิดเป็น 7.77 % ของปริมาณการขายชอร์ต ราคาเฉลี่ยที่ 80.53 บาท และ 10.PTTEP-R มูลค่า 1,383.62 ล้านบาท คิดเป็น 3.60 % ของปริมาณการขายชอร์ต ราคาเฉลี่ยที่ 77.21 บาท (อ่านเพิ่มเติม : ตารางประกอบ )
อนึ่งการขายชอร์ต (Short Selling) คือการยืมหุ้นจากบริษัทโบรกเกอร์มาขายก่อน จากนั้นค่อยมาซื้อคืนภายหลังในราคาที่ต่ำกว่า โดยจะได้กำไรจากส่วนต่างราคา
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก