ห้องเม่าปีกเหล็ก

EARTH วิกฤติ! เจ้าหนี้หุ้นกู้รุมทึ้ง-ตลท.สั่งขึ้น "SP"

โดย stock-news
เผยแพร่ :
68 views
 
 

     "เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ"ระส่ำ! ล่าสุดผิดนัดชำระหนี้แบงก์แล้ว 717 ล้านบาท ส่งผลให้ผิดเงื่อนไขหุ้นกู้ 5.5 พันล้านบาท เจ้าหนี้เรียกไถ่ถอนได้ทันที ด้านบริษัทแจงต้นเหตุขาดสภาพคล่อง เพราะแบงก์เจ้าหนี้รายใหญ่ระงับวงเงินกู้กระทันหัน ลามถึงแบงก์อื่นไม่ยอมปล่อยกู้เพิ่ม ด้านนายแบงก์มองบริษัทใช้เงินกู้ผิดวัตถุประสงค์ ส่งผลถูกระงับปล่อยกู้ทันที ส่วน ตลท.สั่งห้ามซื้อขายหุ้น รอบริษัทชี้แจง  

 ***แจงขาดสภาพคล่อง เหตุแบงก์เจ้าหนี้ระงับการใช้วงเงินชั่วคราว


    
     บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH ชี้แจงสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตามประเด็นคำถาม ดังนี้


     1. รายละเอียดของสาเหตุของการผิดนัดชำระหนี้ และเหตุใดบริษัทจึงไม่อาจเตรียมการล่วงหน้าเพื่อมิให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้ดังกล่าว
     บริษัทฯ ขอชี้แจงว่า ได้ดำเนินธุรกิจการค้าถ่านหินทั้งในและต่างประเทศมาเป็นเวลายาวนานโดยได้รับการสนับสนุนสินเชื่อจากสถาบันการเงินในประเทศมามากกว่า 10 ปี ในอดีตที่ผ่านมาบริษัทไม่เคยมีประวัติค้างชำระหนี้ไม่ว่าจะเงินต้นหรือดอกเบี้ย หรือชำระหนี้ล่าช้าแม้แต่ครั้งเดียว อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายน 2560 สถาบันการเงินแห่งหนึ่งได้แจ้งบริษัทให้ระงับการใช้วงเงินชั่วคราว และลดภาระหนี้ที่มีต่อสถาบันการเงินดังกล่าวให้เหลือ 5,000 ล้านบาท โดยมีผลทันที


     อีกทั้ง บริษัทได้วางแผนออกหุ้นกู้ 5,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผนการจัดหาวงเงินหมุนเวียนเพิ่มเติม เพื่อชำระเงินกู้ประมาณ 3,500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะเป็นเงินหมุนเวียนของบริษัทแต่หุ้นกู้ดังกล่าวยังไม่ได้รับการพิจารณาจากสถาบันการเงิน ต่อมาในเดือน พฤษภาคม 2560 สถาบันการเงินดังกล่าวได้ล็อคบัญชีทั้งหมดของบริษัทที่มีกับสถาบันการเงิน ทั้งที่บริษัทยังมิได้ผิดนัดชำระหนี้หรือผิดเงื่อนไขกับทางสถาบันการเงินแต่อย่างใด ทำให้บริษัทขาดสภาพคล่องและไม่สามารถหาแหล่งเงินทุนสารองได้ทัน กอปรกับในช่วงระหว่างเดือนมกราคมจนถีงปัจจุบัน บริษัทได้ชำระหนี้ตั๋วแลกเงิน 4,122 ล้านบาท จากสาเหตุข้างต้น ทำให้บริษัทสูญเสียสภาพคล่อง และผิดนัดชำระหนี้ตัวแลกเงินในที่สุด


     2. ผลกระทบของการผิดนัดชำระหนี้ตามตั๋วแลกเงินที่อาจมีต่อหนี้อื่น เช่น หุ้นกู้ที่บริษัทท่านได้ออกและเสนอขาย และหนี้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน เป็นต้น


     บริษัท ขอสรุปผลกระทบจากการผิดนัดชำระหนี้ ดังนี้


    (ก) ขอแจ้งให้ทราบว่า ณ วันที่ 14 มิถุนายน 2560 บริษัทมีภาระหนี้ที่ผิดนัดชำระกับสถาบันการเงินรวมจานวน 717,504,097.97 บาท เข้าเงื่อนไขของการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ของบริษัทครั้งที่ 1/2558 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2560 และหุ้นกู้ของบริษัทครั้งที่ 1/2559 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2562 ซึ่งบริษัทจะแจ้งนายทะเบียนหุ้นกู้ถึงเหตุผิดนัดดังกล่าวต่อไป


    (ข) สถาบันการเงินอื่นได้พิจารณาทบทวนวงเงินสินเชื่อทั้งหมดของบริษัทอีกครั้ง ทำให้บริษัทไม่สามารถใช้วงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงินได้ รวมทั้งไม่สามารถออกตราสารหนี้ประเภทตั๋วแลกเงินฉบับใหม่เพื่อทดแทนตั๋วแลกเงินฉบับเดิมที่จะถึงกำหนดชำระ


    (ค) บริษัทถูกลดระดับความน่าเชื่อถือจากคู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งทำให้บริษัทต้องดาเนินธุรกรรมต่างๆในรูปแบบเงินสดมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อการบริหารสภาพคล่องทางการเงินของบริษัท


    3. แนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อให้บริษัทสามารถชำระหนี้ที่มีอยู่ได้ตามกำหนด

 

***ตลท.แขวน SP ไม่ชี้แจงถึงผลกระทบธุรกิจ
    

    ตลาดหลักทรัพย์ฯ หยุดพักการซื้อขาย โดยขึ้นเครื่องหมาย "SP" หลักทรัพย์ EARTH ตั้งแต่รอบบ่ายของวันที่ 15 มิถุนายน 2560 เป็นต้นไป จนกว่าบริษัทจะชี้แจงข้อมูลดังกล่าวครบถ้วนขึ้น


    ซึ่ง EARTH ยังไม่ได้ชี้แจงว่าการผิดนัดชำระหนี้ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการดำเนินธุรกิจตามปกติฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทอย่างไร เนื่องจากเป็นข้อมูลสำคัญที่กระทบต่อการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์

 

***นายแบงก์ มองถูกระงับวงเงินสินเชื่อ เหตุใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ 

 

    แหล่งข่าวจากวงการธนาคาร เผยกรณีธนาคารเจ้าหนี้ระงับการใช้วงเงินชั่วคราว EARTH และสั่งให้ลดหนี้ให้เหลือ 5 พันล้านบาททันทีนั้น เกิดจากการที่บริษัทได้ใช้เงินที่ผิดวัตถุประสงค์จากการขอวงเงินสินเชื่อของธนาคาร ทำให้ระบบของธนาคารจะต้องระงับวงเงินทันที หากตรวจสอบพบว่าลูกค้าใช้เงินผิดประเภท ซึ่งขั้นตอนจากนี้ไปจะต้องมีการเจรจากับลูกค้า โดยธนาคารจะต้องหาทางช่วยให้ลูกค้ากลับมาทำธุรกิจให้ได้โดยเร็ว เพราะเชื่อว่าขณะนี้ลูกค้ายังไม่ถูกจัดชั้นเป็นหนี้ที่มิก่อให้เกิดรายได้ (NPL)

 

***ธปท. ยันให้เจ้าหนี้- EARTH คุยกันเอง มั่นใจไม่กระทบแบงก์


    นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. กรณี EARTH ธปท.ได้ให้ธนาคารดำเนินการเจรจาระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ เนื่องจากในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ยังมีกระบวนการอื่นๆ ค่อนข้างมาก แต่อย่างไรก็ตาม ธปท. จะติดตามสถานการณ์และผลกระทบจากกรณีนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป สำหรับปัจจุบัน ระบบธนาคารพาณิชย์ยังมีเงินกองทุนอยู่ในระดับสูง


 
***โบรกฯ มองสินเชื่อที่ปล่อยอาจถูกจัดชั้นเป็น NPL คาด KTB โดนหนักสุด
    
    บล.กรุงศรี มองสินเชื่อที่ปล่อยให้ EARTH อาจต้องถูกจัดชั้นเป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) คาด KTB ถูกกระทบหนักสุด รองลงมาคือ KBANK จับตามูลค่าหลักประกัน หากนำหุ้นมาค้ำ แบงก์อาจต้องตั้งสำรองเพิ่มขึ้น ให้น้ำหนักกลุ่มธนาคารที่ NEUTRAL โดยสภาวะตลาดยังเป็นลบจากความเสี่ยงที่ลูกหนี้สินเชื่อธุรกิจอาจผิดนัดชำระหนี้


    ราคาหุ้น KTB ลดลง 3% ในขณะที่ราคาหุ้น KBANK ทรงตัวจากกระแสข่าวลบเรื่อง EARTH ผิดนัดไถ่ถอนตั๋ว B/E ในเดือนมิถุนายน 2017 โดย EARTH แจ้งว่าบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อต่อ credit line และแก้ปัญหาสภาพคล่องของบริษัท ซึ่งคาดว่าจะเสร็จในเดือนสิงหาคม 2017 ทั้งนี้ EARTH มีตั๋ว BE 520 ล้านบาทที่จะครบอายุในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม 2017 โดยใน 1Q17 บริษัทมียอดหนี้เงินกู้ธนาคาร 1.72 หมื่นล้านบาท และหุ้นกู้อีก 5.5 พันล้านบาท


    ทั้งนี้ ถ้าวิเคราะห์โดยใช้สมมติฐานว่าสินเชื่อที่ปล่อยให้ EARTH กลายเป็น NPL ทั้งก้อน ซึ่งปรากฎว่าสัดส่วน NPLของ KTB จะเพิ่มขึ้นเป็น 5.87% จาก 5.25% และของ KBANK จะเพิ่มเป็น 4.07% จาก 3.84% ในขณะที่สัดส่วน NPL coverage ของ KTB จะลดลงเหลือ 100% จาก 112% และของ KBANK จะลดลงเหลือ 128% จาก 135% ถ้าหากใช้สมมติฐานว่าหลักประกันมีมูลค่า 20% ของยอดสินเชื่อรวม และข้อมูลอื่นๆ ไม่เปลี่ยนแปลง กำไรสุทธิของ KTB จะลดลง 24% ในขณะที่กำไรสุทธิของ KBANK จะลดลง 6% ในปี FY17


    ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับมูลค่าหลักประกันของสินเชื่อที่ธนาคารปล่อยให้กับ EARTH แต่เชื่อว่าบริษัทอาจจะใช้หุ้นของบริษัทเป็นหลักประกัน ซึ่งจะทำให้ธนาครารต้องตั้งสำรองเพิ่มขึ้นมากกว่ากรณีที่หลักประกันเป็นเงินสด ที่ดิน และอาคาร การผิดนัดชำระหนี้สินเชื่อธุรกิจจะกดดันกำไรกลุ่มธนาคาร ยังคงชอบธนาคารเล็กเนื่องจากถูกกระทบจากการลดดอกเบี้ยเงินกู้และการลดอัตราค่าธรรมเนียมน้อยกว่า เชื่อว่าการผิดนัดชำระหนี้สินเชื่อธุรกิจจะเป็นปัจจัยกระตุ้นด้านลบในระยะสั้นของธนาคารใหญ่ และทำให้ credit cost ทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อไปในปีนี้ แต่ในอีกด้านหนึ่ง การผิดนัดชำระหนี้ตั๋ว BE ก็อาจจะเป็นตัวบีบให้บริษัทธุรกิจหันไปใช้บริการสินเชื่อจากธนาคารเพิ่มขึ้นจากเนื่องจากตลาดกังวลเกี่ยวกับตั๋ว BE

 

Cr. Efinancethai

 


stock-news