เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า วอเร็น บัฟเฟตต์เป็นนักลงทุนที่สวนกระแส ( Contrarian ) ซึ่งมีความหมายว่า“ คิดในทางตรงข้าม “ กับคนส่วนใหญ่ในตลาดที่เขาคิดเป็นกระแสกัน
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อปี ค.ศ 1964 วอเร็น บัฟเฟตต์ได้เข้าลงทุนหุ้น American Express ในตอนที่มีข่าวฉาวโฉ่เกี่ยวกับการขาดทุนอย่างมากมายมหาศาลในการเข้าไปลงทุนในน้าสลัดของ American Express หรือ ที่เรียกว่า “ Salad Oil Scandal “ ในขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงการลงทุนใน American Express วอเร็น บัฟเฟตต์ กลับเห็นว่าเป็นโอกาส และ มีความคิดสวนกระแสของคนส่วนใหญ่ ( Contrarian ) โดยคิดว่าหุ้น American Express ได้ปรับตัวลงมาสะท้อนข่าวที่เกิดขึ้น จนต่าเตี้ยเลี่ยดิน มีราคาถูกแสนถูก หรือที่ เบนจามิน เกรแฮม เรียกว่ามี “ Margin of Safety “ และ เป็นเวลาที่สมควรลงทุน เพราะ เรื่อง “ Salad Oil Scandal “ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น และ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจหลักคือธุรกิจการเงินของ American Express แต่อย่างใด และในที่สุด วอเร็น บัฟเฟตต์ก็คาดการณ์ได้ถูกต้อง และ ได้กำไรที่ดีจากการลงทุนใน American Express ในครั้งนั้น เพราะในที่สุดแล้ว American Express ก็ยกเลิกการลงทุนในน้าสลัดและธุรกิจอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการเงิน และ กลับมามุ่งเน้นในธุรกิจที่ตัวเองมีความถนัดคือธุรกิจการเงินแต่เพียงอย่างเดียว และ มีผลประกอบการที่ดีขึ้นเรื่อยๆในเวลาต่อมาจนถึงปัจจุบัน
กรณี“ เสือดำ “ ที่เป็นข่าวฉาวโฉ่แบบชนิดที่ว่า “ จะเป็นจะตายกันให้ได้ทั่วทั้งประเทศไทยเลยทีเดียว “ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ มาจนถึงเดือน เมษายน ปี พ.ศ 2561นั้น ถ้าไปสอบถามนักลงทุนส่วนใหญ่ก็จะมีความเห็นตรงกันว่าให้หลีกเลี่ยงหุ้นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ "เสือดํา " อย่างไรก็ตาม มีนักลงทุนส่วนน้อยเท่านั้นเองที่คิดว่ากรณีนี้น่าจะเข้าข่ายกรณี“ Salad Oil Scandal “ ได้ เพราะ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชั่วครั้งชั่วคราว และ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารงานโดยตรงและปัจจัยพื้นฐานที่ดีที่จะรองรับในอนาคตของบริษัทฯเลย และ เมื่อเวลาผ่านไป กรณี “ เสือดำ “ ก็น่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับกรณี “ Salad Oil Scandal “ในอดีต แล้วเมื่อถึงตอนนั้นแล้วผู้คนก็จะลืมกันไป ปล่อยให้ “ นักลงทุนผู้ชาญฉลาด “ ตามนิยามของเบนจามิน เกรแฮม ได้ตักตวงผลประโยชน์ด้วยการที่ได้ซื้อหุ้นที่มีราคาถูกแสนถูก หรือ มี “ Margin of Safety “ และ ได้รับผลตอบแทนที่ดี เมื่อมีความคืบหน้าในการประมูลโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาท โครงการทวาย และ โปแตส จ.อุดรฯ ในอนาคต เหมือนกับกรณีที่ วอเร็น บัฟเฟตต์ลงทุนในหุ้น American Express ในปี ค.ศ 1964
หมายเหตุ : 1) ปัจจุบันวอเร็น บัฟเฟตต์ยังถือหุ้น American Express อยู่ในสัดส่วน 7.9% ของพอร์ตของเขา ส่วนธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในไทยนั้น เนื่องจากเป็นธุรกิจวัฏจักร เพราะฉะนั้นระยะเวลาการลงทุนในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างจึงไม่ควรเกินครึ่งหลังของปี พ.ศ 2563 เท่านั้น
2) ราคาหุ้น ITD และ ITD-W1 ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์ " เสือดํา " ทําจุดตํ่าสุดในรอบ 3 ปี จาก ( www.settrade.com ) เป็นดังนี้คือ :
2.1) ITD ทําจุดตํ่าสุดที่ 2.96 บาท ( จากจุดสูงสุดที่ 9.60 บาท เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ 2558 หรือลดลง -69.17% ภายในระยะเวลา 3 ปี ) เมื่อวันที่ 4 เมษายน ปี พ.ศ 2561 และ ปิดที่ 3.02 บาท เมื่อวานนี้ วันที่ 22 มิถุนายน ปี พ.ศ 2561
2.2) ITD-W1 ทําจุดตํ่าสุดที่ 0.07 บาท ( จากจุดสูงสุดที่ 2.20 บาท เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ปี พ.ศ 2558 หรือลดลง -96.82% ภายในระยะเวลา 3 ปี ) ระหว่างวันที่ 10 เมษายน ถึง 10 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2561 และ ปิดที่ 0.13 บาท เมื่อวานนี้ วันที่ 22 มิถุนายน ปี พ.ศ 2561
3) โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com
4) ผู้โพสต์ขอเรียนให้ทุกท่านทราบว่า ผู้โพสต์ไม่ได้มีวัตถุประสงค์หรือเจตนาที่จะชักชวน ชี้นํา หรือ ชี้เป้าให้ท่านนักลงทุนที่เข้ามาดู เข้ามาอ่าน หรือ เข้ามา View มาลงทุนหรือไม่ลงทุนตามแนวทางที่ผู้โพสต์ได้นําเสนอไป และ จะนําเสนอต่อไปในอนาคต และ จะไม่รับประกันผลตอบแทน ตลอดจนจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นในกรณีที่มีการนําข้อมูล หรือ ความเห็นส่วนตัวของผู้โพสต์ไปใช้แล้วเกิดความเสียหายขึ้น ผู้โพสต์หวังแต่เพียงว่าข้อมูล และ ความคิดเห็นส่วนตัวดังกล่าวข้างต้นของผู้โพสต์ อาจจะเป็นประโยชน์ต่อท่านนักลงทุนที่เข้ามาดู และ เข้ามา View บ้างไม่มากก็น้อย ทั้งในปัจจุบัน และ อนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจเข้าลงทุน หรือ ไม่ลงทุน