ถ้าเชื่อว่าปี 2566 เศรษฐกิจถดถอย คุณสมบัติแบบไหนที่ซื้อหุ้นได้

.
กลิ่นเศรษฐกิจโลกปี 2566 เข้าสู่ภาวะถดถอยเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF - ไอเอ็มเอฟ) กล่าวเอาไว้ในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกว่า “ภาวะเลวร้ายที่สุดกำลังรออยู่ข้างหน้า และประชาชนจำนวนมากจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2566” หรือบรรดานักวิเคราะห์ ผู้บริหารระดับสูง ต่างประเมินไปทิศทางเดียวกันถึงเค้าลางการชะลอตัวเศรษฐกิจโลก
.
ภาวะเศรษฐกิจถดถอยไม่ใช่แค่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่เท่านั้น แต่มักจะมาพร้อมกับสถานการณ์อื่น ๆ เช่น การว่างงาน เงินทองฝืดเคือง ปัญหาหนี้สิน รวมถึงมาตรการต่าง ๆ จากภาครัฐที่ออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชน
.
เช่นเดียวกันกับการลงทุน หลายคนอาจสงสัยว่าเป็นความคิดที่ดีหรือไม่ ถ้าจะลงทุนในภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรืออาจถามตัวเองว่าจะดีกว่าหรือไม่ถ้าจะนำเงินทุกบาทที่หามาได้ เก็บไว้ในรูปเงินสด หรือไม่ก็ฝากบัญชีออมทรัพย์
.
ดังนั้น คำถามที่ตามมาคงหนีไม่พ้นว่า การลงทุนหุ้นในช่วงเศรษฐกิจถดถอยยังคงปลอดภัยหรือไม่ เพราะในทางทฤษฎีแล้วมูลค่าหุ้นมักปรับลดลงในช่วงเศรษฐกิจถดถอย พูดง่าย ๆ ถ้ามีหุ้นและไม่ขายอาจทำให้พอร์ตลงทุนปรับลดลงและมีโอกาสขาดทุน
.
อย่างไรก็ตาม ถ้ามองอีกมุม เมื่อมูลค่าหุ้นปรับลดลงอาจเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ซื้อหุ้นราคาถูก หมายความว่า การลงทุนหุ้นในช่วงเศรษฐกิจถดถอยยังเป็นความคิดที่ดี แต่กระนั้นก็ไม่ใช่ทุกคนที่ลงทุนได้ เพราะผู้ที่ลงทุนได้ควรมีคุณสมบัติเหล่านี้
.
.
เงินออมเผื่อฉุกเฉินถือเป็นบัญชีแรกที่ต้องเตรียมเพื่อรับมือกับเรื่องฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว เช่น ตกงาน ประสบอุบัติเหตุ เจ็บป่วยไม่สามารถทำงานได้ ดังนั้น ควรมีเงินออมเผื่อฉุกเฉินไว้อย่างน้อย 3 - 6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน เช่น มีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือน รายจ่ายต่อเดือนไม่ควรเกิน 70% ของรายได้ คิดเป็นเงิน 10,500 บาท ดังนั้น ขั้นต่ำเงินสำรองฉุกเฉินที่ต้องเตรียมไว้ คือ 31,500 บาท เพื่อให้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 3 เดือน
.
หมายความว่า ถ้ามีเงินออมเผื่อฉุกเฉินเพียงพอ ประกอบกับมีเงินใช้จ่ายประจำชีวิตเพียงพอ ก็สามารถลงทุนในช่วงเศรษฐกิจถดถอยได้ แต่ถ้ายังไม่มีเงินออมเผื่อฉุกเฉิน ควรเก็บเงินให้เพียงพอก่อน
.
.
การลงทุนในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ถือเป็นบททดสอบจิตใจ ถ้าจิตใจไม่เข้มแข็ง กลัวความเสียหายจะเกิดขึ้นกับการลงทุน อาจทำให้เกิดความกดดันและความเครียด ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการลงทุนโดยรวมและต่อสุขภาพจิต ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงการขาดทุนในภาวะถดถอยและก้าวไปข้างหน้า คือ การลงทุนระยะยาว และพิจารณาการลงทุนอย่างรอบคอบ มีความอดทน และมีวินัยในการลงทุน ถึงแม้พบว่าความผันผวนของตลาดในระยะสั้น แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อพอร์ตการลงทุนในระยะยาว
.
.
เมื่อเศรษฐกิจถดถอย ทำให้ตลาดหุ้นผันผวนรุนแรง อาจทำให้นักลงทุนมีแนวโน้มที่จะเข้าไปดูความเคลื่อนไหวพอร์ตลงทุนทุกวัน ซึ่งยิ่งดูพอร์ตลงทุนมากเท่าไหร่ยิ่งมีแนวโน้มที่จะตื่นตระหนกมากขึ้นเท่านั้น ผลที่ตามมาก็จะเสี่ยงกับการตัดสินใจอย่างผลีผลาม เช่น ขายหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแรงออกไป เพียงแค่เห็นว่าราคาหุ้นปรับลดลง ดังนั้น ผู้ที่เหมาะกับการลงทุนในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ควรมีความมั่นใจกับพอร์ตลงทุน เข้าไปดูพอร์ตลงทุนไตรมาสละครั้งหรือพิจารณาปรับพอร์ตปีละครั้ง
.
สำหรับหุ้นที่จะช่วยสร้างผลตอบแทนได้ดีในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ควรมีลักษณะเด่น 4 ประการ (แนะนำโดย บล.อินโนเวสท์ เอกซ์)
.
1. มีอำนาจในการกำหนดราคาสูงและงบดุลดี มีความแข็งแกร่ง จะช่วยป้องกันผลกระทบจากแรงกดดันด้านต้นทุนสูงและความเสี่ยงจากภายนอก
.
2. ดึงดูดอุปสงค์ในประเทศหรือได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศที่น่าจะมีโมเมนตัมเป็นบวกมากขึ้นจากการกลับมาเปิดประเทศของจีน
.
3. มีผลการดำเนินงานที่มีการเติบโตอย่างชัดเจนและต่อเนื่อง โดยในสภาวะแวดล้อมที่ความเสี่ยงด้านการประเมินมูลค่าหุ้นจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยลดน้อยลงและเศรษฐกิจเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง หุ้นที่กำไรเติบโตสูงจะได้รับประโยชน์มากที่สุด
.
4. มีความทนทานในทุกสภาวะตลาด เช่น หุ้นที่จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอติดต่อกันหลายปี เช่น 5 ปี 10 ปี เป็นต้น
.
อ้างอิง : https://www.setinvestnow.com/.../222-tsi-set-investment...