‘เนชั่น’เน้น3ธุรกิจหลักดันกำไรโต
“เนชั่น มัลติมีเดีย” เน้น 3 ธุรกิจ ‘ออฟไลน์ -ออนไลน์- อีเวนต์’ หวังดันรายได้ กำไรเติบโต เล็งแถลงแผนรุกดิจิทัล 10 ต.ค.นี้ เตรียม เสนอบอร์ด พิจารณาแผนล้างขาดทุนสะสมที่มี 3.2 พันล้านบาทวันที่ 4 ต.ค.นี้ หลังผู้ถือหุ้นเสนอการเพิ่มทุน-ลดทุน แย้ม จากภาระหนี้บริษัทลดลงมาก ประกอบกับทิศทางธุรกิจดีขึ้นหนุนผู้ถือหุ้นใหญ่ มั่นใจพร้อมใส่เงิน หากบริษัทต้องการเพิ่มทุน คาดหุ้นกลับมาเทรดภายในปีนี้ หลังส่งงบไตรมาส 1-2 ปี 62
นายสมชาย มีเสน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ NMG เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าเป็นผู้ให้บริการด้านข้อมูล (Content Provider) และการจัดกิจกรรมต่างๆ โดยจะเน้น 3 ธุรกิจหลัก คือ 1.ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อโทรทัศน์ (OffLine) 2. ธุรกิจออนไลน์ ภายใต้บริษัท เนชั่น ดิจิตอล จำกัด (On Line) และ 3. ธุรกิจจัดกิจกรรมต่างๆ (Onground) เช่น กิจรรมเกี่ยวกับกีฬา จัดสัมมนา และจัดหลักสูตรอบรม โดยตั้งเป้ารายได้จากการจัดกิจกรรมต่างๆ ปี 2562 ที่ 150 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี2561 ที่มีรายได้ 93.28 ล้านบาท โดยบริษัทจะประสานความร่วมมือทั้ง 3 ธุรกิจหลัก เพื่อสร้างการเติบโตของรายได้ และหนุนมีกำไรสุทธิที่ดี
สำหรับผลการดำเนินงานปีนี้ มั่นใจว่าจะมีกำไรสุทธิต่อเนื่องจากปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 290 ล้านบาท เพราะบริษัทรุกธุรกิจด้านออนไลน์มากขึ้น โดยในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ บริษัทจะประกาศยุทธศาสตร์การทำธุรกิจออนไลน์ ภายใต้ชื่อ “เนชั่น ทรานส์ฟอร์ม” โดยใช้บริษัท เนชั่น ดิจิตอล จำกัด ซึ่งเปลี่ยนชื่อมาจากบริษัท สปริง 26 จำกัด โดยจะนำธุรกิจสื่อออนไลน์ทุกแบรนด์ภายใต้เครือเนชั่น รวมอยู่ในบริษัทดังกล่าว และตั้งเป้าที่จะมีผู้ดูเพจวิว เพิ่มเป็น 10 ล้านเพจวิว ภายในปี 2563 จากปัจจุบันอยู่ที่ 8 ล้านเพจวิว
ทั้งนี้จากการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 วานนี้ (27 ก.ย. 62) เสนอให้มีการลดทุนเพิ่มทุน เพื่อล้างขาดทุนสะสมที่มีมูลค่า 3,202.63 ล้านบาท ซึ่งฝ่ายบริหาร จะมีการนำเรื่องดังกล่าว เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ในการประชุมวันที่ 4 ตุลาคม 2562 นี้ โดยปัจจุบันบริษัทมีหนี้สินรวม 825.23 ล้านบาท (ณ 31 ส.ค. 62) ลดลงจากช่วงที่คณะผู้บริหารใหม่ เข้ามารับตำแหน่งวันที่ 1 มกราคม 2561 มีหนี้สินรวม 3,935.41 ล้านบาท จากการเจรจาลดหนี้และขายสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อนำเงินไปชำระหนี้ ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีภาระการจ่ายดอกเบี้ยที่ลด ลง เหลือปีละ 19.79 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ปีละ 153.48 ล้านบาท
ดังนั้นเมื่อบริษัทมีหนี้สินที่ลดลง และมีแผนการดำเนินธุรกิจชัดเจนจะทำให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท มีความมั่นใจว่าบริษัทมีแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นทำให้พร้อมที่จะใส่เงินเพิ่มทุน หากบริษัทจะเพิ่มทุนจดทะเบียน เพื่อลดผลขาดทุนสะสม
นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่จะชำระหนี้ที่เหลือในปี 2563 เพื่อทำให้ฐานะการเงินของบริษัทแข็งแกร่ง และเป็นบริษัทไม่มีหนี้
นายสมชาย กล่าวว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติให้บริษัทมีการคืนใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลช่อง SPRING26 เดิมชื่อ NOW26 เพราะการคืนใบอนุญาตดังกล่าวทำให้บริษัทได้รับเงินชดเชย 890.83 ล้านบาท และเมื่อหักค่าธรรมเนียมค้างจ่ายและชำระหนี้ต่างๆจะทำให้บริษัทมีเงินสุทธิ 486.62 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะนำไปชำระหนี้
สำหรับความคืบหน้าคดีฟ้องร้องของบริษัทที่มี 3 คดี ว่า คดีที่ 1 ที่อดีตผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีของบริษัทฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทจำนวน 47 ล้านบาท กรณีที่บริษัทเลิกจ้าง ไม่เป็นธรรม ซึ่งในศาลชั้นต้นตัดสินให้บริษัทชนะคดีแล้ว เพราะการที่บริษัทเลิกจ้างจาก อดีตผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการทำบัญชีที่ไม่สุจริต เกี่ยวกับรายการรายได้ค้างรับ แต่ทางอดีตผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีได้ยิื่นอุทธรณ์ คดีที่ 2 บริษัทได้ฟ้องแพ่งอดีตผู้บริหาร 3 ราย ซึ่งทางศาลจะนัดสืบพยาน ในเดือนมีนาคม 2563 เพราะอดีตผู้บริหารดังกล่าวแจ้งเลื่อนการนัดสืบพยาน และคาดว่าศาลจะพิจารณามีคำตัดสินได้ในเดือนพฤษภาคม 2563 และ 3.บริษัทได้มีการยื่นคำร้องให้ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ดำเนินคดีกับอดีตผู้บริหารที่บริษัทฟ้อง 3 รายจากปฏิบัติหน้าที่ไม่สุจริต ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการพิจารณาของก.ล.ต.
ส่วนความคืบหน้าดำเนินการให้หุ้นของบริษัทกลับมาซื้อขาย จากปัจจุบันห้ามซื้อขาย (SP)นายสมชาย กล่าวว่า จากที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติงบการเงินงวดปี 2561 แล้ว บริษัทจะเร่งปิดงบการเงินสำหรับผลประกอบการไตรมาส 1 และ 2 ปี 2562 ซึ่งหากบริษัทส่งงบเรียบร้อย หุ้นของบริษัทจะกลับมาซื้อขายได้คาดว่าจะเป็นภายในปีนี้
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก