PTTGC ส่งสัญญาณปี 66

PTTGC ส่งสัญญาณปี 66 ธุรกิจฟื้นตัว

จับตาจีนกระตุ้น EV หนุนยอดผลิตยานยนต์ไฟฟ้า

.

PTTGC ประเมินแนวโน้มไตรมาส 4/2565 ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะไม่เท่ากับไตรมาส 3/2565 แล้ว ชี้ปี 2566 ปริมาณการขายจะปรับตัวเพิ่มขึ้น การใช้กำลังการผลิตมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น หลังปิดซ่อมบำรุงน้อยลง โดยธุรกิจปิโตรเคมี จะมีปัจจัยบวก จากมาตรการกระตุ้น EV ของจีน ส่วน Allnex จะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งหลังปี 2565

.

นายจิตศักดิ์ สุนทรพันธุ์ ผู้จัดการฝ่าย การเงินองค์กรและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เปิดเผยว่า แนวโน้มไตรมาส 4/2565 เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2565 คาดว่าจะมีผลกระทบจากขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงลดลงน้อยลง เนื่องจากสัญญาโดยรวมมีการเปลี่ยนผ่านไปแล้ว ส่วนการขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน คาดไม่น่าจะกระทบเท่าไตรมาส 3/2565 โดยค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าแล้ว

.

ทั้งนี้ในปี 2566 ประเมินว่าปริมาณการขาย และปริมาณการผลิตจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการใช้กำลังการผลิตมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เพราะว่าปี 2566 จะมีการปิดซ่อมบำรุงประจำปีลดน้อยลง หลังจากปี 2565 ที่มีการปิดซ่อมบำรุงประจำปี ขณะที่โรงงานใหม่ๆ จะเริ่มเปิดดำเนินการอีกด้วย โดยในปี 2566 กำหนดงบลงทุนรวมราว 338 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รองรับการปรับปรุงโรงงานต่างๆ และ Allnex ตามแผนการเติบโต

.

สำหรับตลาดน้ำมันดิบในปี 2566 จะมีทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบ โดยปัจจัยลบจากประเด็นความกังวลเศรษฐกิจถดถอย และนโยบายมาตรการโควิด-19 ของจีน แต่คาดครึ่งปีหลัง 2566 จีนจะมีมาตรการผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อจะกระตุ้นอุปสงค์ในตลาดได้ ขณะที่กลุ่มโอเปก ยังมีความตั้งใจรักษาระดับกำลังการผลิต เพื่อพยุงราคาน้ำมันดิบให้อยู่ในระดับสูง จึงเชื่อปี 2566 ราคาน้ำมันดิบจะอยู่ในกรอบ 85-90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

.

ส่วนธุรกิจปิโตรเคมีปี 2566 จะมีปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้น EV ของจีน อย่างมาตรการคืนภาษีให้กับประชาชนที่ซื้อรถ EV จึงคาดจะหนุนกำลังการผลิตรถในปี 2566 นอกจากนี้ในประเทศอื่นๆ ยังเชื่อว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องเช่นกัน ขณะเดียวกันหากมีการท่องเที่ยวระหว่างประเทศมากขึ้น เชื่อว่าจะกระตุ้นความต้องการเส้นใยสิ่งทอในตลาดด้วย ส่วนอุตสาหกรรมแพกเก็จจิ้ง จะมีเทศกาลปีใหม่เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นการใช้ได้ดี และต่อเนื่องไปยังปี 2566

.

ด้าน Allnex ปัจจุบันได้รับแรงกดดันจากอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่ปี 2566 อเมริกาเหนือคาดจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งจีนน่าจะมีมาตรการคลายล็อกดาวน์ แต่ต้องติดตามความขัดแย้งรัสเซีย ยุโรป รวมทั้งก๊าซที่ใช้ในภาคครัวเรือนและภาคการผลิตในยุโรปยังมีความไม่แน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม Allnex น่าจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งหลังปี 2565

.

“ปี 2566 ยังคงมองปัจจัยต่างๆ ต่อเนื่อง ทั้งความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย ยูเครน รวมถึงนโยบายประเทศจีน และประเด็นเศรษฐกิจถดถอย ที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามว่าจะเป็นอย่างไร จะมีผลกระทบอย่างไร โดยภาพรวมธุรกิจบริษัทจะมีการบริหารจัดการด้วยความระมัดระวัง เพื่อรองรับสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”นายจิตศักดิ์ กล่าว