บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า หลังจากวานนี้ (4 ม.ค.) SET INDEX ทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 1791.02 จุด ทุบสถิติเดิมที่เคยทำไว้เมื่อวันที่ 5 ม.ค.2537 หรือ 24 ปีก่อน และเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อ SET INDEX เป็นแนวโน้มขาขึ้นใน 1Q60 และประเมินเป้าหมายดัชนีในปี 2561 ไว้ที่ 1870 จุดสำหรับกรณีฐาน (Base Case) อิงอัตราการเติบโตของกำไรตลาดที่ 10% YoY
อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้น SET INDEX อาจมีความผันผวนบ้าง เพราะในเชิงจิตวิทยา เมื่อเข้าใกล้แนวต้านใหญ่ อาจมีแรงขายทำกำไรเร่งขึ้น ดังนั้น นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย การลงทุนในหุ้นปันผลเด่น (High Dividend Yield) คือ ทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะเงินปันผล เปรียบเสมือน เบาะรองรับ เมื่อราคาหุ้นเกิดการพักฐานหรือปรับฐานรอบสั้น
สำหรับ Top 10 High Dividend Yield Stocks ที่คัดเลือกมามีดังนี้
1. KKP (ราคาเหมาะสม 80 บาท) เป็นหุ้นที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend Yield) สูงสุดใน Yuanta Universe ราว 4.97% แม้ว่า ในเชิงปัจจัยพื้นฐานเราแนะนำเพียงเก็งกำไร จากราคาเหมาะสมที่มี Upside จำกัดจากราคาปัจจุบัน
2. TKS (ราคาเหมาะสม 14.70 บาท) แม้มีปัจจัยกดดัน (Overhang) จากการประกาศเพิ่มทุน (ขึ้นเครื่องหมาย XR วันที่ 23 ก.พ.61) แต่การที่ราคาหุ้นปรับฐานลงมามากถึง 33% ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย.60 ทำให้ Dividend Yield สูงเป็นอันดับ 2 ที่ 4.66% และราคาหุ้นเริ่มทรงตัวได้ดีขึ้น
3. TISCO (ราคาเหมาะสม 95 บาท) นอกจาก Dividend Yield ที่โดดเด่นถึง 4.6% แล้ว ยังเป็นหุ้น Earnings Plays ด้วย เราคาดกำไร 4Q60 เติบโตโดดเด่น 3.9% QoQ, 26.3% YoY
4. AIT (ราคาเหมาะสม 33.50 บาท) ภาพรวมอุตสาหกรรมดีขึ้น จากการประมูลงานรัฐสภา และงานระบบ ERP ของการรถไฟที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ ทำให้เราคาดว่า Backlog ของ AIT จะแตะระดับ 3 พันล้าน ณ สิ้นปี 2560 ดีที่สุดในรอบ 4 ปี และอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) มีโอกาสฟื้นตัว เนื่องจากงานอินเตอร์เน็ตหมู่บ้าน ซึ่งมีอัตรากำไรในระดับต่ำ ได้ทำไปหมดแล้วในปี 2560
5. JWD (ราคาเหมาะสม 14.10 บาท) คาด 4Q60 จะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน AIMIRT ราว 400 ล้านบาทหลังหักภาษี ทำให้เงินปันผลใน 2H60 จะสูงราว 0.50 บาท/หุ้น
6. MCS (ราคาเหมาะสม 22.10 บาท) Dividend Yield งวด 2H60 ที่สูงราว 3.9% บวกกับผลการดำเนินงาน 4Q60 ที่คาดเติบโตทั้ง QoQ และ YoY
7. AP (ราคาเหมาะสม 9.50 บาท) Dividend Yield รอบนี้ สูงสุดในกลุ่มอสังหาฯ เนื่องจาก AP จ่ายปันผลปีละ 1 ครั้ง
8. IRC (ราคาเหมาะสม 26.60 บาท) ประกาศจ่ายปันผลแล้ว 0.8476 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield ราว 3.6% (จ่ายปีละ 1 ครั้ง) ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 6 ก.พ.นี้
9. LH (ราคาเหมาะสม 11.80 บาท) เป็นอีกหุ้นปันผลเด่นในกลุ่มอสังหาฯ คาด Dividend Yield รอบนี้ สูงราว 3.4% (จ่ายปีละ 2 ครั้ง) ขณะที่ราคาหุ้นของ LH ยัง Laggard จากกลุ่มฯ โดยในปี 2560 กลุ่มอสังหาฯ (SETPROP) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 22.6% แต่ LH บวกเพียงแค่ 7.1%
10. BANPU (ราคาเหมาะสม 22 บาท) ได้รับ Sentiment เชิงบวกจากราคาถ่านหินโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 4Q60 ตามปัจจัยฤดูกาล อีกทั้ง เราคาดว่า BANPU มีโอกาสจ่ายปันผลในงวด 2H60 มากกว่า 1H60 ทำให้ Dividend Yield ในงวดนี้ของ BANPU เด่นกว่า LANNA ที่คาดว่า จะจ่ายปันผลเท่ากันทั้งในงวด 1H60 และ 2H60
บทวิเคราะห์ระบุว่า เราได้ทำการศึกษาการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในช่วง 1-2 เดือนก่อนและหลังขึ้นเครื่องหมาย XD จึงได้ข้อสรุปว่า การลงทุนหุ้นปันผลให้ได้ผลตอบแทนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ควรซื้อสะสมตั้งแต่ 1-2 เดือนก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD กล่าวคือ หากซื้อหุ้นปันผล 2 เดือนก่อนขึ้น XD แล้วขายก่อนวันขึ้น XD 1 วัน จะได้ผลตอบแทนเฉลี่ยราว 5.1%
แต่หากซื้อก่อน XD ราว 1 เดือน แล้วขายก่อนวันขึ้น XD 1 วัน จะได้ผลตอบแทนเฉลี่ยราว 2.5%
ดังนั้น เชิงกลยุทธ์ เราแนะนำสะสมหุ้นปันผล แล้วรอขายในช่วง 1 วันก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD คาดหวังผลตอบแทนราว 2.5%-5.1% ทั้งนี้ หากเป็นหุ้นที่พื้นฐานดีและมีปัจจัยบวกพื้นฐานสนับสนุน นักลงทุนอาจพิจารณากลับเข้ามาลงทุนอีกครั้ง หลังจากหุ้นขึ้นเครื่องหมาย XD ไปแล้ว 1-2 สัปดาห์ เพราะในเชิงสถิติ ราคาหุ้นมักจะขาดเสน่ห์ในระยะสั้นและซึมตัวลงอย่างน้อย 1 สัปดาห์ หลังขึ้นเครื่องหมาย XD
เราเลือก Top Picks สำหรับกลยุทธ์หุ้นปันผล (Dividend Plays) สำหรับงวด 2H60 ได้แก่ KKP (Dividend Yield 4.97%), TISCO (4.65%), AIT (4.29%), JWD (4.1%) และ AP (3.75%) โดยเกณฑ์การคัดเลือกของเรา คือ เน้นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend Yield) สูงกว่าค่าเฉลี่ยของ SET INDEX ที่ 2.8% ต่อปี หรือราว 1.4% ต่อครึ่งปี พร้อมปัจจัยพื้นฐานเชิงบวกสนับสนุน คือ อัตราการเติบโตของกำไร และ Valuation ที่อยู่ในระดับที่น่าสนใจ