ปิดตลาดวันนี้
หุ้นดิ่งติดฟลอร์อื้อ
กลุ่ม EA กอดคอร่วงยกแผง
ฟาก KTC โร่แจงหุ้นร่วงไม่เกี่ยวพื้นฐาน

.
แม้ว่าวันนี้ (23 มิ.ย. 68) ภาพรวมตลาดหุ้นไทยดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบจากประเด็นสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางมากนัก แต่สิ่งที่ทำให้นักลงทุนจับตามอง คือ ราคาหุ้นหลายหลักทรัพย์ปรับตัวลงแรงจนติดฟลอร์ (ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับเกณฑ์ Ceiling & Floor จากเดิม 30% เหลือ 15%) และเกิดคำถามว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงเหล่านี้เกิดจากสาเหตุอะไร
.
ทั้งนี้ กลุ่มหุ้นที่ถูกคาดการณ์จากนักลงทุนว่าอาจเกิดการบังคับขายหลักทรัพย์ (Forced Sale) ในบัญชีมาร์จิ้นหรือไม่ และคุณมงคล ประกิตชัยวัฒนา หนึ่งใน VI ชื่อดัง ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นทั้ง 3 หลักทรัพย์ ก็ถูกจับตามองว่าอาจเกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าวหรือไม่ อย่างไร
.
ราคาหุ้น KTC ปรับตัวลงและปิดตลาดที่ 29.50 บาท -15.11%
.
XPG ราคาหุ้นปิดตลาดที่ 0.60 บาท -15.49%
.
BEC ราคาหุ้นปิดตลาดที่ 3.10 บาท -15.30%
.
อย่างไรก็ตาม KTC ได้ออกมาปฏิเสธว่าราคาหุ้นที่ปรับลดลงแรงไม่ได้เกิดจากปัจจัยพื้นฐาน ผลการดำเนินงานยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้
.
ขณะเดียวกันยังมี DOHOME ที่ราคาหุ้นปรับตัวลงและปิดตลาดที่ 2.52 บาท -15.44% หลังมีข่าวตรวจพบเหล็กเส้นกลม-ข้ออ้อยตกเกรด
.
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ตรวจสอบกับผู้ประกอบการ Home Improvement พบว่าร้านค้าที่มีประเด็นตามข่าวเป็นของ DOHOME ซึ่งบริษัทให้ข้อมูลว่าเหล็กที่มีปัญหามาจาก Supplier ชั่วคราว เป็นการสั่งตั้งแต่ช่วงปลายปี 2567 ที่ Supplier เจ้าหลักผลิตไม่ทัน
.
โดยบริษัทได้รับเอกสารแสดง มอก. ก่อนทำการสั่งซื้อ ปัจจุบันมีสินค้าคงเหลือราว 2.2 ล้านบาท สำหรับสินค้ากลุ่มอื่นๆ ที่มีประเด็นมูลค่าราว 1 แสนบาท ทางโรงงานผู้ผลิตให้บริษัทคืนสินค้า หากไม่ผ่านมาตรฐานหรือแสดงรายละเอียดไม่ครบถ้วน
.
สำหรับการแก้ไขในระยะถัดไป DOHOME จะเพิ่มมาตรการตรวจสอบเชิงรุก จากการสุ่มตัวอย่างสินค้าใหม่เพื่อเป็นการยืนยันคุณภาพซ้ำ นอกเหนือจากใบรับรอง มอก. ของผู้ผลิต ขณะที่ผลกระทบเชิงตัวเลขที่จะเกิดขึ้นในระยะสั้น ค่าปรับในฐานผู้ขายไม่เกิน 5 แสนบาท สินค้าเหล็กคงเหลือรวมถึงที่จำหน่ายไปแล้ว (อาจต้องเรียกคืน) คาดไม่เกิน 10 ล้านบาท ส่วนสินค้าอื่นๆ สามารถเคลมผู้ผลิตได้
.
ฝ่ายวิเคราะห์คาดประเด็นดังกล่าวจะกระทบความเชื่อมั่นผู้บริโภค และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าตรวจสอบ ค่าใช้จ่ายการตลาดเพื่อเรียกความเชื่อมั่นของลูกค้ากลับมา คาดหุ้นตอบสนองเชิงลบจะประเด็นดังกล่าว แนะนำ หลีกเลี่ยงการลงทุนไปก่อนในระยะสั้น งบไม่เด่นอีกอย่างน้อย 2 ไตรมาส เชิงพื้นฐานคงคำแนะนำ "TRADING" ราคาเหมาะสม 3.20 บาท
.
นอกจากนี้ ยังมีหุ้นกลุ่ม EA ที่ราคาหุ้นกอดคอร่วงยกแผงท่ามกลางความสงสัยของนักลงทุนว่าเกิดจากสาเหตุใด
.
EA ราคาหุ้นปิดตลาดที่ 2.36 บาท -15.44%
.
BYD ราคาหุ้นปิดตลาดที่ 0.35 บาท -14.63%
.
NEX ราคาหุ้นปิดตลาดที่ 0.78 บาท -15.22%
ที่มา.. Wealthy Thai