QH: ธนชาต แนะนำ "BUY" ราคาเป้าหมาย 3.80 บาท/หุ้น
Quality Houses Pcl (QH TB)
ถูก undervalued จากตลาดมาก
เรามอง QH undervalued จากตลาดมาก ด้วยซื้อ-ขายที่ระดับต่ำกว่ามูลค่าเงินลงทุนของสี่บริษัทร่วมราว 23% และมีกำไรจาก recurring ที่สูง ที่ 60% ของกำไร เราให้คำแนะนำ "ซื้อ" QH จากประโยชน์ที่ได้จากกลยุทธ์การบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพที่เริ่มจะเห็นผล และอัตราทำกำไรในระยะยาวที่ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งหุ้นให้ dividend yield ที่สูงที่มากกว่า 6% อีกด้วย
"ซื้อ"; ปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 3.8 บาท
เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" QH โดยมีราคาเป้าหมายที่ลดลงเหลือ 3.8 บาท จากเดิม 4.1 บาท ราคาเป้าหมายที่ลดลงเป็นผลมาจากการปรับลดราคาเป้าหมายของเรา HMPRO ลงเหลือ 11.4 บาท (จากเดิม 12.5 บาท) (โปรดดุบทวิเคราะห์ "ความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้น" วันที่ 15 มี.ค.) แม้ว่า QH จะมี presales อ่อนแอ่ใน 1Q17 (-31% y-y) แต่เราคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นใน 2H17F เมื่อมีการเปิดตัวโครงการแนวราบมากขึ้น และมียอด presales ที่เพิ่มขึ้นจากโครงการคอนโด Q Sukhumvit เมื่อโครงการทางเชื่อม BTS นานา ได้รับอนุมัติ โดยใน1Q17 บริษัทฯ ขายห้องในโครงการ Q Sukhumvit ไปแล้ว 11 ห้อง มูลค่า 366 ลบ. โดยมีเป้าหมาย presales ในปีนี้ที่ราว 1 พันลบ. ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมและธุรกิจให้เช่าเป็นตัวหนุนที่แข็งแกร่งให้กับกำไรของ QH ที่กว่า 60% ของกำไรปกติในปี 2017F และหนุน dividend yield ที่สูงที่กว่า 6.0%
การบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพขึ้น
QH พยายามลดค่าใช้จ่ายลงให้ได้มากที่สุด และเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในปีนี้ โดยใน 1Q17, ค่าใช้จ่ายในการขายลดลงแล้วกว่า 45% y-y หรือ 188 ลบ. จากค่าโฆษณาที่ลดลง 80 ลบ. และค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายที่ลดลง 67 ลบ. แนวคิด "Q District" ที่รวมหลายโครงภายในพื้นที่เดียว ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารด้านต้นทุนของบริษัท ในปีนี้ QH มีแผนจะเปิด Q Districts อีก 4 แห่ง ที่กิ่งแก้ว, เวสต์เกต, สุขสวัสดิ์ และ ดอนเมือง-สรงประภา ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายเพิ่มขึ้นจาก 17.2% ในปี 2013 เป็นกว่า 19.3% ในปี 2016 เราคาดว่าในปีนี้มีแนวโน้มที่อัตราดังกล่าวน่าจะปรับลดลงมาอยู่ที่ 19.0% และ 18.7% ในปีหน้า
EPS จากธุรกิจหลักเติบโตที่ 5% ในปีนี้
เราคาดว่า CTBC Bank พันธมิตรใหม่ของ LHBANK จะเข้าซื้อหุ้นแบบ PP ภายในสิ้นเดือนก.ค. เราจึงคาดว่า equity income จะลดลง 4% y-y เป็น 1.53 พันลบ.ในปีนี้ โดยคาดว่าจะไม่มี equity income รับรู้ตั้งแต่ส.ค.เมื่อสัดส่วนถือครองลดลงเหลือ 13.7% จากเดิม 21.0% อย่างไรก็ตามเราคาดว่า normalized EPS ปี 2017F จะเติบโต 5% หนุนด้วยรายได้คอนโดที่เติบโต 16% เป็น 3.58 พันลบ.(มี 3.4 พันลบ. อยู่ในมือแล้ว), อัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นจากอัตรากำไรจากคอนโดที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 27% เป็น 30% ในปีนี้ ( สี่โครงการคอนโดที่จะแล้วเสร็จในปีนี้มีอัตรากำไร 31-33%) และอัตราส่วน SG&A/Sales ที่ลดลง เมื่อรวมกำไรพิเศษ 659 ลบ.ที่คาดว่าจะได้จากการขาย LHBANK EPS จะเติบโตที่ 26% ในปีนี้ แต่ประมาณการ DPS ของเรา ไม่ได้รวมเงินปันผลจากกำไรที่มิใช่เงินสด
เงินลงทุนในบริษัทที่ถือครอง มีมูลค่า 3.23 บาทต่อหุ้น
เรามองว่า QH undervalued โดยซื้อ-ขายที่ต่ำกว่ามูลค่าตลาดที่ 3.23 บาท ของ 4 บริษัทจดทะเบียน HMPRO (ถือหุ้น 20%), LHBANK (13.7%), QHHR (31%) และ QHPF (26%) ที่ QH ถืออยู่มาก โดย TP ของเราที่ 3.80 บาท มาจากธุรกิจอสังหาฯ (0.02 บาท/หุ้น), อสังหาฯ เพื่อการพาณิชย์ (สำนักงานสามแห่งและโรงแรมหนึ่งแห่ง - 0.19 บาท/หุ้น) และเงินลงทุนในบริษัทร่วม (3.59 บาท/หุ้นโดยใช้ TP ของ HMPRO)