โดย คนเล่นหุ้น
เผยแพร่ : 
65 views
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา EARTH ยื่นฟ้อง ธนาคารธนชาต 60,000 ล้านบาท ฐานนำข้อมูลบริษัทเปิดเผยต่อบุคคลอื่นทำให้ถูกอายัดเงินในบัญชี และไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ ซึ่งเงินนั้นพร้อมที่จะโอนไปทำธุรกิจที่ประเทศจีน แต่ไม่สามารถนำออกมาใช้ได้ส่งผลให้ผิดนัดชำระหนี้ และโดนลดอันดับเครดิตเรตติ้งกระทบผลเสียกับบริษัท
อย่างไรก็ตาม ทางธนาคารธนชาต ยันมีมาตรฐานรักษาความลับลูกค้า เตรียมฟ้องกลับ EARTH กล่าวหาแรง ซึ่งมีการชี้แจงดังนี้
1.ธนาคารธนชาตยังไม่ได้หมายเรียกและสำเนาคำฟ้องจากศาลแต่ประการใด
2.คำแถลงข่าวของ EARTH ที่กล่าวหา ธนาคารฯ ผ่านการแถลงข่าวนั้น เป็นข้อกล่าวหาที่ปราศจากข้อเท็จจริง จึงขอปฏิเสธข้อกล่าวหาโดยสิ้นเชิง เพราะธนาคารฯ ไม่ได้มีพฤติกรรมอย่างที่ถูกกล่าวหา ธนาคารฯ ยืนยันมีนโยบาย ขั้นตอน วิธีการที่ชัดเจน และเข้มงวด ด้วยมาตรฐานระดับสูง ในการดูแลรักษาความลับของลูกค้า
3.ธนาคารฯ ไม่ได้เป็นคู่กรณีหรือปล่อยกู้ให้กับ EARTH ธนาคารฯ เป็นเพียงผู้รับฝากเงินของ EARTH เท่านั้น ซึ่งมีจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับจำนวนที่ EARTH กล่าวอ้างเรียกร้อง
4.ธนาคารฯ อายัดบัญชีเงินฝากของ EARTH เป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของศาล
5.การที่ EARTH แถลงข่าว/ ทำ Press Release และถ่ายทอดสดทาง Facebook Live พาดพิงธนาคารธนชาตในทางเสียหายนั้น ธนาคารฯ สงวนสิทธิ์ที่จะดำเนินการทางกฎหมายต่อ EARTH ทั้งทางแพ่งและอาญาต่อไป
สำหรับประเด็นนี้ผู้ถือหุ้นทั้งสองฝ่ายยังต้องเกาะติดสถานการณ์ต่อไป เพราะในกรณี worst case จริงๆ ธนชาตอาจจะโดนเสียค่าปรับเป็นเงิน 6 หมื่นล้านบาท กระทบกับฐานทุนของธนชาตพอสมควร ในขณะที่หุ้น earth จะได้ผลประโยชน์แบบเต็มๆ
เรามาดูกันว่า ถ้า ธนชาตต้องเสียค่าปรับจริงๆ จะกระทบกับมูลค่าหุ้น TCAP เท่าไร ?
TCAP ถือหุ้นธนชาตอยู่ประมาณ 51% ที่เหลือถือหุ้นโดยธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย เอเชีย ลิมิเต็ด แสดงว่าครึ่งหนึ่งของค่าปรับ TCAP เสียหายประมาณ 3 หมื่นล้านบาท จำนวนหุ้นสามัญของธนชาต 1.2 พันล้านหุ้น ใน 1 หุ้นจะเสียค่าปรับประมาณ 25 บาท/หุ้น Book value ของ TCAP อยู่ที่ประมาณ 50 บาท เมื่อหักกับค่าปรับต่อหุ้นแล้ว จะทำให้หุ้น TCAP เหลือ Book value ประมาณ 25-30 บาท/หุ้น นี้ก็เป็นการมองแบบคร่าวๆ
เรามาดูบทวิเคราะห์กันบ้าง ว่าเขามองกันอย่างไร
บล.ทรีนีตี้ แจงไว้ในบทวิเคราะห์ว่า ทางธนชาตยังไม่ได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องตามคดีที่ EARTH กล่าวอ้างจากศาลแต่อย่างใด มองเป็นปัจจัยรบกวนระยะสั้น พื้นฐานไม่เปลี่ยน
เรามองว่าประเด็นดังกล่าวเป็นปัจจัยที่ส่งผลทางด้านจิตวิทยาต่อราคาหุ้นในระยะสั้น แต่ในด้านพื้นฐานยังไม่ได้มีผลกระทบต่อประมาณการเดิมที่เราทำไว้ จึงยังคงราคาเป้าหมายเดิมที่ 55 บาท พร้อมยังคงคำแนะนำ “ซื้อ
::::::::::::::::::::
อยู่ที่ว่านักลงทุนมองแบบไหน ถ้ามองกรณีดีที่สุดอย่างบทวิเคราะห์ว่า จะไม่กระทบกับพื้นฐานของกิจการ แต่ถ้ามองในกรณีแย่ที่สุด จะกระทบกับ Book value ธนชาตมากเลยทีเดียว
