ทุกคนรู้จัก “บิตคอยน์” ในฐานะสกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 ของโลก เมื่อมีที่ 1 ก็ย่อมมีที่ 2 นั่นก็คือคริปโตยี่ห้อ “Ethereum (อีเธอเรียม)”
ก่อตั้งโดยชายวัยรุ่นชาวรัสเซียชื่อ “วิทาลิก บูเทริน” ซึ่งมีตัวตนอยู่จริง ต่างจาก “ซาโตชิ นากาโมโต” ผู้ให้กำเนิดบิตคอยน์ที่เป็นแค่นามแฝง เป็นบุคคลนิรนาม
เขาไม่ได้วางให้อีเธอเรียมเป็น “เงินดิจิทัล” เหมือนกับบิตคอยน์ แต่เป็น แพลตฟอร์มบล็อกเชนสาธารณะ ที่มีคุณสมบัติพิเศษคือ Smart Contract
พูดสั้นๆ ก็คือมีคุณสมบัติเด่นในการเป็น “แพลตฟอร์ม Smart Contract”
Smart Contract (สัญญาอัจฉริยะ) คือ สัญญาที่เขียนขึ้นตามเงื่อนไขต่างๆ ในรูปแบบโค้ดคอมพิวเตอร์ แล้วก็นำไปอยู่บนบล็อกเชนอีเธอเรียม มันจะทำงานอัตโนมัติตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้ในสัญญา
อีเธอเรียม เป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนแบบสาธารณะ แปลว่าใครก็ได้สามารถเข้ามาใช้งานแพลตฟอร์มนี้ได้ เพื่อสร้างแอปพลิเคชันในการใช้งานต่างๆ
หลายคนคงได้ยินคำว่า การระดมทุนแบบ ICO
การระดมทุนแบบนี้จะต้องมีการเสนอขายเหรียญดิจิทัลของตนเอง จำนวนเหรียญทั้งหมด วิธีการโอนเหรียญ และอื่นๆ จะเขียนขึ้นด้วย Smart Contract บนบล็อกเชนอีเธอเรียม
ICO ของกลุ่มเจมาร์ทที่ชื่อ JFIN Coin ก็ใช้บริการอีเธอเรียม เช่นกัน
รวมทั้งเหรียญดิจิทัลกว่า 2,000 เหรียญบนโลกนี้ส่วนใหญ่ เกิดขึ้นโดยอาศัยแพลตฟอร์มบล็อกเชนของอีเธอเรียมเช่นกัน
นอกจากการทำ ICO แล้ว ปัจจุบันนักพัฒนาได้ใช้แพลตฟอร์มอีเธอเรียมสร้างแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อใช้งานในหลากหลายธุรกิจ เช่น Wallet, Games, Finance,Health,Exchange,Media และ Property เป็นต้น
อีเธอเรียม มีชื่อย่อในตลาดว่า “ETH” ปัจจุบันมีหมุนเวียนในตลาด 105 ล้าน ETH
ถ้าเราอยากจะซื้อ ETH บ้างจะหาซื้อได้ที่ไหน?
ก็ซื้อได้ตามปกติเหมือนกับการซื้อบิตคอยน์ ที่ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ Exchange ซึ่งในไทยจะมี 3 เว็บไซต์ คือ Bx, Bitkub และ SatangPro
----------------------------------------------
บทความ By เลดี้แซป1990
เลดี้ฯ มี ห้องอ่านบทความ telegram และ ห้องคุย Line square
อย่าลืมกดติดตามเลดี้ฯ ไว้...แล้วพบกันใหม่ในบทความถัดไป
โดย Ozone Pinyo
เผยแพร่ : 
68 views
