NER น้องใหม่ร้ายที่สุด

บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER เป็นหุ้นน้องใหม่อีกตัวที่ทำให้นักลงทุน ต้องเจ็บเนื้อเจ็บตัวหนัก ทั้งนักลงทุนที่จองซื้อ และนักลงทุนที่แห่เข้ามาเก็งกำไรในตลาดหุ้น เพราะประเดิมซื้อขายวันแรก ทรุดลงหนัก

NER เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่งและยางผสม นำหุ้น IPO จำนวน 600 ล้านหุ้น เสนอขายนักลงทุนทั่วไป ในราคาหุ้นละ 2.58 บาท จากพาร์ 50 สตางค์ ซึ่งได้รับความสนใจ นักลงทุนจองซื้อหุ้นกันเกลี้ยงเหมือนหุ้นน้องใหม่ตัวอื่น ๆ

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ประเดิมเข้าซื้อขายวันแรก ราคาเปิดที่ 2.22 บาทต่อหุ้น สูงสุดที่ 2.38 บาท ต่ำสุดที่ 2.04 บาท ก่อนจะปิดที่ 2.06 บาท ต่ำกว่าจองหุ้นละ 52 สตางค์ หรือต่ำกว่าจอง 20.16 %

ตลอดทั้งวัน NER ไม่ได้โผล่พ้นราคาจองแต่อย่างใด ไม่เปิดโอกาสให้นักลงทุนที่จองซื้อไว้ได้ขายตัดขาดทุนเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะทรุดหนักตั้งแต่เปิดการซื้อขาย และไม่อาจคาดหมายว่า ราคาจะร่วงลงไปอีกขนาดไหน

ผู้บริหารบริษัท ที่ปรึกษาทางการเงิน หรือแม้แต่อันเดอร์ไรเตอร์ หรือตัวแทนผู้จัดจำหน่ายและรับประกันจำหน่าย ไม่อาจนำภาวะตลาดมาเป็น “แพะ” รับบาปได้ เพราะตลาดหุ้นวันที่ประเดิมซื้อขายยังคึกคัก ดัชนีราคาหุ้น ฯ ขยับขึ้น และเอื้อต่อหุ้นใหม่ที่เข้ามาซื้อขายด้วยซ้ำ

เพียงแต่หุ้น NER ไม่ดีจริงสมราคาเสนอขายเท่านั้นเอง

การที่ราคาหุ้นน้องใหม่ตัวนี้ ทรุดลงทันทีที่เปิดเคาะซื้อขาย อาจเป็นเพราะ ราคาที่เสนอขายกำหนดสูงเกินไป นักลงทุนจึงไม่กล้าไล่ราคา เพราะราคาจองถือว่าแพงอยู่แล้ว

แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือ ใครเป็นคนเทขายหุ้นตัวนี้ออกมา เพราะนักลงทุนที่จองซื้อไว้ ส่วนใหญ่ไม่น่าจะยอมตัดขายขาดทุนตั้งแต่วันแรกที่หุ้นเข้าตลาด

นักลงทุนทั่วไปไม่มีหุ้นอยู่ในมือ ดังนั้นจึงเหลือแต่กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมเท่านั้นที่จะระบายหุ้นออกมา เพียงแต่ไม่รู้ว่า ผู้ถือหุ้นเดิมกลุ่มไหน หรือรายได้ถล่มหุ้นขายทิ้ง

การที่ผู้ถือหุ้นเดิม ขายหุ้นทิ้ง แม้จะขายต่ำกว่าราคาที่เสนอขายนักลงทุนทั่วไปก็ตาม แสดงว่า ราคาหุ้นที่สูงกว่า 2 บาท ผู้ถือหุ้นเดิมเห็นว่า เป็นราคาที่น่าพอใจ เป็นราคาที่น่าขาย จึงถือโอกาสถล่มขายทันที เมื่อหุ้นเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์

และแรงขายจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมอาจยังไม่หมด
ที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทแกนนำผู้จัดการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรจากความเสียหายที่ NER สร้างขึ้น โดยเฉพาะการกำหนดราคาที่สูง จนผู้ถือหุ้นเดิมอดใจไม่ไหว ชิงกันทุบหุ้นทำกำไรออกมาตั้งแต่วันแรก และไม่ต้องอายใครที่จะตั้งข้อกล่าวหา แต่งตัวเข้าตลาดหุ้นเพื่อขายหุ้นทิ้ง
หุ้นใหม่ที่ประเดิมเข้าซื้อขาย ในภาวการณ์ลงทุนที่สดใส ราคามักจะไม่ผันผวนมากนัก และในรอบปีนี้ ดูเหมือนจะมี NER เป็นหุ้นน้องใหม่ตัวแรก ที่ประเดิมซื้อขาย ทำให้นักลงทุนที่จองซื้อไว้พังกันระเนระนาด

มีคำเตือนก่อนหน้าแล้ว ต้องระมัดระวังหุ้นใหม่ อย่าหลงคำเชิญชวนให้ซื้อ อย่าเชื่อความโฆษณาชวนเชื่อการเป็นหุ้นอนาคตดี และอย่าแห่จองซื้อหุ้นใหม่เพราะคิดว่า จะได้รับผลตอบแทนที่ดี

เพราะหุ้นใหม่ที่เข้ามาซื้อขายปีนี้ สร้างความเสียหายให้นักลงทุนที่จองซื้อในสัดส่วนครึ่งต่อครึ่ง และหุ้นใหม่ที่เตรียมตัวขาย และเข้ามาซื้อขาย ก็มีโอกาสทำให้นักลงทุนเจ็บตัวหนักได้ เช่นเดียวกับ NER

นักลงทุนจึงอย่ามองหุ้นใหม่ในโลกที่สวยหรูเกินไป แต่ต้องระวังหุ้นใหม่ที่กำหนดราคาเอาเปรียบนักลงทุน

ปีนี้หุ้นใหม่เข้ามาสร้างความเสียหายให้นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์หลายบริษัท แต่ไม่มีเสียงเตือนการลงทุนบริษัทจดทะเบียนใหม่แต่อย่างใด

เพราะสื่อส่วนใหญ่ได้รับประโยชน์เงินสนับสนุนโฆษณาจากบริษัทใหม่ และนักข่าวสายหุ้น กลายเป็นนักข่าวสายหุ้นจองกันแทบทั้งหมด จนละเลยการทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนผู้ลงทุน

หุ้นใหม่แม้จะเน่าอย่างไร สร้างความเสียหายให้นักลงทุนขนาดไหน แทบไม่มีใครพูดถูกถึง ทำให้กำหนดราคาขายแพงกันตามสบาย เพราะมีแรงเชียร์หรือกระตุ้นให้แมลงเม่าจองซื้ออยู่

หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก คอลัมน์ " ชุมชนคนหุ้น " โดย สุนันท์ ศรีจันทรา ใน MGR Online เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2561  

                 2) โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com