Goldman Sachs คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย 5 ครั้งในปี 65 พร้อมปรับลดงบดุล มิ.ย.นี้
เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2565 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นักเศรษฐศาสตร์ของ Goldman Sachs Group Inc.เข้าร่วมกับ Wall Street ในการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุกมากกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้
นักเศรษฐศาสตร์ที่นำโดย Jan Hatzius คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ใกล้ศูนย์ขึ้น 0.25% ถึง 5 ครั้งในปี 2565 แทนที่จะเป็น 4 ครั้ง ซึ่งจะทำให้เห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปอยู่ที่ 1.25-1.5% ภายในสิ้นปีนี้
Goldman Sachs มองถึงช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม พฤษภาคม กรกฎาคม กันยายน และธันวาคม และคาดว่าเฟดจะประกาศการเริ่มต้นการลดงบดุล (FED Balance Sheet) ในเดือนมิถุนายน
การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เฟดพร้อมที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมและเปิดประตูให้เคลื่อนไหวในการประชุมทุกครั้งหากจำเป็นต้องควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่เร็วที่สุดในรอบ 40 ปี รายงานของรัฐบาลเมื่อวันศุกร์แสดงให้เห็นว่าดัชนีต้นทุนการจ้างงานเพิ่มขึ้น 4% ในปีจนถึงเดือนธันวาคม ซึ่งสูงที่สุดในรอบสองทศวรรษ
นักเศรษฐศาสตร์ของ Goldman Sachs กล่าวว่า "ข้อมูลจากรายงานแสดงว่าการเติบโตของค่าจ้างนั้นสูงกว่าระดับที่สอดคล้องกับเป้าหมายเงินเฟ้อของเฟด และเราได้ปรับปรุงเส้นทางเงินเฟ้อ" นักเศรษฐศาสตร์ของ Goldman Sachs กล่าวในรายงานที่ให้กับลูกค้า “นอกจากนี้ความเห็นของประธานเฟดเมื่อต้นสัปดาห์นี้ทำให้ชัดเจนว่าเปิดรับมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น”
เฟดยังคงสามารถเปลี่ยนแปลลงได้หากสภาวะตลาดเปลี่ยนแปลงหรือเศรษฐกิจชะลอตัวเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก หรือกระชับนโยบายการเงินมากกว่าที่คาดการณ์ไว้หากอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงเพียงพอ
Bank of America Corp. คาดการณ์ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 7 ครั้งในปี 2565 และ BNP Paribas SA คาดการณ์ 6 ครั้ง ขณะที่ JPMorgan Chase & Co. และ Deutsche Bank AG คาดว่าจะขึ้น 5 อัตรา
ขณะที่ Nomura Holdings Inc. ยังคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น 0.50% ในเดือนมีนาคม ซึ่งถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543
Bloomberg Economics ยังคงคาดการณ์การปรับขึ้น 5 ครั้งในช่วงต้นเดือนนี้ แม้ว่า Anna Wong หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จะกล่าวว่าในสัปดาห์นี้มีความเสี่ยงที่จะเพิ่มขึ้นอีก 6 ครั้ง