จับตา! เงินกองทุนไหลเข้า ดัน SET แตะ 1,420 จุด แนะนำ 6 หุ้นค้าปลีกรับอานิสงส์ E-refund
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ประเมิน SET แกว่งตัว 1,400 - 1,420 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้ sentiment บวก คาดการณ์ FED เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.ปีหน้า รวมถึงเม็ดเงินกองทุน RMF SSF TESG ช่วงปลายปี
อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงหลังมีรายงานว่าเรือขนส่งสินค้าจะเริ่มกลับมาเดินเรือในทะเลแดงนั้นกดดันต่อกลุ่มพลังงาน อีกทั้งแรงขายลดความเสี่ยงก่อน Long weekend ช่วงปีใหม่จะกดดันให้ดัชนีอ่อนตัวลง
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน Selvectie buy GULF GPSC BGRIM TASCO EPG อานิสงส์ต้นทุนพลังงานอ่อนตัวลง หุ้น CRC CPN HMPRO GLOBAL DOHOME COM7 รับอานิสงส์ E-refund และหุ้น WHA AMATA CBG TU ITC AUCT PLANB SABINA แนวโน้ม 4Q23 เติบโต
ส่วนหุ้นแนะนำวันนี้ WHA (ปิด 5.30 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 5.95 บาท) คาดยอดขายที่ดินพุ่ง ทำสถิติสูงสุดใหม่ในปีนี้และปีหน้าที่ 2,700 ไร่และ 3,000 ไร่ ตามลำดับ จากยอดซื้อของกลุ่ม EV car และมี Upside จากกลุ่มทุนสหรัฐเกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจ Data Center ของ Google, Microsoft และรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla
PLANB (ปิด 8.70 ซื้อ/เป้า 10.2 บาท) คาดกำไรปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่และโต ถึง 27% ในขณะที่คาดว่าโมเมนตัมการเติบโตจะดำเนินต่อไปในปี 2024 ซึ่งเราคาดว่าจะโต 31% จาก UR ที่เพิ่มขึ้น และการปรับขึ้นค่าโฆษณา บทวิเคราะห์วันนี้ YGG (PromptAct)
ขณะที่ประเด็นสำคัญ จีนมีสัญญาณบวก ผลกำไรภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน: สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานกำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 29.5%yoy สูงขึ้นจากเดือน ต.ค.ที่ขยายตัวเพียง 2.7%yoy นับเป็นการเติบโต yoy เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน เป็นหนึ่งความหวังที่จะเห็นการฟื้นตัวทาง ศก.ของจีนในอนาคต
น้ำมันดิบพลิกปิดลบคลายกังวลสถานการณ์ตึงเครียดในทะเลแดง: น้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.46 ดอลลาร์ (- 1.93%) ปิดที่ 74.11$/bbl หลัง Maersk ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งสินค้าทางเรือรายใหญ่สัญชาติเดนมาร์ก, CMA CGM ของฝรั่งเศส และ Hapag-Lloyd ของเยอรมนี ประกาศว่าจะกลับมาเดินเรือในทะเลแดงอีกครั้ง หลังจากสหรัฐและชาติพันธมิตรอีกกว่า 10 ประเทศได้เปิดปฏิบัติการให้ความคุ้มครองในพื้นที่ดังกล่าว
วันนี้ ธปท. รายงานภาวะ ศก. ไทยเดือน พ.ย. หากออกมาดีจะเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับตลาด: หลังจากเมื่อเดือน ต.ค. เริ่มเห็นสัญญาณบวกจากการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนจากภาคเอกชน เหลือเพียงภาคการผลิตที่ยังหดตัว ดังนั้นหากเดือน พ.ย. การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนยังขยายตัวได้ต่อและการผลิตกลับมาฟื้นตัวจะทำให้แนวโน้ม ศก. หรือ GDP ของไทยใน 4Q23 โตในอัตราที่เร่งขึ้นจาก 3Q23 เป็น Sentiment บวกหนุนตลาด