สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งระบบในวงกว้างภาคเอกชนต่างร่วมมือกันเสนอมาตรการปรับตัวและฟื้นฟูเศรษฐกิจ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย หนึ่งในคณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจภาคเอกชนในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้เสนอ 6 ยุทธศาสตร์ เพื่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจด้วยดิจิทัล หรือ Digital Solution ซึ่งจะนำไปสู่ New Economy
ยุทธศาสตร์ที่ 1 : ควบคุม ป้องกัน และรักษา อาทิ
- การจัดทำฐานข้อมูลดิจิทัลขนาดใหญ่ของประชากรทุกคน และทุกนิติบุคคลในประเทศ
- การใช้ AI เพื่อวิเคราะห์การกระจายตัวของประชากรและผู้ติดเชื้อ
- การจัดทำระบบแสดงผลตามพื้นที่ Heatmap
- Digital Donation Platform เพื่อเป็นศูนย์กลางการบริจาค สนับสนุนทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมทั้งรวบรวมสิ่งที่โรงพยาบาลต่าง ๆ ต้องการความช่วยเหลือไว้ในที่เดียว
ยุทธศาสตร์ที่ 2 : ความต่อเนื่องของธุรกิจ อาทิ
- การแก้กฎหมายเพื่อรองรับ การจัด E-GOV , Digital ID , Online KYC , E-Signature , Smart Contract ให้ทดแทนกระดาษได้
- จัดทำระบบสื่อสารและโซลูชั่น ที่รองรับการทำงาน WORK AT HOME
- การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลรองรับ New Normal ของการทำธุรกิจ
ยุทธศาสตร์ที่ 3 : การจ้างงานและพัฒนาคน
- มาตรการสนับสนุนผู้จบการศึกษาใหม่ ปีละกว่า 1 ล้านคนทั่วประเทศ คาดว่า 80-90 % อาจจะไม่มีงานทำ
- สร้าง ICT Talent หรือ เด็กจบใหม่ที่มีความสามารถด้าน ICT ไปช่วยพัฒนาการศึกษาออนไลน์
- ให้ทุนแก่มหาวิทยาลัย และอาชีวะทั่วประเทศ ในการสร้าง New Skill ด้านดิจิทัล ด้านข้อมูล (Data) และด้าน Automation เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงหลังวิกฤตโควิด-19 ที่เชื่อว่าเศรษฐกิจและสังคมจะเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุค 0 เร็วขึ้น
- เสนอรัฐให้เงินเลี้ยงชีพคนว่างงาน และให้เงินสนับสนุนเพื่อการเรียนรู้งานแห่งอนาคต
- จัดทำ Platform ในการหางาน และบริษัทที่ต้องการจ้างงานที่ใช้ Skill ใหม่
- เสนอให้รัฐสนับสนุนค่าใช้จ่าย 80% เพื่อรักษาสถานภาพพนักงาน พร้อมกับการ Re-Skill พนักงาน ไม่ปลดออก และสร้างทักษะใหม่ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
ยุทธศาสตร์ที่ 4 : ความมั่นใจในตลาดทุน
- สร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุน ตลาดการค้า และการลงทุน
- เพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจ โดยการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการ Startup ด้าน Digital, ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีด้านดิจิทัล
- จัดตั้งและ reactivate กองทุนต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนรายได้ที่ขาดช่วง การขาดกระแสเงินสด การลดต้นทุน และการรักษาพนักงาน
ยุทธศาสตร์ที่ 5 : Economic Reform เตรียมรองรับเศรษฐกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้นหลังวิกฤต อาทิ
- Smart Farming และ E-commerce
- วางแผนพื้นที่การเพาะปลูก (Agrimap/Zoning)
- พัฒนาระบบชลประทาน Digital Irrigation, การป้องกันน้ำท่วม
- Smart City การออกแบบเมืองที่มีความปลอดภัย ปลอดเชื้อ การป้องกันด้านสาธารณสุข หรือ Preventive Healthcare
- พัฒนาการท่องเที่ยวแนวใหม่
- พัฒนาอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล
ยุทธศาสตร์ที่ 6 : โครงสร้างขับเคลื่อนยามวิกฤต (Intelligence Center / Unlock Regulation)
การปรับปรุงโครงสร้างขับเคลื่อนพิเศษในสถานการณ์ฉุกเฉินภายใต้วิกฤตโควิด-19 ประกอบด้วย
- การปรับปรุงโครงสร้างการขับเคลื่อนพิเศษในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยให้สภาต่าง ๆ เป็นตัวแทนภาคเอกชนในศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19
- การแก้ไขกฎระเบียบด้านดิจิทัล เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ อาทิ การผลักดัน Digital ID ที่เกี่ยวข้องกับ E-signature, E-Voting, Smart Contract และ Digital KYC รวมถึงการทำให้ E-Document สามารถทดแทนกระดาษได้
- พิจารณาเพิ่มความยืดหยุ่นการบังคับใช้ พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเสนอให้ใช้สภาดิจิทัลเป็น Certification Training Center สำหรับ Data Protection Officer เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
/////////////////////////
ขอบคุณเจ้าของข่าว ภาพ และคลิป
https://www.thebangkokinsight.com/339748/