Putin Strikes Back !!!

ใน 10 วันที่ผ่านมา สงครามในยุโรปเริ่มเข้าอีกช่วง
นอกจากรัสเซียจะส่งขีปนาวุธหลายลูกถล่มกรุงเคียฟ รับการประชุม G-7 แล้ว
ยังใช้ "ก๊าซธรรมชาติเป็นอาวุธ" ถล่มเศรษฐกิจยุโรป
เรียกว่า "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน"
เมื่อสหรัฐและพันธมิตร ใช้เศรษฐกิจเป็นอาวุธ รัสเซียก็ทำได้เช่นกัน
ล่าสุด จากข้อมูลของ European Gas Hub ในภาพด้านล่าง รัสเซียส่งก๊าซให้ยุโรปลดลงจากเฉลี่ยประมาณ 470 ล้านลูกบาศก์เมตร/วันในปี 2019 เหลือเพียง 100 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน เท่านั้น !!!
รับกับที่บริษัทก๊าซยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย Gazprom ประกาศว่าลดการส่งก๊าซให้ยุโรป พร้อมบอกว่า "Our Product Our Rules"
พูดง่ายๆ "สินค้าฉัน ฉันอยากขาย ไม่ขาย เรื่องของฉัน" และที่แน่ๆ ราคาพลังงานโลกที่เพิ่มขึ้น ทำให้รัสเซียเกินดุลการค้ามากขึ้นมาก จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขายก๊าซให้ยุโรป เหมือนในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สำหรับเยอรมันที่เป็นหัวใจของยุโรป Gazprom จะลดการส่งก๊าซให้เหลือไม่เกิน 70 ล้านลูกบาตรเมตรต่อวัน หรือลดลงประมาณครึ่งของที่เคยส่งให้เดิม
เรื่องนี้ เริ่มส่งผลกระทบที่เห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ
สัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลเยอรมันประกาศพร้อมที่จะนำโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินมาใช้อีกครั้ง และยกระดับ Energy Emergency Plan ไปสู่ระดับสอง (จากที่มีอยู่ 3 ระดับ) ซึ่งหมายความว่า บริษัทผลิตไฟฟ้าและพลังงานในเยอรมันสามารถส่งต่อราคาต้นทุนที่แพงขึ้นให้กับผู้ใช้ เพื่อลดการใช้งานลง
พร้อมคาดผลพวงที่ตามมาว่า จะทำให้ราคาพลังงานที่คนเยอรมันต้องจ่ายอาจเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัว
ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ เยอรมันพึ่งพาก๊าซจากรัสเซียประมาณ 40% ของการใช้ก๊าซทั้งหมด การที่ Gazprom ส่งก๊าซให้ลดลง ระยะสั้นสามารถดูแลโดยการนำก๊าซที่ประเทศสำรองไว้ออกใช้ได้
แต่ปัญหาจริงๆ คือช่วงต่อไป เพราะก๊าซที่เก็บสำรองไว้ดังกล่าว ต่อให้มีอยู่เต็ม 100% ก็จะสามารถนำออกมาใช้ทดแทนได้เพียง 2.5 เดือนเท่านั้น
หมายความว่า ก๊าซที่ปกติจะทะยอยสะสมในคลังสำรองเพิ่มระหว่างปี เพื่อใช้ในช่วงฤดูหนาวปลายปี จะลดลงแทน
หากรัสเซียไม่เปลี่ยนใจ ในระหว่างฤดูหนาว ช่วงปลายปี เยอรมันอาจจะประสบปัญหาที่ต้องจัดสรรการใช้ก๊าซที่เหลืออยู่จำกัด
อาจทำให้ต้องหยุดการผลิต ปิดโรงงาน รวมถึงย้ายบริษัทบางส่วนที่เคยพึ่งพาก๊าซราคาถูกจากรัสเซียออกจากเยอรมัน
เศรษฐกิจยุโรปที่อ่อนแออยู่แล้ว ก็จะได้รับผลกระทบเพิ่ม
เพราะเยอรมันเป็นหนึ่งในสองหัวรถจักรที่สำคัญของ EU
ส่วนประเทศอื่นๆ ก็เช่นกัน ในภาพด้านล่าง จะเห็นว่ายังมีอีกหลายประเทศที่พึ่งพาก๊าซจากรัสเซียยิ่งไปกว่าเยอรมัน ซึ่งหมายความว่า ประเทศเหล่านี้ก็ต้องพึ่งความเมตตาของท่านปูติน และต้องเตรียมรับกับวิกฤตอันเนื่องมาจากจากการขาดก๊าซ โดยเฉพาะประเทศที่ช่วยยูเครนอย่างออกหน้าในช่วงที่ผ่านมา
มาตามกันครับว่า การรุกเชิงเศรษฐกิจของรัสเซียรอบนี้ ยุโรปจะจัดการอย่างไร จะส่งผลต่อแนวร่วมที่ช่วยกันกดดันรัสเซียหรือไม่
ส่วนประเทศไทยของเรา ผู้ได้รับผลพวง ก็ต้องเตรียมการรับมือไปด้วยครับ
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก