ฟองสบู่เกิดจากสาเหตุหลัก 2 ประการคือ ปริมาณหนี้สินและระดับอัตราดอกเบี้ย Fed Fund Rate ดังต่อไปนี้ คือ :
1) ปริมาณหนี้สิน :
ปัจจุบัน หนี้สินที่เป็นทั้งหนี้สาธารณะและหนี้ภาคเอกชนของทั้งโลกมีรวมกันอยู่ 247 ล้านล้าน USD ในขณะที่ GDP โลกอยู่ที่ 77.67 ล้านล้าน USD ต่อ ปี หรือ หนี้สินโลก = 318% ของ GDPโลก ในจํานวน 247 ล้านล้าน USD นี้ เป็นหนี้ภาคการเงิน 61 ล้านล้าน USD ( 25% ) และ หนี้นอกภาคการเงิน 186 ล้านล้าน USD ( 75% )
ฟองสบู่โลกครั้งต่อไปน่าจะมีสาเหตุมาจากหนี้สินและดอกเบี้ยนโยบายของประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นดันดับ 1 และ 2 ของโลกดังนี้คือ :
ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจเป็นอันดับ 1 ของโลก มีหนี้สิน 21 ล้านล้าน USD ในขณะที่ GDP สหรัฐอเมริกา = 19 ล้านล้าน USD ต่อ ปี หรือ หนี้สินสหรัฐอเมริกา = 111% ของ GDP
ประเทศจีนซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจเป็นอันดับ 2 ของโลก มีหนี้สินสาธารณะไม่มากนักประมาณ 50% ของ GDP แต่หนี้สินภาคเอกชนของจีนมีสูงมากประมาณ 160% ของ GDP เพราะฉนั้น หนี้สินจีนโดยรวมจึงเป็น 210% ของ GDP
หนี้สินของโลกในปัจจุบันก็ยังคงเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง ซึ่งเปรียบเสมือนลูกโป่งที่กําลังถูกสูบให้พองลมขึ้นเรื่อยๆ
2) ระดับอัตราดอกเบี้ย Fed Fund Rate :
อัตราดอกเบี้ย Fed Fund Rate ที่กําลังอยู่ในทิศทางขาขึ้นด้วยอัตราเร่งเช่นเดียวกับหนี้สินโลก และ ระดับอัตราดอกเบี้ย Fed Fund Rate ที่กําลังเพิ่มขึ้น ก็เปรียบเสมือนเข็มที่กําลังจะวิ่งเข้าไปหาลูกโป่งที่กําลังพองลมอย่างเต็มที่
เมื่อถึงจุดอิ่มตัว ฟองสบู่โลกก็จะแตก ซึ่งหนี้สินโลก ณ.ตอนนั้น อาจจะเพิ่มขึ้นในระดับมากมายมหาศาล เช่น เพิ่มเป็น 500 ล้านล้าน USD จากปัจจุบันอยู่ที่ 247 ล้านล้าน USD ( หรือ 500 / 247 = 2.02 เท่า ของ ณ. ระดับ ปัจจุบัน ) ส่วนดอกเบี้ย Fed Fund Rate ก็น่าจะปรับตัวขึ้นไปเรื่อยๆจนอยู่ที่ระดับ 4.25% จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 2.00% ( หรือ 4.25 / 2.00 = 2.13 เท่า ของ ณ. ระดับ ปัจจุบัน )
ส่วนระยะเวลา ก็คาดว่าน่าจะอยู่ประมาณปี พ.ศ 2564 ซึ่งน่าจะใช้เวลาสะสมพลังแห่งความรุนแรงอย่างมากมายมหาศาลของฟองสบู่โลกแตกอีกประมาณ 2 ปีเศษ และ ฟองสบู่โลกแตกครั้งต่อไปน่าจะเป็นฟองสบู่แตกที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์โลก เนื่องจากปริมาณหนี้สินที่เกี่ยวข้องด้วยมีจํานวนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
อย่างไรก็ตาม ความคิดเห็นข้างต้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้โพสต์เอง และ ไม่สามารถรับประกันความถูกต้องได้
หมายเหตุ : โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com