ห้องเม่าปีกเหล็ก

กลุ่มค้าปลีก

โดย พายุ
เผยแพร่ :
73 views
 
#investment ใน 1Q65 บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดว่าผลประกอบการของกลุ่มค้าปลีกในกลุ่มอุปโภคบริโภค ของ 3 บริษัท BJC CPALL และ MAKRO มีกำไรปกติโดยรวม 6.3 พันล้านบาท (+22%YoY,-4%QoQ) ฟื้นตัวเมื่อเทียบกับรายปี โดยได้แรงหนุนจากการรับรู้รายได้ ซึ่งไปในทิศทางเดียวกันกับการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (Same Store Sale Growth หรือ SSSG)
.
.
โดยบริษัทที่คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวทั้งรายไตรมาส (4Q64) และรายปี(1Q64) คือ CPALL ซึ่งเป็นผลจากการรวมกิจการของ Lotus ใน MAKRO สำหรับ MAKRO คาดเห็นการปรับลดรายไตรมาส (4Q64) จาก ค่าใช้จ่ายที่ยังสูงจากการปรับรูปโฉมใหม่ของ Lotus Go Fresh เช่นเดียวกับ BJC กำไรปรับลดลงรายไตรมาส (4Q64) ส่วนหนึ่งมีแรงกดดันจากภาระต้นทุนที่สูงขึ้นและผ่านช่วงฤดุกาลซื้อ น้ำหนักการลงทุน “มากกว่าตลาด”
.
.
ทั้งนี้ SSSG เฉลี่ยของกลุ่มค้าปลีก 1Q65 อยู่ที่ +7%YoY (BJC +3% YoY CRC +12%YoY CPALL +10% และ MAKRO +3%YoY) พลิกเป็นบวก ต่อเนื่องจากค่าเฉลี่ยของกลุ่มใน 4Q64 ที่ +3.6% หลังมาตรการรัฐคลี่คลายมากขึ้น ปลด Lockdown กำลังซื้อเริ่มทยอยกลับมารวมถึง ได้ประโยชน์จาก “ช้อปดีมีคืน” ในช่วงต้นไตรมาส ช่วยหนุนยอดขาย รวมถึงเมื่อเทียบกับฐานต่ำในช่วงเดียวกันของปี ก่อน 1Q64 ที่มี SSSG -11.7%YoY ซึ่งเป็นช่วงแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่กลับมาอีกครั้ง
.
.
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ยังประเมินว่ากลุ่มอุปโภคบริโภค มีโอกาสเห็นการฟื้นตัวในช่วง 2H65 คาดหวังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลายมากขึ้น รวมถึงภาครัฐผ่อนปรนเงื่อนไขการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ จะเห็นการกลับมาของนักท่องเที่ยวอีกครั้ง ส่งผลต่อบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอย ขณะเดียวกัน ยังมีประเด็นติดตามคือ ภาวะเงินเฟ้อซึ่งมีผลต่อราคาต้นทุนของวัตถุดิบสินค้าที่ปรับเพิ่ม ซึ่งมีผลต่อกำลังซื้อและการควบคุมระดับอัตรากำไรขั้นต้นในระยะถัดไป
.
.
นอกจากนี้ 2Q65 คาดยอดขายยังทำได้ดี ส่วนหนึ่งอยู่ในช่วงฤดูร้อน และมีวันหยุดเทศกาล รวมถึงเริ่มเห็นนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้า มา ส่งผลทำให้มีการเดินทาง และมีการจับจ่ายใช้สอยโดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยว และคาดได้ประโยชน์จากการผ่อนปรนของ มาตรการภาครัฐในการเดินทางเข้าประเทศ ของนักท่องเที่ยว ยกเลิกระบบ Test &Go
.
.
BJC: กำไรโตรายปี SSSG เริ่มพลิกเป็นบวกหลังเผชิญกับ COVID-19 คาดกำไรเติบโตรายปี โดยคาดว่า BJC จะมีกำไรปกติ 988 พันล้านบาท (+4%YoY,-28%QoQ) จากรายได้ที่ 3.4 หมื่นล้านบาท (+5%YoY,-8%QoQ) รายได้เติบโตในทุกธุรกิจ ทำให้ผลประกอบการ โดยรวมยังเห็นการเติบโตเมื่อเทียบกับรายปี 1Q64
.
.
อย่างไรก็ดีเมื่อเทียบกับรายไตรมาส 4Q64 ปรับลด เนื่องจากในช่วง4Q64 เป็นช่วงฤดูกาลซื้อและเป็นไตรมาสที่ได้ประโยชน์จากการปลด Lockdown ที่ ชัดเจน ขณะเดียวกันบริษัทมีผลกระทบจากภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในทุกธุรกิจ ทั้งจากราคาน้ำมันปาล์ม ค่าขนส่ง ราคาเยื่อกระดาษ รวมถึงราคาอลูมิเนียมที่ใช้ผลิตกระป๋อง ส่งผลต่ออัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 18.9% ปรับลดเมื่อเทียบกับ 4Q64 ที่ 19.5% และ 1Q64 ที่ 19.1% ขณะที่รายได้อื่นทำได้ดีขึ้นอยู่ที่ 3.2 พันล้านบาท(+%YoY,+3%QoQ)
.
.
คงคำแนะนำ “ซื้อลงทุน” คาดแนวโน้ม 2Q65 จะมีโอกาเติบโตเพิ่ม ส่วนหนึ่งได้ประโยชน์จากการ เข้าสู่เทศกาลวันหยุดและท่องเที่ยว ทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยโดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยว รวมถึงเริ่มเห็นสัญญาณการกลับมาของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศใน 2Q65 มองว่าสินค้าอุปโภคบริโภคจะทำได้ดีขึ้น ขณะที่การแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลต่อยอดขาย ATK ในธุรกิจเวชภัณฑ์เติบโต ล่าสุด บริษัทมีแผนขยายฐานลูกค้าเพิ่มโดยการร่วมมือกับพันธมิตร PTTEP เปิดตัวบริษัท บีเมด เอ็กซ์ จ ากัด (B-MEDX) มุ่งเน้นการให้บริการผ่าน Online เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสในการเพิ่มยอดขายในธุรกิจ เวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์
.
.
ทั้งนี้ BJC มีประเด็นติดตามจากการปรับเพิ่มของต้นทุนในแต่ละธุรกิจ ส่งผลต่อการคุมอัตราอัตรากำไรขั้นต้นที่อาจไม่เป็นไปตามคาด ราคาเหมาะสม ปี 2565 ที่ 41 บาท ( วิธีDCF,WACC 5.4% Terminal Growth 2%)
.
.
CPALL: 1Q65 รายได้โต SSSG เป็นบวกเพิ่ม คาด 1Q65 กำไรโตทั้งรายไตรมาสและรายปี โดยคาดว่าใน 1Q65 CPALLจะมีกำไรปกติราว 3 .2 พันล้านบาท (+14%QoQ,+27%YoY) เติบโตทั้งรายไตรมาสและรายปี ส่วนหนึ่งเกิดจากการรวมผล ประกอบการ LOTUS เข้ามาใน MAKRO ส่งผลต่อรายได้แรงหนุนของรายได้จากการขายและบริการ 1.82 แสนล้านบาท (+2%QoQ,+42%YoY) อัตรากำไรขั้นต้น 21.7% ทรงตัวเมื่อเทียบกับ 4Q64 ที่ 21.6% เมื่อเทียบกับรายปี 1Q64 ที่ 21.2% ระดับอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับดีขึ้นหลังจาก MAKRO มีการรับรู้รายได้จาก LOTUS ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่า ขณะที่ค่าใช้จ่ายยังสูงอยู่ที่ 3.7 หมื่นล้านบาท (+ 2%QoQ,+43%YoY) SSSG 1Q65 เป็นบวกราว 10%YoY ในส่วนของธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อ (7-eleven) ซึ่งยอดขาย ยังทำได้ดีต่อเนื่อง สินค้าที่ขายดียังเป็นกลุ่มสินค้าพร้อมทาน Ready To eat ฟื้นตัวจาก 4Q64 ที่เริ่มเป็นบวก 1.3%YoY ได้ประโยชน์หลังปลด Lockdown และนโยบายภาครัฐ “ช้อปดีมีคืน” ระหว่างวันที่ 1 ม.ค-15 ก.พ
.
.
ในเบื้องต้น 2Q65 คาดว่าจะยังเห็นการเติบโตของ SSSG ส่วนหนึ่งจากวัดหยุดและเทศกาลสงกรานต์ มีการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศและเริ่มเห็นนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาประกอบกับอากาศร้อนทำให้สินค้าพร้อมทานและเครื่องดื่ม รวมถึงสินค้า Personal Care ได้รับความสนใจเพิ่ม
.
.
แนะนำ “ซื้อ” โดยคาดว่าผลประกอบการจะเริ่มฟื้นตัวเพิ่มแบบค่อยเป็นค่อยไป ส่วนหนึ่งหลังจากการปลด Lockdown พร้อมคาดหวังการกลับมาของนักท่องเที่ยว หลังภาครัฐผ่อนปรนมาตราการการเดินทาง ของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ สามารถเดินทางเข้ามาได้ง่ายขึ้น หลังยกเลิกการตรวจ RT-PCR ให้ใช้ ATK ระหว่างเข้าพักสำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบ และปรับลดวงเงินประกันผู้เดินทางลง ซึ่งมี ผลวันที่ 1 พ.ค. คาดจะมีส่วนช่วยเพิ่มกำลังซื้อในช่วง 2H65
.
.
ขณะที่ผลประกอบการของ MAKRO จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวต่อเนื่องจากยอดขาย และค่าใช้จ่ายในการปรับรูปโฉม ของ LOTUS Go Fresh ที่ ลดลงใน 4Q65 ราคาเหมาะสมปี 2565 ที่ 76 บาท (DCF ,WACC 5.2% Terminal Growth 2.5%)
.
.
MAKRO กำไรเติบโตรายปี มี LOTUS ช่วยหนุน คาดกำไรโตรายปีรับรู้รายได้เต็มจาก LOTUS ใน 1Q65 เราคาดจะมีกำไรปกติ 2.1 พันล้านบาท (+ 23%YoY,-10%QoQ) รายได้จากการขาย 1.04 แสนล้านบาท (+87%YoY,+4%QoQ) อัตรากำไร ขั้นต้น 16.8% ทรงตัวเมื่อเทียบกับ 4Q64 แต่ปรับเพิ่มจาก 1Q64 ที่11.7% เนื่องจากการรับรู้รายได้ที่ เริ่มเข้ามาของ LOTUS ซึ่งมีผลต่อการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้น ส่วนหนึ่งเกิดจากสินค้า Product Mix และรายได้จากค่าเช่าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นดี ขณะที่ผลกระทบจากการปรับปรุงสาขา Lotus Go Fresh ยังคงท าให้มีค่าใช้จ่ายขายและบริหารยังคงสูงที่ 1.4 หมื่นล้านบาท (+216%YoY,+9%QoQ) มีภาระดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นผลจากภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นของ Lotus SSSG 1Q65 เป็นบวกราว 2-3% YoY เป็นบวกต่อเนื่องจาก 4Q64 ที่4% และ Lotus เริ่มเห็น SSSG เป็นบวกบางๆ คาดแนวโน้มที่จะผลักดันยอดขายในระยะถัดไปส่วนหนึ่งคือการกลับมาของ นักท่องเที่ยวต่างประเทศ และกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นในประเทศ ส่งผลต่อกิจกรรมต่างๆที่มากขึ้นทำให้จากกลุ่มลูกค้า Horeca (ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยง) และคาดหวังหลังการปรับรูปโฉม ใหม่ของ Lotus Go Fresh จะช่วยหนุนกำลังซื้อเพิ่ม
.
.
คำแนะนำ “ซื้อลงทุน“ โดยคาดจะเห็นการฟื้นตัว ทั้ง MAKRO รวมถึง Lotus แบบค่อยเป็นค่อยไป หลังมาตรการภาครัฐที่ผ่อนคลายที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 เริ่มคลี่คลาย จะเป็นส่วนหนึ่งช่วยหนุนกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับหลังการปรับปรุง สาขา Lotus GO Fresh ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 3Q65 จะทำให้ค่าใช้จ่ายถูกจำกัดลง โดยบริษัท ได้ปรับปรุงช่องทางการขายให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยช่องทางผ่าน Online โดย MAKRO ได้มี Application Maknet เป็น B2B Marketplace ตลาดค้าส่ง โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้ปัจจุบันที่ 12% เป็น 30% ในอนาคต เราประเมินมูลค่าพื้นฐานปี2565 ราคาเหมาะสม 55 บาท โดยอิงวิธีคิด ลดกระแสเงินสด (DCF) WACC 7% และTerminal Growth 2.5%
.
 

พายุ