สงครามการค้า หนุนเงินต่างชาติกลับไทย

โบรกชี้หุ้นไทยเดือนมิ.ย.เด้งรับเงินต่างชาติไหลกลับ หลังสงครามการค้ายังยืดเยื้อ มองหุ้นไปต่อได้ แม้ยังมีความเสี่ยง คาดดัชนีปีนี้อยู่ที่ 1,720 - 1,775 จุด

นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวในงานสัมมนา "ส่องหุ้นไทยครึ่งปีหลัง ฟุบหรือไปต่อ รับรัฐบาลใหม่" ในหัวข้อ "เบญจภาคี 5 หุ้นเด็ด" จัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ว่า ดัชนีหุ้นไทยที่ปรับขึ้นในช่วงนี้ รับแรงหนุนจากเงินทุนนักลงทุนต่างชาติ ที่ไหลกลับเข้ามาลงทุนในประเทศที่ปลอดภัย จากความขัดแย้งการค้าสหรัฐกับจีน โดยมองว่าหากสงครามการค้าคลี่คลาย หรือจบลงได้ จะทำให้เงินต่างชาติไหลกลับไปประเทศที่มีความเสี่ยง ทั้งนี้ คาดดัชนีหุ้นไทยปีนี้อยู่ที่ 1,753 จุด แต่หากบรรยากาศยังดีต่อเนื่องจากกระแสเงินทุนต่างชาติที่ยังไหลเข้า อาจจะแตะ 1,796 จุดได้

นายกัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา กรรมการบริหาร บล.ฟินันเซียไซรัส กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยเดือนมิ.ย. 62 ปรับขึ้น 6% จากความเชื่อมั่นการเมืองไทย หลังจากรัฐบาลออกมาระบุว่าจะเห็นโฉมหน้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงกลางเดือนก.ค.นี้ รวมถึงการเคลื่อนไหวทางโซเชียลของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดี ที่มีผลต่อทิศทางตลาดหุ้น ทั้งนี้ มองว่าการลงทุนยังมีความเสี่ยงอีกมาก อีกทั้งต้องระวังแรงขายทำกำไร ซึ่งทั้งปียังไม่เห็นทางที่ดัชนีหุ้นไปต่อได้ เพราะยังมีความเสี่ยงตลอดเวลา โดยคาดดัชนีหุ้นไทยปีนี้อยู่ที่ 1,720 จุด

นายกวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยนอกจากจะรับผลบวกจากเงินต่างชาติ ยังต้องจับตาเศรษฐกิจโลก เพราะที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกที่เติบโตจะทำให้ดัชนีหุ้นปรับขึ้นตาม ซึ่งหลังจากนี้ต้องติดตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เพราะดัชนีหุ้นจะมีทิศทางตามเศรษฐกิจที่แท้จริง โดยคาดดัชนีหุ้นไทยปีนี้อยู่ที่ 1,775 จุด

นายสมพงษ์ เบญจเทพานันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า นักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทยจากการเพิ่มน้ำหนักในดัชนี MSCI โดยมีเงินทุนจากต่างชาติไหลเข้ามากว่า 50,000 ล้านบาท ขณะที่ การเมืองไทย ไม่ได้มองที่ความมั่งคงของรัฐบาล แต่การมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะทำให้อำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หมดลง และกลับเข้าสู่ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง 

สำหรับหุ้นแนะนำ 5 ตัว ของบล.ฟินันเซียไซรัส คือ EKH, CPALL, SISB, ICHI และ TACC
ด้านบล.ไอร่า คือ JKN, SINGER และ SPA ส่วนบล.หยวนต้า คือ SCCC, SEAFCO, SPALI, SABINA และ SCB และบล.กสิกรไทย คือ PTT, AOT, BDMS, CPALL และ ADVANC

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก