AOT ถึงเวลาที่ธุรกิจเทิร์นอะราวด์
เมื่อตัวเลขนักท่องเที่ยวเข้าสู่โหมดฟื้นตัว

.
เมื่อไม่นานมานี้สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าว ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2566 ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศจีนไม่ต้องกักตัวหลังเดินทางถึงจีนอีกต่อไป ซึ่งเป็นการประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่าจีนจะเปิดประเทศอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.2566เป็นต้นไป ทั้งนี้เสมือนเป็นการส่งสัญญาณบอกว่านักท่องเที่ยวจีนมาความพร้อมแล้วที่จะเดินทางออกนอกประเทศ
.
ดังนั้นหากในแง่มุมของการลงทุนกลุ่มหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากการเดินทางของนักท่องเที่ยว หรือภาคเศรษฐกิจทั่วทุกมุมโลกก็คงจะหนีไม่พ้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง ซึ่ง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายการลงทุนที่จะสอดรับไปกับธีมการลงทุนจากการเปิดประเทศของจีน
.
โดยผู้บริหารระดับสูงของ AOT ให้ข้อมูลว่า ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 66 (ต.ค.- ธ.ค.65) มั่นใจว่าผลประกอบการพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้เล็กน้อย จากภาพรวมการเดินทางช่วงเดือน ธ.ค. ซึ่งถือเป็นช่วงเทศกาลเฉลิมฉลอง ทำให้มีความต้องการเดินทางจำนวนมาก และคาดผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 66 ( ต.ค.65-ก.ย.66) จะทำกำไรอย่างแน่นอน จากการฟื้นตัวของผู้โดยสารที่เติบโตต่อเนื่อง
.
ขณะเดียวกันได้ประมาณการปริมาณการจราจรทางอากาศระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2565 – 4 มกราคม 2566 ณ สนามบินทั้ง 6 แห่งของ AOT คาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 171.28% เมื่อเทียบกับปริมาณการจราจรทางอากาศที่เกิดขึ้นจริงในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565
.
ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่าปริมาณผู้โดยสารระหว่างประเทศของ AOT พ.ย. 65 อยู่ที่ราว 3.5 ล้านคน ขยายตัว 15% จากเดือนก่อนหน้า และขยายตัวได้กว่า 1,392.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยฝ่ายวิจัยคาดปัจจัยด้านฤดูกาลจะส่งให้จำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศเร่งตัวอย่างน้อยถึง มี.ค. 66 หลังจากนั้นติดตามการผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนช่วงต้นปี 2566
.
โดยฝ่ายวิจัยคาดปัจจัยด้านฤดูกาลของท่องเที่ยวไทย จะส่งให้จำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศเร่งตัวอย่างน้อยถึง มี.ค. 66 หลังจากนั้นติดตามความคืบหน้าจากทางการจีน ว่าจะมีการผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนที่คิดเป็นสัดส่วน 30% ของนักท่องเทียวต่างชาติมาไทยช่วงปกติหรือไม่
.
สำหรับภาพรวมคงมุมมองการดำเนินงานมีพัฒนาการดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า และจากช่วงเดียวกันของปีก่อนตลอดในงวดครึ่งแรกของปี 66 (ต.ค. 65 – มี.ค. 66) ตามการฟื้นตัวของผู้โดยสารตามข้างต้น หนุนต่อรายได้ที่เกี่ยวกับการบินและรายได้เชิงพาณิชย์
.
ทั้งนี้หาก อิง DCF จะได้ราคาเหมาะสมปี 2566 ที่ 80 บาท คงคำแนะนำ ซื้อ ประเมินการดำเนินงานขยายตัวตลอด 2 ปีข้างหน้า อีกทั้งเป็นประตูสู่ประเทศไทย ในฐานะผู้บริหารสนามบินหลักของไทย
.
ส่วนบริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดกำไรปกติปี 2565/66 ของ AOT จะฟื้นตัวเด่นต่อเนื่อง แม้เราคาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2566 ที่ 20-25 ล้านราย หรือคิดเป็น 50%-60% ของปี 2562 หรือฐานก่อนเกิด COVID-19 แต่ประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวของเรามี Upside Risk หากสุดท้ายจีนเป็ดประเทศได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 66
.
ขณะที่มาตรการเยียวยาที่ AOT ให้กับผู้ประกอบการรวมถึง King Power จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มี.ค.66 ซึ่งหมายความว่า AOT จะได้รับรายได้ Concession ตั้งแต่เดือนเม.ย.66 ที่อัต Revenue per head ที่มาจากสัญญาการประมูล คูณกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งการปรับมาใช้อัตราราคาที่เกิดจากการประมูลย่อมหมายถึงรายได้ต่อนักท่องเที่ยว 1 ราย ที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญราว 3 เท่า เทียบกับช่วงที่ให้มาตรการเยียวยา
.
ดังนั้นนอกจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว AOT จะได้การปรับเพิ่มราคาในช่วงครึ่งหลังของ 65/66 ขณะที่ปี 2566/67 AOT จะได้ฐานนักท่องเที่ยวฟื้นตัวเต็มปี้ พร้อมกับการรับรู้อัตราราคาจากสัญญา King Power ทำให้มีโอกาสสูงที่กำรจะทำระดับเกินกว่าปี 2562 หรือปี ก่อนเกิด COVID-19 ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท
.
โดยประมาณการทั้งหมดยังไม่รวมอัพไซด์ จากการทำธุรกิจเมืองการบินที่อยู่ระหว่างรอให้เอกชนประมูลพื้นที่และธุรกิจการขนส่งอาหารเน่าเสียง่ายที่เซ็นสัญญากับกระทรวงเกษตรฯ ไปแล้ว คาดจะเห็นความคืบหน้าเพิ่มเติมในปี 2566