ห้องเม่าปีกเหล็ก

หุ้นสายการบินตก โดนขึ้นภาษีน้ำมันเครื่องบิน

โดย stock-news
เผยแพร่ :
55 views

นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2560 ปรับขึ้นภาษีน้ำมันเครื่องบินและน้ำมันหล่อลื่น โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลเมื่อวันที่ 25 มกราคมนี้ เปิดเผยถึงการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินภายในประเทศ เป็น 4 บาท/ลิตร จาก 20 สตางค์/ลิตร ว่า เป็นการเก็บภาษีน้ำมันเชื้อเพลิงเฉพาะการเดินทางภายในประเทศเท่านั้น 

 

 

ซึ่งเป็นตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้เกิดความเป็นธรรมในเรื่องค่าโดยสาร เมื่อเปรียบเทียบกับการเดินทางประเภทอื่น เนื่องจากน้ำมันดีเซลและเบนซินขณะนี้ต้องเสียภาษีที่ 5-6 บาทต่อลิตร  ซึ่งการจัดเก็บภาษีน้ำมันทั้ง 2 ชนิดเพิ่มดังกล่าวส่งผลให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มปีละประมาณ 8 พันล้านบาท

 

"รัฐบาลที่ต้องการให้เกิดความเป็นธรรมในเรื่องของค่าโดยสาร เพราะเบนซินปัจจุบันเสียภาษี 5-6 บาทต่อลิตร ดีเซลก็ 5 บาทต่อลิตร แต่ของเครื่องบินยังอยู่ในระดับต่ำมาก" นายสมชาย กล่าว

 

 

ผลกระทบต่อต้นทุนสายการบิน 

 

หุ้น AAV ราคาหุ้นปรับลดลงประมาณ 8 %

 

หุ้น BA  ราคาหุ้นปรับลดลงประมาณ 3.5 %

 

หุ้น NOK  ราคาหุ้นปรับลดลงประมาณ 2 %

 

หุ้น THAI  ราคาหุ้นปรับลดลงประมาณ 6.8 %

 

การที่ภาครัฐปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ส่งผลกระทบต่อต้นทุนของสายการบินโดยตรง บวกกับในช่วงที่ราคาน้ำมันเป็นช่วงขาขึ้นและค่าเงินบาทอ่อนตัวอีกด้วย

 

แน่นอนว่า ผลกระทบจะทำให้กำไรของสายการบินลดลงได้ และมีผลต่อความสามารถในการแข่งขันต่อไป แล้วอาจจะนำไปสุ่การผลักภาระไปให้ผู้โดยสารได้ต่อไป 

 

กลุ่มสายการบินที่จะได้รับผลกระทบ

 

 

 

 

 

จากผลประกอบการงวด 9M59 ของหุ้นกลุ่มสายการบิน แม้ว่ารายได้ของ THAI จะมีมากที่สุด แต่หากมาเทียบกำไรสุทธิแล้วพบได้ว่า น้อยกว่า BA, AAV ตามลำดับ สะท้อนถึงต้นทุนทางด้านบริหารจัดการที่มากกว่า

 

สายการบินที่มีสัดส่วนการบินในประเทศมาก จะได้รับผลกระทบมากที่สุดเช่นกัน

 

- NOK มีเที่ยวบินคิดเป้นสัดส่วนบินภายในประเทศประมาณ 90% 

 

- BA มีสัดส่วนบินในประเทศประมาณ 70% 

 

- AAV มีสัดส่วนบินในประเทศประมาณ 60% (แต่มีสัดส่วนผู้โดยสารในประเทศมากที่สุดถึงประมาณ 29%) 

 

- ในขณะที่่ THAI ได้รับผลกระทบน้อยสุด เนื่องจากมีเที่ยวบินภายในประเทศเพียง 7% 

 

แต่อย่างไรก็จาม เนื่องจากสายการบิน THAI , BA มีการให้บริการแบบ Full Service จึงมีราคาตั๋วที่หลากหลายหลายระดับ อาจจะตัดลดตั๋วที่มีค่าโดยสายราคาต่ำออก แล้วคงเหลือแต่ค่าตั๋วราคาสูงไว้ ถือว่าเป็นการปรับค่าโดยสารทางอ้อม ดูจากงบฐานะทางการเงิน ยังมีหุ้นบางตัวที่ฐานะการเงินยังไม่ค่อยแข็งแกร่งดีนัก ประกอบกับมีความเสี่ยงที่จะถูกถอนใบอนุญาติ AOC ได้

 

แม้ว่าจะมีการปรับขึ้นค่าภาษีสรรพสามิตจะส่งผลให้ต้นทุนน้ำมันในปีนี้ปรับตัวสูงขึ้น  แต่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวถือเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ยังไงก็ตามภาครัฐยังคงสนับสนุนการท่องเที่ยวทางด้านอื่น ๆ เช่น มาตรการยกเว้นหรือลดค่าธรรมเนียมการทำวีซ่าตรวจคนเข้าเมือง ในช่วงธันวา 59 - กุมภา 60 และมีแนวโน้มจะต่อมาตรการต่อไป 

 

 

ขอบคุณแหล่งข่าวและข้อมูล : มติชนออนไลน์, บทวิเคราะห์ MayBank KimEng กับ Phillip Capital

 


stock-news