ห้องเม่าปีกเหล็ก

คิดเป็น เห็นก่อน

โดย ชัจจ์ปัณฑ์
เผยแพร่ :
62 views

พญากระทิง…มาเปิดศักราชปี 2561

ตลาดหุ้นไทยเปิดศักราชใหม่ปี 2561 ได้อย่างสวยสดงดงามเลยทีเดียว ซึ่งตลาดมีการขับเคลื่อนเดินหน้าต่อเนื่องจากช่วงปลายปี 60 โดยหุ้นแทบทุกกลุ่มพาเหรดกันปรับตัวดีขึ้นจากความเชื่อมั่นของนักลงทุน ที่ซื้อขายกันอย่างคึกคัก แรงกดดันจากการขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติที่ขายออกมาก่อนเมื่อปีที่แล้วดูลดน้อยลงมาก แถมยังมีการซื้อหุ้นกลับในช่วงก่อนตลาดหยุดเสียด้วยซ้ำ ภาพที่เห็นจึงไม่น่าแปลกใจที่เปิดตลาดมาแรงซื้อหุ้นของนักลงทุนจึงมีเข้ามามากมาย

หุ้นกลุ่มที่ดูเป็นแกนหลักคงหนีไม่พ้นกลุ่มพลังงาน และที่เกี่ยวข้องได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ล่าสุดขึ้นมาแตะระดับ 60 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรลไปแล้ว สูงสุดในรอบกว่า 2 ปี อย่างพี่ใหญ่ PTT PTTEP PTTGC ส่วนกลุ่มพลังงานประเภทโรงไฟฟ้าที่ยังร้อนแรงได้ต่อเนื่องจากปีก่อนเช่นกันโดยเฉพาะโรงไฟฟ้าที่เพิ่งเข้าตลาดกันมาไม่นาน ทั้ง GULF BGRIM GPSC BCPG ซึ่งในปีต้องเป็นที่สนใจของนักลงทุนแน่นอน เพราะเมื่อ ความต้องการใช้พลังงานที่ยังคงสูงขึ้นอยู่ทุกปี

กลุ่มแบงก์ก็เป็นอีกกลุ่มที่มองว่าปีนี้น่าจะเป็นรอบของการกลับมาของหุ้นกลุ่มนี้ หลังทิศทางแนวโน้มดอกเบี้ยที่กลับมาเป็นขาขึ้นแน่นอนแล้วหลัง เฟด มีการขึ้นดอกเบี้ยถึง 3 ครั้งเมื่อปีที่แล้ว และคาดว่าจะขึ้นอีก 3 ครั้งในปีนี้ การขยายตัวของสินเชื่อที่จะเพิ่มขึ้นจากการเร่งรัดลงทุนโครงการต่างๆของภาครัฐที่จะเกิดขึ้นอย่างมากในปีนี้ ยิ่งทำให้ผลการดำเนินงานของกลุ่มแบงก์ที่เคยดูด้อยลง จะกลับมาฟื้นคืนได้สวยงามในปีนี้ครับ และที่สำคัญกลุ่มแบงก์เป็นหุ้นกลุ่มที่มี พีอี ที่ค่อนข้างต่ำ หากผลกำไรยิ่งออกมาดี พีอี จะยิ่งต่ำลง และเป็นหุ้นที่มีปันผลตอบแทนที่คุ้มค่า เป็นที่สนใจของนักลงทุนมือใหญ่ทั้งกองทุนในประเทศและต่างประเทศ อย่าง KBANK SCB BBL KTB เป็นต้น

กลุ่มรับเหมาก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างที่จะได้ประโยชน์อย่างมาก จากการเดินหน้าโครงการลงทุนด้านคมนาคมและสาธารณูปโภคพื้นฐานของภาครัฐ แม้ในปีที่ผ่านมาการประมูลโครงการต่างๆของภาครัฐจะมีความล่าช้าไปบ้าง แต่ในปีนี้จะเห็นการเร่งประมูลที่เพิ่มขึ้นในรัฐบาลนี้ก่อนที่จะมีรัฐบาลใหม่เข้ามา ปีนี้จึงเป็นปีทองของหุ้นกลุ่มนี้ อย่าง CK STEC ITD UNIQ ที่ล้วนมีงานในมือมากและจะเพิ่มขึ้นได้อีกในปีนี้ด้วยเช่นกัน

กลุ่มส่งออกที่จะพลิกฟื้นจากการส่งออกที่มองกันว่าปีนี้จะมีการขยายตัวได้ ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว แม้จะถูกกดดันจากทิศทางค่าเงินบาทที่ยังแข็งค่าอยู่ก็ตาม สำหรับการหาตลาดใหม่ๆที่เริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดในแถบเพื่อนบ้าน (CLMV) ที่มีมูลค่าการซื้อขายที่เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ช่วยสนับสนุนให้การส่งออกของไทยเราขยายตัวได้ รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจการค้าโลกนำโดยสหรัฐฯ จะเป็นอีกตัวเร่งที่สำคัญให้การส่งออกของไทยดีขึ้น

กลุ่มที่ได้อานิสงค์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศที่คาดว่าปีนี้ GDP จะขยายตัวได้ไม่น้อยกว่า 4% จากปีที่ผ่านมาอย่างกลุ่มค้าปลีก CPALL CPN ROBINS HMPRO รวมถึงกลุ่มการท่องเที่ยวและที่เกี่ยวข้อง ทั้ง AOT MINT CENTEL ERW เหล่านี้เป็นต้น

ดังนั้นการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปี 2561 นี้จะเป็นปีที่จะมีการก้าวเดินไปข้างหน้า เป็นพญากระทิง ด้วยปัจจัยตัวแปรชี้นำในเชิงบวกได้ การเติบโตของเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่คืนกลับมา อย่างไรก็ตามก็ต้องจับตาดูผลกระทบจากปัจจัยอื่นๆที่อาจมีเข้ามาโดยที่เราไม่สามารถควบคุมหรือคาดการณ์ได้ถูกต้องเอาไว้ด้วย ต้องอยู่บนความมีสติ ไม่โลภ จนเกินความสามารถของตัวเอง รู้เขา รู้เรา ตลอดจนคอยสั่งสมเพิ่มพูน พัฒนาการลงทุนให้ดีขึ้นต่อเนื่องตลอดเวลา ก็จะทำให้การลงทุนของเราประสบความสำเร็จได้ดังหวัง แม้ตลาดจะมีความผันผวน แปรปรวนบ้างก็ตาม


ชัจจ์ปัณฑ์