ตลาดไม่น่าจะไปไหน ถ้ายังไม่ได้เซนต์สัญญาการค้าระยะที่ 1 และมีความเป็นไปได้แค่ไหนที่จะได้เซนต์?

ตลาดไม่น่าจะไปไหน ถ้ายังไม่ได้เซ็นต์สัญญาการค้าระยะที่ 1 และมีความเป็นไปได้แค่ไหนที่จะได้เซ็นต์?

การเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาที่ว่าตกลงกันได้แล้วเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ปี พ.ศ 2562 และมีแผนที่จะเซ็นต์สัญญากันระหว่างวันที่ 16 - 17 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2562 แล้วในที่สุดก็มีการเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกําหนดนั้น

ประเด็นอยู่ที่ว่า ถ้าใครยอมใครก็แสดงว่าประเทศตัวเองจะต้องตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศฝ่ายตรงกันข้ามทันที เพราะฉะนั้น ต่างฝ่ายต่างก็พยายามหาทางที่จะรักษาผลประโยชน์ของประเทศตัวเองไม่ให้ตกเป็นประเทศเมืองขึ้นของอีกฝ่ายหนึ่งอย่างเต็มที่ และผู้โพสต์คาดว่าถ้าการเจรจาการค้าระยะที่ 1 หรือ Phase 1 ยังไม่ได้เซ็นต์สัญญา ตลาดคงไม่น่าจะไปใหนไกล ส่วนการเซ็นต์สัญญาการค้าดังกล่าวข้างต้น ในระยะใกล้คงน่าจะยากเต็มที ส่วนการขัดแย้งกันจนเซ็นต์กันไม่ได้แล้วใช้กําลังทหารสู้รบกัน ก็น่าจะเป็นไปได้ยากเพราะอาวุธยุทโธปกรณ์ของฝ่ายจีนเป็นรองสหรัฐอเมริกาอยู่มาก อย่างไรก็ตาม ถ้าการเจรจาการค้าเป็นไปได้ยาก สงครามที่ใช้อาวุธจริงที่ลุกลามจนกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ก็อาจจะเกิดขึ้นได้ และถ้าเกิดขึ้นแล้ว จีนก็น่าจะเป็นฝ่ายผ้ายแพ้สงครามที่ใช้อาวุธจริงต่อสหรัฐอเมริกาอย่างแน่นอน!

และถ้าเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ก็เป็นอันว่า Down Jones น่าจะปรับตัวไปลงไปที่ 12,660 จุด และ Set Index น่าจะปรับตัวไปลงไปที่ 800 จุด ก่อนที่ฟองสบู่โลกแตกจริงในปี พ.ศ 2564 หล่ะ คร๊าบ พี่น้อง! 

ที่ผู้โพสต์ให้ความเห็นอย่างนี้ หมายความว่าผู้โพสต์จะ Long Set 50 Index Futures เมื่อมีการเซ็นต์สัญญาการค้า ระยะที่ 1 หรือ Phase 1 แล้ว Hold สถานะ Long ไปอีก 1 ปี โดยมีแผนการที่จะไปปิดสถานะ Long Set 50 Index Futures ที่ 3,000 จุด แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้ามีการประกาศสงครามโลกครั้งที่ 3 โดยการใช้อาวุธจริงระหว่างสหรัฐอเมริกา กับจีน ผู้โพสต์ก็จะ Short Set 50 Index Futures แล้ว Hold สถานะ Short ไปอีก 1 ปี โดยมีแผนการที่จะไปปิดสถานะ Short  Set 50 Index Futures ที่ 800 จุด เช่นเดียวกัน

หมายเหตุ : โปรดติดตามการ Long และ Short Set 50 Index Futures ตามการปั่นและทุบหุ้นของทรัมป์ได้ใน longtunbysak.blogspot.com และ Group Facebook

ที่  https://www.facebook.com/groups/2088093934817836/