globalCOAL NEWC ได้ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 98.74 USD Per MT. เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2561โดยสรุปแล้ว globalCOAL NEWC มีความเคลื่อนไหวดังนี้ คือ :
1) ปี พ.ศ 2548 globalCOAL NEWC = 50 USD Per MT.
ขาขึ้นรอบใหญ่ ( 3 ปี )
2) เดือน กรกฎาคม ปี พ.ศ 2551 globalCOAL NEWC = 192 USD Per MT. ( All Time High )
ขาลงรอบใหญ่ ( 8 ปี )
3) เดือน มกราคม ปี พ.ศ 2559 globalCOAL NEWC = 50 USD Per MT.
ขาขึ้นรอบใหญ่ ( 2 ปีครึ่ง ) ?
4) วันที่ 19 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2561 globalCOAL NEWC = 122.89 USD Per MT.
ขาลงรอบเล็ก ( 4 เดือน ? )
5) วันที่ 20 พฤสิกายน ปี พ.ศ 2561 globalCOAL NEWC = 98.74 USD Per MT.
ผู้โพสต์ขอยกกรณีตัวอย่างจากการที่ Egat International Co.,Ltd ที่ได้เข้าไปซื้อหุ้นของ PT Adaro Indonesia ซึ่งทำธุรกิจถ่านหิน 100% และ เป็นบริษัทลูกของ PT Adaro Energy ( AE ) ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นของประเทศอินโดนีเซีย และ เป็นผลทำให้ราคาและมูลค่าหุ้นมีความแปรผันโดยตรงกับ globalCOAL NEWC ดังนี้ คือ :
Egat International Co.,Ltd ซื้อหุ้น PT Adaro Indonesia ที่ globalCOAL NEWC ที่ 50 USD Per MT. ในช่วงต้นปี พ.ศ 2559 และ globalCOAL NEWC เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2561= 98.74 USD Per MT. เพราะฉะนั้น เงินลงทุนของ Egat International Co.,Ltd ก็จะกลายเป็น 98.74 / 50 = 1.9748 เท่า ของมูลค่าที่ซื้อมา
Egat International Co.,Ltd ซื้อหุ้น PT Adaro Indonesia โดยใช้เงินลงทุน 325 ล้าน USD x 33.00 บาท ต่อ USD ( อัตราแลกเปลี่ยน ณ. ตอนนั้น ) = 10,725 ล้าน บาท และ ได้สัดส่วนการถือครอง 11.53 % ของหุ้น PT Adaro Indonesia ทั้งหมด เพราะฉะนั้น มูลค่าการถือครองหุ้นของ Egat International Co.,Ltd ใน PT Adaro Indonesia ก็ตกประมาณ 10,725 x 1.9748 = 21,179.73 ล้าน บาท ณ. ราคาเมื่อวันที่ 20 พฤจิกายน ปี พ.ศ 2561 หรือ มีกําไร = ( 21,179.73 - 10,725 ) = +10,454.73 ล้าน บาท
ส่วนมูลค่าตามราคาตลาดของ PT Adaro Indonesia ณ.ตอนที่ Egat International Co.,Ltd เข้าซื้อมีมูลค่า 10,725 / 0.1153 = 93,018 ล้าน บาท และ มูลค่าตามราคาตลาดของ PT Adaro Indonesia ณ. เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2561 เท่ากับ 93,018 x 1.9748 = 183,691.95 ล้าน บาท
สําหรับ The Big Long ในรอบนี้ของ Egat International Co.,Ltd ได้กําไร = +10,454.73 / 33.00 = +361.81 ล้าน USD เทียบกับ The Big Short ของ George Soros เมื่อปี ค.ศ 1992 ที่ได้กําไร +2,000 ล้าน USD และ The Big Big Short ของ John Paulson เมื่อปี ค.ศ 2008 ที่ได้กําไร +15,000 ล้าน USD
หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก ( www.globalcoal.com )
2) โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ ได้ใน longtunbysak.blogspot.com