4 ปั่น

1) คนที่ " ปั่น " : ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

2) สาเหตุของการ " ปั่น " : เพื่อให้ชาวอเมริกันเห็นว่าเป็นประธานาธิบดีที่ทําให้เศรษฐกิจและตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาดี แล้วจะได้รับการเลือกตั้งให้กลับมาดํารงตําแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอีกหนึ่งสมัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรับอเมริกาครั้งต่อไปในวันอังคารแรกของเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ 2563

3) กลยุทธการ " ปั่น " :

3.1) บอกเฟดให้ดําเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย และเป็นปัจจัยที่สําคัญที่สุด 

3.2) เจรจาการค้ากับจีนแบบนิ่มนวล และเป็นปัจจัยสําคัญอันดับสอง

3.3) บอกให้โอเปคไม่ขึ้นราคานํ้ามัน และเป็นปัจจัยสําคัญอันดับสาม

3.4) ทําสงครามการค้ากับจีน แล้วเป็นเหตุให้นักลงทุนที่ไปลงทุนในจีนย้ายฐานการลงทุนมายังประเทศไทย แล้วทําให้ประเทศไทยต้องเริ่งผลักดันโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาท และเขตเศรษฐกิจพิเศษอีอีซี ( EEC ) ซึ่งจะมีผลดีต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างในประเทศไทยโดยรวม และเป็นปัจจัยสําคัญอันดับสี่

4) สิ่งที่ " ปั่น " 

4.1) ปั่นทางตรง : " ปั่นที่ 1 : ตลาดหุ้นดาวโจนส์ " ให้ปรับตัวขึ้นไปอยู่อย่างน้อย 30,000 จุด

4.2)  ปั่นทางอ้อม :

4.2.1) " ปั่นที่ 2 : ตลาดหุ้นไทย " ให้ปรับตัวขึ้นไปอยู่อย่างน้อย 2,471 จุด

4.2.2) " ปั่นที่ 3 : CONS " ให้ปรับตัวขึ้นไปอยู่อย่างน้อย 141 จุด

4.2.3) " ปั่นที่ 4 : STEC " ให้ปรับตัวได้ดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับ " CPALL " ที่ถือว่าเป็นสุดยอดของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า และแบบเติบโตที่ประสบความสําเร็จมากที่สุดในประเทศไทย

หมายเหตุ : 1) สําหรับ STEC และ CPALL นั้น จะใช้จุดตั้งต้นเท่ากันคือ STEC ปิดที่ 20.40 บาท และ CPALL ปิดที่ 68.75 บาท เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561 แล้วจะทําการสรุปผลตอบแทนทุกสิ้นเดือนตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี พ.ศ 2562 ถึงเดือนธันวาคม ปี พ.ศ 2563 

                 2) ผู้โพสต์ขอเรียนชี้แจงเป็นการล่วงหน้าว่า " ผู้โพสต์ไม่มีวัตถุประสงค์อย่างอื่น นอกจากจะเป็นการเปรียบเทียบและนํามาอ้างอิงเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในการลงทุนทั้งสองแบบเท่านั้น "