450 บจ.ตุนเงิน 5 แสนล้าน ธุรกิจฮึดลงทุนฝ่าการเมือง
แกะไส้ในงบดุล 450 บจ.กำสภาพคล่อง 5 แสนล้านบาท เผย “กลุ่มพลังงาน-ไฟฟ้า-วัสดุก่อสร้าง-ค้าปลีก-โรงพยาบาล-โทรคมนาคม” กอดเงินสดมากสุด “ซีไอเอ็มบีไทย” ชี้รอลงทุนหลังการเมืองชัด “ซีพี ออลล์-เบอร์ลี่ ยุคเกอร์-เซ็นทรัล-แม็คโคร” ขยายฐานไม่ยั้ง ส่วนกลุ่ม รพ.ขยับลงทุนต่อเนื่อง
นายนริศ สถาผลเดชา ผู้บริหาร TMB Analytics เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เครื่องยนต์หลักที่เป็นความหวังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 2562 ได้ คือ การลงทุนภาคเอกชน แต่พบว่าช่วง 3 ปีหลัง (2559-2561) บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวน 450 บริษัท ไม่รวมสถาบันการเงิน มีกระแสเงินสดอิสระ หรือสภาพคล่อง (free cash flow) ในระดับสูงมาก เมื่อเทียบย้อนกลับไปช่วง 8 ปีที่ผ่านมา โดยสภาพคล่องปี 2561 อยู่ที่ 4.87 แสนล้านบาท ปี 2560 ที่ 5.48 แสนล้านบาท ปี 2559 ที่ 5.43 แสนล้านบาท
“ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บจ.กำเงินไว้สูงสุดในรอบ 8 ปี โดยคำนวณจากสภาพคล่องที่นั่งทับอยู่ ณ สิ้นปี 2561 ที่ 4.87 แสนล้านบาท แสดงว่า บริษัทไทยกำเงินรอจะลงทุนอยู่ ไม่ใช่เอกชนไทยไม่มีเงินลงทุน มีเงินพร้อมจะลงทุน เพียงแต่จะลงทุนที่ไหน และเมื่อไหร่ ลงทุนในไทยหรือต่างประเทศ โดยปีที่ผ่าน ๆ มาก็มีออกไปลงทุนต่างประเทศ (TDI) ค่อนข้างมาก พอปีที่แล้วเศรษฐกิจไทยกลับมาดี ก็กลับมาลงทุนในประเทศ แต่ตอนนี้การเมืองไม่นิ่ง เลยชะลอไป ไม่ยอมลงทุน”
ทั้งนี้ หากเทียบช่วง 3 ปีล่าสุด กับช่วงย้อนไปตั้งแต่ปี 2552 พบว่า บจ. 450 แห่งดังกล่าว มี free cash flow เพียงแค่ 1.82 แสนล้านบาท โดยปี 2553 มี 2.27 แสนล้านบาท ปี 2554 มี 5 หมื่นล้านบาท ปี 2555 มี 2.62 แสนล้านบาท ปี 2556 มี 1.29 แสนล้านบาท ปี 2557 มี 2.33 แสนล้านบาท และปี 2558 มี 3.88 แสนล้านบาท
Resources สภาพคล่องสูงสุด
นายนริศกล่าวว่า การเก็บ free cash flow ไว้ระดับสูงของ บจ.ดังกล่าว น่าจะเป็นการรอจังหวะเพื่อลงทุนในประเทศ แต่หากการเมืองยังไม่ชัดเจนก็อาจจะไปลงทุนที่อื่น ถ้าคุยกับประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) ของ บจ. จะได้คำตอบว่า สิ่งที่ CFO บจ.ไม่ชอบ คือ การมี free cash flow ค้างอยู่ในงบดุลของบริษัท เพราะถือว่าเป็นการใช้สินทรัพย์อย่างไม่มีประสิทธิภาพ
หากเจาะลงไปในรายเซ็กเตอร์จะพบว่า บจ.กลุ่มธุรกิจ resources (พลังงาน ไฟฟ้า ฯลฯ) อาทิ บมจ.ปตท., บมจ.เอสซีจี, บมจ.บ้านปู, บมจ.ไออาร์พีซี, บมจ.กัลฟ์ เป็นต้น เก็บ free cash flow ไว้ในระดับสูงที่สุด โดยปี 2561 อยู่ที่ 2.57 แสนล้านบาท ปี 2560 อยู่ที่ 3.16 แสนล้านบาท และปี 2559 อยู่ที่ 2.19 แสนล้านบาท
ต่อมาเป็น บจ.กลุ่มธุรกิจ services (บริการ ค้าปลีก โรงพยาบาล ฯลฯ) มีระดับ free cash flow ในปี 2561 ที่ 9.44 หมื่นล้านบาท ปี 2560 อยู่ที่ 9.3 หมื่นล้านบาท และปี 2559 อยู่ที่ 8.77 หมื่นล้านบาท บจ.กลุ่มธุรกิจ technology (เทคโนโลยี สื่อสารโทรคมนาคม ฯลฯ) อาทิ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (AIS), บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC), บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) เป็นต้น มีระดับ free cash flow ปี 2561 ที่ 7.15 หมื่นล้านบาท ปี 2560 มี 2.83 หมื่นล้านบาท
และปี 2559 มี 7.19 หมื่นล้านบาท
การเมืองชัดกดปุ่มลงทุนทันที
นายนริศกล่าวว่า ปีนี้ทาง TMB Analytics ประเมินว่า การลงทุนเอกชนจะขยายตัวได้ 4% แต่หากการเมืองยืดเยื้อ ยังจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ก็คงชะลอตัวมากขึ้น รวมถึงนักลงทุนต่างชาติที่รอลงทุนด้วย จากปีที่แล้วต่างชาติลงทุนโดยตรงในไทย (FDI) สูงถึง 5.3 แสนล้านบาท แต่ปีนี้ชะลอตัว
นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า การลงทุนเอกชนปีนี้ เดิม คาดว่าจะโตได้ 3-4% แต่หากล่าช้าออกไปก็อาจจะต่ำกว่านี้ การที่ บจ.ตุน free cash flow ไว้ในระดับสูงช่วงหลายปีนี้ มองว่าเป็นการตุนไว้เพื่อหาจังหวะลงทุน
ค้าปลีกแท็กทีมขยายธุรกิจไม่ยั้ง
ด้านความเคลื่อนไหวของผู้บริหาร บจ. นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น กล่าวว่า ปีนี้มีแผนจะลงทุนเพิ่ม 1.15-1.2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น เปิดสาขาเพิ่ม 700 สาขา ตั้งเป้าว่าให้ครบ 13,000 สาขาในปี 2564 ขณะเดียวกันจะทุ่มงบฯ 2.4-2.5 พันล้านบาท รีโนเวตและอัพเกรดสาขาต่าง ๆ ให้ทันสมัยขึ้น ส่วนแผนขยายธุรกิจต่างประเทศ อยู่ระหว่างเจรจากับบริษัท เซเว่นอีเลฟเว่น อิงก์ เรื่องสิทธิตั้งสาขาร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในลาว กัมพูชา จะชัดเจนในไตรมาส 2 นี้
นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ กล่าวว่า มีแผนใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ขยายสาขาบิ๊กซีทุกรูปแบบและกลางปีนี้มีแผนจะเปิดห้างบิ๊กซีในรูปแบบไฮเปอร์มาร์เก็ตที่กัมพูชา และลาว คาดว่าภายใน 5 ปีจะขยายบิ๊กซีในซีแอลเอ็มวีได้ไม่ต่ำกว่า 10 สาขา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ บจ.เซ็นทรัลพัฒนา มีแผนลงทุนทั้งในและต่างประเทศช่วงปี 2562-2563 จะเปิด 2 ศูนย์ใหม่ ได้แก่ เซ็นทรัลวิลเลจ และเซ็นทรัลพลาซา อยุธยา ส่วนต่างประเทศอยู่ระหว่างการเตรียมแผนลงทุนในเวียดนาม เดือนมีนาคมที่ผ่านมาเพิ่งเปิดตัวเซ็นทรัล ไอซิตี้ ที่มาเลเซียไป เป็นศูนย์การค้าแห่งแรกในต่างประเทศ
ขณะที่ บมจ.สยามแม็คโคร ผู้ดำเนินธุรกิจค้าส่ง “แม็คโคร” นอกจากจะขยายสาขาในประเทศแล้ว จะขยาย
สาขาต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะลาว เวียดนาม กัมพูชา อินเดีย โดยไตรมาส 1 ปีนี้ เปิดแม็คโคร ที่เสียมเรียบ กัมพูชา และ LOTS Wholesale Solution ที่เมืองนอยดา อินเดีย
กลุ่ม รพ.ยังลงทุนต่อเนื่อง
นายแพทย์เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานกรรมการ บมจ.บางกอก เชน ฮอลปิทอล ผู้บริหารโรงพยาบาลภายใต้แบรนด์เกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เกษมราษฎร์ เวิลด์เมดิคอล และการุญเวช กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจ 3 ปีจากนี้ (2562-2564) บริษัทมีแผนจะลงทุนโรงพยาบาลใหม่อย่างน้อย 4 แห่ง ได้แก่ สระแก้ว เชียงของ จ.เชียงราย ปราจีนบุรี และเวียงจันทน์ ลาว บนพื้นที่ 19 ไร่ งบฯลงทุน 1,330 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ หรือบีดีเอ็มเอส ประกาศเพิ่มแนวรุกธุรกิจนอกโรงพยาบาลมากขึ้น เตรียมงบฯลงทุน 800-1,000 ล้านบาท ปี 2561-2563
ปตท.-บางจากกางแผนลงทุน
กลุ่มพลังงานแม้มีกระแสเงินสดตุนจำนวนมาก แต่ก่อนหน้านี้ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. ได้เตรียมแผนลงทุนปีนี้ 4.5 แสนล้านบาท เป็นการลงทุนของปตท. 1.3 แสนล้านบาท ของทั้งเครือ 3.2 แสนล้านบาท แยกเป็น บมจ.โกลบอล ซินเนอร์ยี่ หรือจีพีเอสซี 1.4 แสนล้านบาท บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ. 6 หมื่นล้านบาท บมจ.โกลบอล เคมิคอล หรือจีซี 5 หมื่นล้านบาท บมจ.ไทยออยล์ 4 หมื่นล้านบาท บมจ.ไออาร์พีซี 3 หมื่นล้านบาท
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น หรือ BCP เปิดแผนธุรกิจ 5 ปี ถึงปี 2565 ว่าจะใช้งบฯลงทุนรวม 1.13 แสนล้านบาท
ยักษ์มือถือเดินหน้าตามแผน
แหล่งข่าวจาก บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) เปิดเผยว่า ดีแทคจะลงทุนหลายด้านตามแผนที่วางไว้ล่วงหน้า โดย สิ้นไตรมาส 1/2562 มีรายการเทียบเท่าเงินสด 12,757 ล้านบาท รายจ่ายเพื่อลงทุนไตรมาส 1/2562 ที่ 4,390 ล้านบาท ทั้งปีจะใช้เงินลงทุน13,000-16,000 ล้านบาท
ขณะที่ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังลงทุนตามแผนเดิมในระดับ 4 หมื่นล้านบาท ไม่รวมการชำระค่าใบอนุญาตใช้คลื่น เช่นเดียวกับเอไอเอสที่ตั้งไว้ใกล้เคียงปีก่อนที่ 20,000-25,000 ล้านบาท
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก