ห้องเม่าปีกเหล็ก

หุ้นแพงที่สุดของโลก

โดย ในหุบเขา
เผยแพร่ :
48 views

หุ้นแพงที่สุดของโลก (วัดด้วย Price/Sales) ขึ้นเอเวอเรสต์ได้…แต่ก็ “ติดดอย” ได้เหมือนกัน

ปลายปีแบบนี้จะเห็นหุ้นบางกลุ่ม “แรงกว่าตลาด” ชัดมาก และสิ่งที่ตามมาคือ Valuation ที่พุ่งขึ้นเร็วกว่าใครเพื่อน

อินโฟกราฟิกนี้ชี้ภาพตรง ๆ ว่า Top 10 หุ้นที่ “แพงสุด” เมื่อเทียบยอดขาย (P/S สูงสุด) มีหน้าตาแบบไหน

รายชื่อ Top 10 P/S สูงสุด

JOBY 294x

ASTS 278x

IONQ 164x

PLTR 99x

INSM 82x

RKLB 55x

NBIS 40x

APP 39x

NET 33x

ALAB 30x

ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ “ตัวเลขสูง” อย่างเดียว แต่อยู่ที่คำถามว่า

ตลาดกำลังจ่ายเงินล่วงหน้าเพื่อ “อนาคตแบบไหน” และบริษัทจะส่งมอบอนาคตนั้นได้จริงหรือไม่

..

 

ทำไม P/S สูงถึง “ไม่ได้น่ากลัวเสมอไป”

P/S = ราคาบริษัทเทียบกับยอดขาย

มันถูกใช้บ่อยกับหุ้นที่

รายได้โตเร็ว

กำไรยังไม่สวย หรือกำลังลงทุนหนัก

ตลาดเชื่อว่าพอ Scale ได้แล้ว margin จะพุ่ง

พูดง่าย ๆ คือ P/S สูง = ตลาดกำลังซื้อ “ความคาดหวัง”

ถ้าคาดหวังถูกต้อง หุ้นมีสิทธิ์ “ขึ้นเขา” ต่อได้

ถ้าคาดหวังผิด หรือแค่ช้ากว่าที่ตลาดฝัน หุ้นสามารถ “ไหลลงหน้าผา” ได้เร็วมาก

สิ่งที่ทำให้ P/S สูง “สมเหตุสมผล” มักมี 3 อย่าง

รายได้โตจริงต่อเนื่อง และคุณภาพรายได้ดี (Recurring / Net retention)

โมเดลธุรกิจมีโอกาสทำกำไรสูงในอนาคต (Operating leverage)

ตลาดใหญ่พอให้เติบโตอีกหลายปี (TAM ไม่ตันเร็ว)

ส่วนสิ่งที่ทำให้ P/S สูง “อันตราย” มักมี 3 อย่างเหมือนกัน

รายได้โตเพราะวัฏจักร/ดีมานด์ชั่วคราว

การแข่งขันทำให้ราคาโดนบีบ margin ไม่มาตามฝัน

เงินสดไหลออกจนต้องเพิ่มทุน/กู้เพิ่ม แล้ว Dilution มากกว่าที่คิด

..

เปรียบเทียบให้เห็นภาพแบบ “ปีนเอเวอเรสต์”

หุ้น P/S สูงเหมือนการปีนเขาสูง

วิวสวย แต่ความเสี่ยงสูง และต้องรู้ “จุดอันตราย” ระหว่างทาง

โซนที่นักลงทุนมักพลาดคือ

ตลาดให้ Valuation แพงขึ้น “ก่อน” ที่กำไรจะมา

พอผลประกอบการออกมา “ดี แต่ไม่พอจะชนะความคาดหวัง” หุ้นก็ลงได้ (sell on expectations)

หรืออีกแบบคือ ข่าวดีออกมาพร้อมกันหมด แล้วกลายเป็น “ขายทำกำไร” เพราะคนถือกำไรเยอะ

ดังนั้น เวลาเจอหุ้น P/S สูง ให้ถามตัวเอง 4 ข้อ

ธุรกิจนี้กำลัง “ชนะ” อยู่จริงไหม หรือแค่ “ดัง”

รายได้ที่โต เป็นรายได้คุณภาพสูงแค่ไหน

เส้นทางไปกำไรต้องใช้เวลา/เงินอีกเท่าไร

ถ้าทุกอย่างดีแต่ “ช้ากว่าคาด 1 ไตรมาส” เรารับ drawdown ได้แค่ไหน

..

อ่านเกม Top 10: ตลาดกำลังจ่ายล่วงหน้าให้ธีมอะไร

กลุ่มนี้สะท้อนธีม “อนาคต” ชัดเจนมาก

JOBY, (eVTOL)

ตลาดกำลังซื้อโลกที่การเดินทางในเมืองเปลี่ยนรูปแบบ แต่โจทย์จริงคือการอนุมัติ กำลังผลิต ความปลอดภัย และ Unit economics

ASTS, RKLB (Space economy)

ASTS คือวิสัยทัศน์ “สื่อสารผ่านดาวเทียมตรงถึงมือถือ” ที่ใหญ่ระดับเปลี่ยนเกม

RKLB คือ “โครงสร้างพื้นฐานการขึ้นสู่อวกาศ” และระบบดาวเทียม/ชิ้นส่วนที่ต่อยอดได้

ทั้งคู่ดีได้มาก แต่ความเสี่ยงคือไทม์ไลน์และการส่งมอบที่ต้องแม่น เพราะตลาดให้ราคาแบบล่วงหน้าไปไกล

IONQ (Quantum)

นี่คือธีมที่ตลาดยอมจ่ายเพื่อความเป็น “เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก” แต่ระยะเวลาการ monetize ยังเป็นคำถามใหญ่ หุ้นแบบนี้มักแกว่งตามความคาดหวังมากกว่าตัวเลขรายไตรมาส

PLTR (AI software platform)

P/S สูงเพราะตลาดเริ่มเชื่อว่า AI platform + สัญญารัฐ/องค์กร จะ scale กำไรได้จริง จุดวัดใจคือความต่อเนื่องของดีลใหญ่ และความสามารถรักษา margin

INSM (Biotech)

Biotech ที่แพงมากไม่แปลก เพราะตลาดตีราคา “โอกาสชนะ” ของ pipeline แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นเกมที่ข่าวเดียวเปลี่ยนทุกอย่างได้

NBIS, APP, NET, ALAB (AI infra / software / growth)

ชุดนี้สะท้อนการจ่ายเพื่อ “การเติบโตคุณภาพ” และการเป็นชิ้นส่วนสำคัญของยุค AI

แต่ P/S สูงจะอยู่ได้ ต้องพิสูจน์ 2 อย่างคือ

โตต่อเนื่อง

กำไร/กระแสเงินสดดีขึ้นจริง ไม่ใช่โตแบบแลกด้วยต้นทุน

..

ทำไม “หุ้นแพง” ถึงลงได้แรง ทั้งที่เรื่องราวยังดี

เพราะความเสี่ยงหลักของหุ้น P/S สูงคือ “ความคาดหวัง” ไม่ใช่ “ข่าวร้าย” เสมอไป

กรณีที่เจอบ่อย

งบออกมาดี แต่ Guidance ไม่แรงพอ

ดีลมา แต่รอบนี้ margin ถูกบีบ

ยอดขายโต แต่ค่าใช้จ่ายโตตาม ทำให้กำไรยังไม่มาตามที่ตลาดเร่งราคาไปแล้ว

สภาพคล่องตลาดเปลี่ยน เงินไหลจาก Growth ไป Value ชั่วคราว หุ้นแพงโดนลดเรตพร้อมกัน

สรุปคือ

เรื่องราวยังดีได้ แต่หุ้นก็ลงได้ หากราคาวันนี้สะท้อนอนาคตไปไกลเกิน

..

กลยุทธ์ลงทุนแบบใช้งานได้จริงกับ “หุ้นแพงระดับเอเวอเรสต์”

แนวคิดหลักคือ แยก “ถือธีม” ออกจาก “เล่นรอบราคา”

โหมดถือธีม (Core)

เหมาะกับคนที่เชื่อโครงสร้างระยะยาว และรับความผันผวนได้

วิธีคิดคือทยอยสะสมเมื่อย่อ ไม่ไล่ตอนพุ่ง และกำหนดสัดส่วนให้ไม่ทำลายพอร์ต

โหมดเล่นรอบ (Tactical)

เหมาะกับหุ้นที่วิ่งแรงและ P/S สูงมาก

โฟกัสจังหวะข่าว งบ Guidance และแรงซื้อขาย

ตั้งแผน “ขายบางส่วน” เมื่อได้กำไร เพื่อกันการกลับตัวแรงแบบไม่ทันตั้งตัว

กติกาสำคัญที่ช่วยไม่ให้ติดดอย

อย่าให้หุ้น P/S สูงเป็นสัดส่วนใหญ่เกินความทนเจ็บของเรา

ถ้าขึ้นเร็วมาก ให้มีแผนลดความเสี่ยงบางส่วน ไม่ต้องขายหมด แต่ต้อง “ล็อกเกม”

จุดตัดขาดทุนต้องมี เพราะหุ้นกลุ่มนี้ลงได้เร็วกว่าเหตุผล

..

บทสรุป: P/S สูง ≠ แย่ แต่ P/S สูง = ต้อง “แม่น” กว่าเดิม

หุ้นแพงระดับนี้ไม่ใช่ของต้องห้าม

มันคือหุ้นที่ตลาดกำลังเดิมพันว่า “อนาคตจะใหญ่กว่าที่คนส่วนใหญ่คิด”

ถ้าอนาคตมาจริง ผลตอบแทนอาจสุดทาง

ถ้าอนาคตมาช้า หรือสะดุดนิดเดียว ก็พร้อมเหวี่ยงแรง

ภาพเอเวอเรสต์สื่อชัดมาก

ขึ้นได้

แต่ต้องไม่ลืมว่า “ลมแรง” และ “ทางชัน” คือของจริง

 

Disclaimer: ข้อมูลเพื่อการศึกษา ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน ผู้ลงทุนควรตัดสินใจด้วยตนเอง และยอมรับความเสี่ยงทุกกรณี

 

 

ที่มาเนื้อหา… หุ้นพอร์ทระเบิด


ในหุบเขา