ห้องเม่าปีกเหล็ก

[บทความดี] เมื่อไรที่คุณควรจะขายหุ้น โดย Jim Rogers

โดย Sakol
เผยแพร่ :
56 views

นักลงทุนระดับโลกอย่าง จิม โรเจอร์ ผู้ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงในโลกของการลงทุน เขาได้รับฉายาว่า "อินเดียน่าโจนส์แห่งวอลสตรีท" ผู้นี้ได้สร้างผลตอบแทนมากกว่า 4,200% ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ด้วยหลักการที่เรียกว่า "สวนกระแส" และไม่นิยมทำตามฝูงชน

หลังจากประสบความสำเร็จและกลายเป็นผู้ร่ำรวยแล้ว เขาก็ได้เดินตามความฝันกับการขับรถรอบโลกและเขียนหนังสือที่กลั่นจากประสบการณ์ของเขา และวันนี้เขาได้ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวในประเทศสิงคโปร์แต่ก็ยังเดินหน้าลงทุนในกลุ่มประเทศเกินใหม่และ frontier markets อย่างเช่น พม่า ลาว และกัมพูชา

 

วันนี้เราได้รับเกียรติจากนักลงทุนอย่างจิม โรเจอร์มาให้สัมภาษณ์ลงนิตยสาร  Truewealth Asian Investment Daily reader ใครอยากอ่านเพิ่มเติมก็คลิ๊กตรงนี้ได้เลยครับ ---> Read Original article

 

- จิม โรเจอร์ กับเรื่องของการขาย -

Kim Iskyan : เรามาพูดถึงเรื่องของการซื้อไปแล้ว และเมื่อไรที่เราควรจะขายสินทรัพย์เหล่านั้นออกไปบ้าง

 

Jim Rogers: สรุปสั้นๆครับ ตอนที่ฝูงชนกำลังบ้าคลั่งครับซึ่งคุณสามารถสัมผัสมันได้ด้วยการสังเกตจากตลาดหุ้น ถ้าคุณอ่านพาดหัวข่าวจากหนังสือพิมพ์ คุณจะเห็นได้ว่าทุกๆ คนกำลังพูดถึงตลาดหุ้นและสิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับมัน หรือบางสิ่งบางอย่างกำลังเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาเหล่านั้น เด็กรุ่นใหม่จะเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ เรากำลังเข้าสู่"ยุคใหม่" เราได้ยินมากี่ครั้งแล้วครับ แทบจะตลอดเลยใช่ไหมครับ นักลงทุนและพาดหัวข่าวชอบคำพูดเหล่านี้มาก ตัวอย่างเช่น ในเรื่องของ Amazon ซึ่งคนเชื่อว่าราคาหุ้นไม่มีวันลง และจะไม่ลง มันจะเป็นเจ้าของโลกใบนี้สักวัน

 

เมื่อคุณได้ยินเรื่องราวประมาณนี้ ผมก็คาดเดาได้เลยว่าคนกำลังนิยมและคิดไปในทิศทางเดียวกันคือเดินไปวอลสตรีทเพื่อซื้อหุ้น Amazon กลับบ้านและบอกว่า "ยุคใหม่" กำลังมาถึงแล้ว โอ้ว! ในประวัติศาสตร์นี้เราพูดถึงคำว่ายุคใหม่มากี่ครั้งแล้ว ผมเองก็รู้สึกแปลกใจจริงๆ

Kim Iskyan : คุณกำลังหมายถึงว่าประวัติศาสตร์อาจจะซ้ำรอย ?

Jim Rogers: ใช่ครับ ถ้าคุณเข้าใจประวัติศาสตร์ คุณจะเป็นนักลงทุนที่เก่งขึ้น เพราะสิ่งที่มันเกิดขึ้นแสดงว่ามันเคยเกิดขึ้นมาก่อน ผมมั่นใจว่าเราทุกคนก็เป็นมนุษย์ธรรมดา พวกเราจะโดนชักนำและมันก็เป็นแบบนั้นมาโดยตลอด

 

แต่คุณก็สามารถเรียนรู้และฝึกฝนได้โดยการเข้าใจในเรื่องพื้นฐานว่าโลกใบนี้ขับเคลื่อนด้วยอะไร และสิ่งที่ดีที่สุดคือการหาเหตุผลว่า ถ้าเราทำสิ่งนี้แล้ว จะเกิดอะไรขึ้นกับสิ่งที่ตามมา เพราะถ้าคุณรู้ถึงผลลัพธ์แล้ว คุณก็จะหลีกเลี่ยงไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก

 

- ทำไมพวกเราถึงดูงี่เง่ามากในอีก 15 ปีถัดจากนี้ -

 

Kim Iskyan : คุณคิดว่าตลาดหุ้นช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ หมายถึงในอีก 10 ปี หรือ 15 ปีข้างหน้า เมื่อเรามองกลับมาแล้วบอกว่า พระเจ้า! พวกเราดูโง่มาก เพราะพวกเราเคยพูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับยุคใหม่

Jim Rogers : ในตลาดหุ้นนิวยอร์คจะมีหุ้นประมาณ 10 หรือ 15 ตัว ที่ให้ผลตอบแทนที่ผ่านมาเหนือกว่าค่าเฉลี่ย พวกมันส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นใหญ่ เช่น Google, Amazon, Apple และอื่นๆ ซึ่งบริษัทเหล่านี้จะอยู่รอดและไปได้ต่อ พวกมันจะมีขนาดใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้น

 

และในบางครั้งพวกมันก็อาจจะไม่ได้ดีอย่างนั้นก็ได้ต่อจากนี้ไป ตัวอย่างเช่น เมื่อเรามองข้อมูลย้อนหลังดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เมื่อ 100 ปีที่แล้ว มันก็มีหุ้นเข้าๆ ออกๆ อยู่ตลอดเวลา ไม่มีอะไรที่อยู่ยงคงกระพัน

ในความเป็นจริง ผมเคยเขียนลงในหนังสือของผมแล้ว ทุกสิ่งต้องมีการเปลี่ยนแปลง เหมือนเมื่อปี 1900 ทุกๆ คนคิดว่าในปี 1900 จะต้องมีนวัตกรรมอะไรใหม่ๆ แน่นอนที่จะนำเราไปสู่ "ยุคใหม่" แต่เมื่อผ่านไป 15 ปี สิ่งที่พวกเขาคิดก็ผิดหมด นี้แหละครับที่ผมบอกว่าทุกๆ สิ่งมีการเปลี่ยนแปลง

 

เช่นเดียวกันครับ ในปี 1955 เราได้ทำอะไรหลายสิ่งลงไปในปีนั้น อีก 15 ปี ถัดมามันก็แตกต่างจากสิ่งที่เราคิดในปี 1900 และสิ่งที่เราได้รับคือประวัติศาสตร์จะคอยสอนคุณตลอด ถ้าคุณอยากเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ คุณต้องเรียนรู้ประวัติศาสตร์

 

------------------------

 

บทความจาก http://www.businessinsider.com


Sakol