ห้องเม่าปีกเหล็ก

WHA เลื่อนไอพีโอ “WHAID” ออกไปอย่างน้อย 2 ปี

โดย Analog
เผยแพร่ :
83 views

WHA เลื่อนไอพีโอ “WHAID”

ออกไปอย่างน้อย 2 ปี

ชี้ไม่กระทบแผนธุรกิจ

มั่นใจปี 68 ออลไทม์ไฮ

.

WHA เลื่อนแผนนำ WHAID เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกไปอย่างน้อย 2 ปี มองสภาวะตลาดหุ้นไม่ปกติ มั่นใจไม่กระทบธุรกิจ พร้อมเดินหน้าขยายนิคม-โลจิสติกส์-โมบิลิตี้-สาธารณูปโภคและพลังงาน-ดิจิทัล หวังทำออลไทม์ไฮเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน

.

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผน IPO ของ WHAID และการปรับโครงสร้างการถือหุ้นใน WHAUP ได้มีการเตรียมการมาระยะเวลาหนึ่ง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาวางแผน และการเตรียมการร่วมกับที่ปรึกษาในด้านต่างๆ มาอย่างรอบคอบในช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทเชื่อมั่นว่าแผน IPO นี้ จะสามารถสร้างประโยชน์ เพิ่มความสามารถในการเติบโต และเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืนในระยะยาว

.

อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์ที่สภาวะตลาดทุนของประเทศไทยมีความผันผวนมากในปัจจุบัน ซึ่งเป็นผลจากทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ ประกอบกับการที่บริษัทได้รับฟังมุมมองและข้อคิดเห็นเพิ่มเติมจากนักวิเคราะห์ นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนรายย่อย และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง หลังจากการประกาศแผน IPO ของ WHAID ก่อนหน้านี้ บริษัทจึงได้ตัดสินใจที่จะชะลอแผน IPO ของ WHAID และการปรับโครงสร้างการถือหุ้นใน WHAUP ออกไปก่อน เพื่อให้การดำเนินธุรกรรมดังกล่าวเกิดประโยชน์สูงสุด และมีความชัดเจนต่อผู้ถือหุ้น

.

โดยบริษัทจะติดตามและประเมินปัจจัยแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง ทั้งสภาวะเศรษฐกิจและแนวโน้มตลาดทุน ความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อตลาดทุนของประเทศไทย ตลอดจนผลการดำเนินงานและโอกาสการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจของบริษัท

.

“หากสภาวะตลาดหุ้นไม่ปกติเราไม่จำเป็นต้องรีบนำ WHAID เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อทุกคนมีความกังวลและมีความเห็นตรงกันให้ชะลอแผนไปก่อน เรารับฟัง ดังนั้นภายในช่วง 2 ปีนี้แผนการทำ IPO ของ WHAID จะไม่เกิดขึ้นแน่นอน แต่จะกลับมาดำเนินการต่อเมื่อไหร่นั้น ตอนนี้เรายังไม่ทราบจริงๆ อย่างไรก็ตาม การเลื่อนแผนนำ WHAID เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ จะไม่กระทบกับการทำธุรกิจของบริษัท เพราะเป็นแผนระยะยาว ทุกกลุ่มธุรกิจยังเติบโตดี”

.

ส่วนกระแสข่าวลือว่าบริษัทมีปัญหาหนี้สินจำนวนมากและมีธนาคารขนาดใหญ่เป็นหนี้นั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะบริษัทมีการกู้ธนาคารน้อยมาก มีสัดส่วนไม่ถึง 20% และธนาคารที่ปรากฏชื่อในข่าว มีสัดส่วนไม่ถึง 5% โดยส่วนใหญ่บริษัทจะเน้นการออกหุ้นกู้มากกว่า

.

ขณะเดียวกันบริษัทไม่ปิดโอกาสในการนำหุ้นเข้าเทรดในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเวียดนาม ซึ่งบริษัทมีการทำธุรกิจและตลาดหุ้นของเวียดนามก็เติบโตดี น่าสนใจ

.

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าผลประกอบการในปี 2568 จะทำออลไทม์ไฮสร้างสถิติใหม่เป็นปีที่ 4 ติดต่อกันได้ จากการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยได้วางเป้าหมายของแต่ละธุรกิจ ดังนี้

.

ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ยังเติบโตต่อในฐานะผู้นำในตลาดนิคมอุตสาหกรรมของประเทศไทย และเร่งขยายการเติบโตในประเทศเวียดนาม เพื่อดึงดูดนักลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มดาต้าเซนเตอร์ และกลุ่มสมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น โดยตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนนิคมอุตสาหกรรมและเขตประกอบการอุตสาหกรรมในประเทศไทยและประเทศเวียดนามจากทั้งหมด 15 แห่งเป็น 17 แห่งภายในปี 2568 นอกจากนี้ WHAID ตั้งเป้าที่จะพัฒนาที่ดินอุตสาหกรรมในอีก 5 ปีข้างหน้า เพิ่มอีก 12,700 ไร่ รวมเป็น 88,000 ไร่

.

ล่าสุด WHAID ประกาศเดินหน้าโครงการนิคมอุตสาหกรรม WHA Eastern Seaboard Industrial Estate 5 (WHA ESIE 5) เฟสที่ 1 บนพื้นที่กว่า 4,000 ไร่ ในพื้นที่อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง พร้อมให้นักลงทุนเริ่มเข้าก่อสร้างได้ปลายปี 2568 โดยมุ่งเน้นรองรับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สินค้าอุปโภคบริโภค อุตสาหกรรมสมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า อุตสาหกรรมดาต้าเซนเตอร์ ซึ่งจะช่วยผลักดันประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมแห่งอนาคตระดับโลก

.

อีกทั้งช่วง 2 เดือนของปี 2568 (ม.ค. -ก.พ.) เป็นช่วงที่ดีมาก โดยไตรมาส 1/68 จะมีการรับรู้รายได้จากการโอนที่ดินให้ลูกค้ารายใหญ่ประมาณ 400 ไร่ และบริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้ารายใหญ่ซึ่งต้องการที่ดินใน WHA ESIE 5 จำนวน 600-700 ไร่ รวมถึงยังมีที่ดินรอเซ็นสัญญาซื้อขาย (LOI) เป็นพันๆ ไร่ ดังนั้นจึงคาดว่ายอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในปี 2568 จะมีทิศทางที่ต่อเนื่อง

.

สำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ เตรียมขยายธุรกิจโลจิสติกส์ทั้งในไทยและเวียดนาม โดยมุ่งเน้นพื้นที่ยุทธศาสตร์ เช่น สมุทรปราการ EEC และเมืองรองของประเทศไทย รวมทั้งขยายคลังสินค้าขนาดใหญ่ในเวียดนามเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซและอุตสาหกรรมส่งออก ตั้งเป้าสร้างโครงการใหม่ประมาณ 200,000 ตารางเมตร ภายในปี 2568 ซึ่งจะทำให้สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการเพิ่มเป็นประมาณ 3,309,000 ตารางเมตร และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 4,297,000 ตารางเมตร ในอีก 5 ปีข้างหน้า

.

นอกจากนี้ สำหรับ บริษัท ดับบลิวเอชเอ จีซี โลจิสติกส์ จำกัด (WGCL) มุ่งเป้าสู่การยกระดับจากการให้บริการการจัดการขนส่งและคลังสินค้า (3PL) ไปสู่การวางแผน ออกแบบ และบูรณาการระบบโลจิสติกส์อย่างครบวงจร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้กับบริษัทและลูกค้า (4PL) โดยอาศัยจุดแข็งและความเชี่ยวชาญร่วมของ WHA และ PTTGC เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในธุรกิจโลจิสติกส์

.

ส่วนธุรกิจโมบิลิตี้ (ภายใต้แบรนด์ Mobilix) อีกหนึ่งธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ซึ่งในปัจจุบันประกอบไปด้วย 3 บริการหลัก ได้แก่ บริการให้เช่ารถยนต์ไฟฟ้า (EV Rental Service) บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (On Premise & Public EV Charging Solution) และโมบิลิกส์ซอฟต์แวร์โซลูชัน (Mobilix Software Solution) ซึ่งมุ่งเน้นการให้บริการกลุ่มลูกค้า B2B โดยตั้งเป้าจำนวนผู้ใช้บริการรถเช่าสะสมจำนวน 1,700 คันภายในปี 2568 และเป็น 20,000 คัน ภายในปี 2572

.

ขณะที่ธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน สำหรับธุรกิจสาธารณูปโภค มุ่งขยายธุรกิจน้ำอุตสาหกรรมและบำบัดน้ำเสียทั้งในประเทศไทยและประเทศเวียดนาม โดยจะเดินหน้าพัฒนา Smart Water Solutions เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการ โดยตั้งเป้ายอดจำหน่ายน้ำและบำบัดน้ำเสียรวมประมาณ 173 ล้านลูกบาศก์เมตรภายในปี 2568 และเพิ่มเป็นประมาณ 280 ล้านลูกบาศก์เมตรในปี 2572 สำหรับธุรกิจพลังงาน มุ่งขยายการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนทั้งในประเทศไทยและประเทศเวียดนาม ควบคู่ไปกับการเดินหน้าพัฒนาโซลูชันพลังงานใหม่ โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดเป็น 1,185 เมกะวัตต์ภายในปี 2568 และเพิ่มเป็นประมาณ 1,600 เมกะวัตต์ในปี 2572

.

ด้านธุรกิจดิจิทัล ซึ่งเป็นธุรกิจที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งในการนำเทคโนโลยีต่างๆ เช่น AI และ IoT มาประยุกต์ใช้ในแต่ละธุรกิจภายในกลุ่มบริษัทฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินงาน โดยตั้งเป้าหมายพัฒนา 5 แอปพลิเคชันใหม่ ภายในปี 2568

.

บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการสร้างความเติบโตของธุรกิจ ตลอดจนการสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้น ลูกค้า คู่ค้า และผู้มีส่วนได้เสียในทุกส่วน สอดคล้องกับพันธกิจ “WHA: WE SHAPE THE FUTURE” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับผู้คน สังคม และประเทศไทยต่อไป ซึ่งบริษัทสามารถใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน และการจัดหาแหล่งเงินทุนต่างๆ มาลงทุนตามแผนธุรกิจและงบลงทุน โดยยังคงรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนในระดับต่ำกว่า 1.20 เท่า แม้จะชะลอแผน IPO ของ WHAID

ที่มา..  WealthyThai


Analog