ห้องเม่าปีกเหล็ก

ECGO

โดย Forest
เผยแพร่ :
116 views

 

 

การลงทุนใหม่ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ... EGCO รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวานนี้ (11 ก.ย.) ว่าบริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับบริษัทในเครือ Lotus Infrastructure Partners เมื่อวันที่ 8 ก.ย. เพื่อเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 50% ในพอร์ตโฟลิโอของกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงจำนวน 3 แห่งในสหรัฐฯ หรือเรียกว่า "Compass Portfolio" มีกำลังการผลิตรวม 1,304 เมกะวัตต์ (652 MWe)

 

ประกอบด้วย 3 โครงการ ได้แก่ Marcus Hook Milford และ Dighton ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ (มลรัฐเพนซิลเวเนียและแมสซาชูเซตส์) โดยกำลังการผลิตเพิ่มเติมคิดเป็นประมาณ 10% ของกำลังการผลิตในปัจจุบันของ EGCO

 

…อยู่ติดกับศูนย์กลางของอุปสงค์และมีข้อจำกัดสูงในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ นับเป็นโครงการที่ 3 ของโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ ที่ EGCO ได้เข้าซื้อกิจการ โดยโครงการเหล่านี้ตั้งอยู่ใกล้เมืองฟิลาเดลเฟีย บอสตัน และพรอวิเดนซ์ ซึ่งมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง ขณะเดียวกัน พื้นที่ดังกล่าวมีข้อจำกัดสูงในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่เช่นกัน

 

คาดต้นทุนการลงทุนจะอยู่ที่ 1.4-1.8 หมื่นลบ. หากอิงจากการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ ครั้งก่อน เราเชื่อว่าต้นทุนการลงทุนต่อเมกะวัตต์น่าจะอยู่ในช่วง 0.6-0.8 ล้านดอลลาร์ฯ ดังนั้น ต้นทุนการลงทุนทั้งหมดน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.4-1.8 หมื่นลบ. และด้วยอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (debt to equity) ที่ 3:1 เราคาดว่าการเพิ่มทุนจะอยู่ที่ประมาณ 3.5-4.6 พันลบ. สำหรับการซื้อกิจการในครั้งนี้

 

มีโอกาสเกิด upside 4% ต่อประมาณการกำไรของ EGCO เราประมาณการเบื้องต้นว่ากำไรจะมี upside ประมาณ 4% จากสมมติฐานกำไรปี 2567 ของเราที่ 1.03 หมื่นลบ.จากการซื้อกิจการดังกล่าว ซึ่งยังมี upside ต่อราคาเป้าหมายของเราที่ประมาณ 2-4% โดยอิงจาก IRR ของหุ้นที่คาดการณ์ไว้ที่ 12-15%

 

คงคำแนะนำ “ซื้อ” EGCO จากวัฏจักรอัตราดอกเบี้ยที่อาจแตะระดับสูงสุดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่กำลังทบทวนราคาเป้าหมายของเราที่ 249 บาทอีกครั้ง

 

 

 


Forest