อยากได้หุ้นดี ต้องอ่านบทวิเคราะห์อย่างไร ?

.
บทวิเคราะห์หุ้นของโบรกเกอร์ จัดเป็นแหล่งข้อมูลชั้นดีแหล่งหนึ่ง ที่นักลงทุนควรติดตาม นอกเหนือจากการอ่านแบบ 56-1 (รายงานประจำปี) หรือ ผลประกอบการของกิจการ
.
เพราะบทวิเคราะห์มีข้อมูลที่อัพเดท ทันเหตุการณ์ มีส่วนข้อมูลที่เป็นเรื่องราวล่าสุด และส่วนที่เป็นการประเมินมูลค่าหุ้น ซึ่งจัดทำโดยนักวิเคราะห์มืออาชีพ ที่สำคัญ บทวิเคราะห์มีให้เลือกมากมายหลายประเภท เช่น บทวิเคราะห์หุ้นรายตัว, บทวิเคราะห์รายอุตสาหกรรม หรือบทวิเคราะห์ทางเทคนิค เป็นต้น
.
จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่เมื่อเราอ่านบทวิเคราะห์เกี่ยวกับอะไรสักอย่าง จึงมักมีข้อมูลเยอะแยะเต็มไปหมด ทำให้นักลงทุนมือใหม่หลายคน อาจจะจับจุดในการอ่านบทวิเคราะห์ไม่ถูก ว่าควรเน้นจุดไหนเป็นพิเศษ
.
ดังนั้น วันนี้แอดจึงอยากนำเทคนิคดีๆเกี่ยวกับการอ่านบทวิเคราะห์ จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มาแบ่งปันเพื่อนทุกคนให้ลองนำไปปรับใช้ดูกันนะ
.
โดยตลาดหลักทรัพย์ฯระบุว่า การอ่านบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ นักลงทุนอย่างเราๆ ควรโฟกัสข้อมูลหลักๆ 6 ส่วนสำคัญ ดังต่อไปนี้
.
1.สรุปประเด็นสำคัญ : เป็นข้อมูลที่จะอยู่ในส่วนแรกของบทวิเคราะห์ เปรียบเหมือนเป็น"หนังตัวอย่าง" ที่รวมเอาฉากเด็ดของทั้งบทวิเคราะห์ มาสรุปให้อ่านในกรอบครึ่งหน้าแรก
.
2.ผลประกอบการล่าสุด : เป็นข้อมูลที่จะทำให้เราได้เห็นสถานการณ์ปัจจุบันของแต่ละบริษัทว่าเป็นอย่างไร โดยข้อมูลส่วนนี้มักอยู่ในบทวิเคราะห์ที่ออกมาหลังบริษัทประกาศงบการเงินไตรมาสล่าสุดนั่นเอง
.
3.คาดการณ์อนาคต : หลังจากที่นักวิเคราะห์แสดงความเห็นต่อ ผลประกอบการล่าสุด ก็จะฉายภาพอนาคตอันใกล้ เช่น ไตรมาส ถัดไป หรือครึ่งปีถัดไป พร้อมทั้งให้ภาพ Outlook ตลอดทั้งปี ที่เหลือเอาไว้
.
4.ประมาณการความเสี่ยง : คือ ความเสี่ยงหลักที่จะทำให้กิจการไม่สามารถทำผลงานได้ตามที่คาดการณ์คืออะไร นักลงทุนต้องระวัง ความสี่ยงสำคัญอะไรบ้าง ที่จะมีผลต่อประมาณการของหุ้นตัวนั้นๆ
.
5.Dividend Payout : เป็นข้อมูลที่จะอธิบายถึงนโยบายการจ่ายเงินปันผล และแนวโน้มเงินปันผลในงวดถัดไปของบริษัทนั้นๆ
.
6.การประเมินมูลค่าหุ้น : เป็นข้อมูลที่จะอธิบายถึงวิธีที่นักวิเคราะห์ ใช้ประเมินมูลค่าหุ้นในการได้มาซึ่งราคาพื้นฐานที่เหมาะสมนั้นๆ
.
อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์ฯฝากเตือนไว้นิดหนึ่งว่า แม้โบรกเกอร์ผู้จัดทำบทวิเคราะห์จะเป็นมืออาชีพมีใบอนุญาตรับรองถูกต้อง แต่ในบทวิเคราะห์ไม่มีอะไรถูกต้อง 100%
.
ดังนั้น นักลงทุนไม่ควรเชื่อทุกอย่างที่บทวิเคราะห์ให้ข้อมูลไว้ แต่นักลงทุนสามารถนำบทวิเคราะห์หุ้นที่สนใจจากหลายๆ โบรกเกอร์มาอ่าน ทำการตรวจสอบ เปรียบเทียบข้อมูล สมมติฐานในการประเมินมูลค่าหุ้น ระหว่างตัวนักลงทุนเองกับบทวิเคราะห์ตัวนั้นๆ ได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตนเองเป็นอย่างมาก
.
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯทิ้งท้ายว่า อีกเทคนิคที่สำคัญในการอ่านบทวิเคราะห์ที่อยากฝากให้นักลงทุนนำไปใช้ มีด้วยกัน 2 ข้อ ดังต่อไปนี้
.
1.ไม่ควรให้น้ำหนักกับ ราคาเป้าหมาย (Target Price) มากเกินไป : เพราะการประเมินมูลค่าหุ้น เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ซึ่งนักวิเคราะห์จะใส่สมมติฐานประมาณการต่างๆ และคิดคำนวณออกมาเป็นช่วงราคาที่เหมาะสม
.
นักลงทุนจึงควรอ่านส่วนนี้ เพียงเพื่อให้เข้าใจสมมติฐานและวิธีการประเมินมูลค่าว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ ไม่ควรมองไปที่
ผลลัพธ์ราคาเป้าหมายเพียงอย่างเดียว
.
2.ควรให้น้ำหนักกับข้อมูลพัฒนาการต่างๆของกิจการเป็นหลัก ว่ากิจการทำอะไรไปแล้ว กำลังทำอะไรอยู่ และจะทำ อะไรต่อไป ข้อมูลเหล่านี้นักวิเคราะห์จะสรุปมาจากการเข้าพบผู้บริหาร (Analyst Meeting)
.
ซึ่งนักลงทุนรายย่อยทั่วไป จะไม่ไมีโอกาสเข้าพบผู้บริหารใกล้ชิดแบบนักวิเคราะห์ ดังนั้น ข้อมูลเหล่านี้ คือสิ่งที่ดีที่สุดในบทวิเคราะห์ นักลงทุนไม่ควรพลาดที่จะให้ความสำคัญข้อมูลส่วนนี้เด็ดขาด !
.
และทั้งหมดนี้ คือ เทคนิคการอ่านบทวิเคราะห์ เพื่อนำข้อมูลไปต่อยอดเลือกหุ้นที่ดีเข้ามาอยู่ในพอร์ตฯของเราได้อีกวิธีนะ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆทุกคนไม่มากก็น้อยเนอะ วันนี้แอดไปก่อนแล้วเน้อ บ๊าย บายย ....
.
by บ.บูม